Sport for Life

นับวันจะยิ่งยาก ในเอเชียนเกมส์

นับวันจะยิ่งยาก กับเหรียญรางวัล ในเอเชียนเกมส์

คุยเรื่องของมหกรรมกีฬาของคนเอเชียเราอะไรมันจะปังไปกว่า “เอเชียนเกมส์” สำหรับครั้งนี้เกิดในแผ่นดินที่ถือว่า ณ เวลานี้ใหญ่ที่สุดในเอเชียของเราแล้ว เมื่อหลายปีก่อน “เอเชียนเกมส์” เคยไปปักหมุดอยู่ที่ปักกิ่งซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงและเป็นศูนย์กลางของอะไรหลายๆ อย่างที่จะบ่งบอกว่านี่คือ “ประเทศจีน” ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าสมัยบุรุษร่างเล็กนาม “ท่านเติ้ง เสี่ยวผิง” ได้ดูแลประเทศท่านนำพาประชาชนในขณะนั้นก็พันกว่าล้านคนเข้าไปแล้วให้พ้นจากความอดยากยากเข็ญแล้วประเทศที่ได้ชื่อว่า “คนป่วยแห่งเอเชีย” ก็พลิกฟื้นคืนชีพสู่ความมั่งคั่ง ร่ำรวย แล้วก็ “รวยแบบไม่เกรงใจใคร” เสียด้วย ด้วยระบบการทำงานที่เฉียบขาด และเด็ดขาดใครคิดจะคดโกงชาติบ้านเมืองจะต้องเก็บเข้ากรุ ใครที่มีความคิดเห็นแตกกต่างจากที่ “พรรคคอมมิวนิสต์” ตั้งธงไว้ก็ต้องไปหาที่อยู่เอาใหม่… คงจะเป็นแบบนี้กระมังที่ประเทศจีนเขาจึงได้พลิกฟื้นประเทศได้ขนาดนี้…

กับเมือง “Hangzhou” ในอดีตก็คงไม่ได้เอาเป็นเมืองเอกที่มีความสำคัญมากมายแต่อย่างใด แต่ชื่อเมืองนี้ถ้าลองคิดดูชื่อนี้ติดหูเรามานมนานโขอยู่ เพราะ “Hangzhou” กว่าจะได้เป็นเมืองแห่งเอชียนเกมส์คราวนี้เขามีการทำงานสร้างชื่อเสียงมาก่อนหน้าด้วยการรับงานในอีเวนท์ต่างๆ มากมาย ดังนั้นการที่เมืองนี้จะได้เป็นเมืองจุดหมายของมหกรรมกีฬาครั้งนี้ผมว่ามันไม่ยากเย็นอะไร เผลอๆ งานใหญ่ก่อนหน้าเอเชียนเกมส์อาจมีมาก่อนเพียงแต่คนไทยเราไม่ค่อยสดับรับฟังเท่านั้นเอง…

พอจีนประกาศตั้งลงชิงชัยที่เมืองนี้ปุ๊บเมืองที่เหลือคือไก่รองบ่อนแทบทั้งสิ้น ประเทศจีนซะอย่างจะเอาอะไรเป็นได้หมดอยู่แล้วครับ แค่อาสาสมัครที่จะเข้ามาทำงานในทุกส่วนก็มีคนมาสมัครและคัดเลือกกันเป็นเรือนแสนกว่าจะได้อาสาสมัครครั้งนี้ที่เราเห็นกันหน้าจอทีวี และอยากจะบอกว่าทุกคนทำงาน “ฟรี” ครับจากการสอบถามของคณะที่ทำงานใน “THAI HOUSE” เขาบอกว่า “เป็นความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประเทศชาติของเรา” ฟังแล้วจุกอกขึ้นมาในบัดดลร้อนถึง “ยาหอมเพื่อบำรุงหัวใจทันที”…

ทัพนักกีฬาไทยเราจะทำผลงานได้มากน้อยแค่ไหนเพียงไรก็คอยดูกันในวันท้ายๆ ที่มีนักกีฬาของเราทำการแข่งขันแล้วกัน ถือว่าลูกหลานไทยออกไปวาดลวดลายในเอเชียนเกมส์คราวนี้เข้าตาหลายคน บางชนิดกีฬาขอแค่ติดหนึ่งในสามก็หรูแล้ว แต่กลับทำผลงานได้เยี่ยมยุทธเป็นที่สุด…เอางี้ครับเหรียญทองครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานของคราวหน้าติดตามกันต่อไปนะครับ

ครูไก่