Interview

ดร.รณิดา นกไทยเจริญ

ดร.รณิดา นกไทยเจริญ
สยามนกไทย 54
“อะไรไม่ดี จะรับเข้ามาในชีวิตทำไม”

คำสอนของแม่ : หลังจากคุณพ่อจากไป คุณแม่เลือกที่จะขายขนมกุยช่าย หาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง โดยไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอีกเลย ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นแม่อายุยังไม่มาก และใช้วิธีเลี้ยงลูกด้วยการสอนให้เป็นคนดี ประหยัด ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน กตัญญู รู้คุณ มีคุณธรรม ซึ่งแม่จะบอกเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ให้พวกเราฟังอยู่เป็นประจำ แต่แม่ไม่ได้บอกว่า ที่สอนมานั้นให้ทำเพราะอะไร แต่สอน และปลูกฝังให้เราเป็นแบบนั้นไปเลย เพราะแม่เป็นคนไม่หวังผลประโยชน์อะไร จนบางครั้ง คนที่แข็งแกร่งกว่าก็จ้องเอาเปรียบ แต่ท่านอยากให้พวกเราเป็นคนดี จะได้ไม่โดนใครมาว่า ห้ามไปเอาเปรียบใคร ห้ามยืมเงิน ห้ามไปรบกวนคนอื่น แม่ขี้เกรงใจคน สอนเสมอว่า “ไม่มี ให้อด” ถ้าอยากได้อะไร ถ้าไม่มีเงิน ต้องอด ให้เก็บเงินเอง ห้ามรบกวนพี่น้อง ห้ามรบกวนใคร ห้ามไปหยิบยืมคนอื่นให้เขาดูถูก ไปบ้านใครก็อย่าไปยืนดูเขากินข้าว อย่าไปอยากได้ของของใคร แม่สอนจนทุกวันนี้พี่น้องไม่ยืมเงินกัน (หัวเราะ) ทำธุรกิจจะเป็นอย่างไรก็ไม่เคยปริปาก สู้เอง หาเอง บทสรุปของคำสอนคุณแม่ก็คือ สอนให้เป็นดี ประกอบกับเราเอง รู้จักคิด ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย ทำให้เป็นองค์ประกอบของตัวเรา พอวันนึงไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหน พอเราไม่โลภ รู้จักปรับตัว ยังไงชีวิตก็อยู่รอดได้ จนมาคิดได้ว่า เรานี่โง่เอง (หัวเราะ) อะไรที่ไม่ดี จะรับเข้ามาในชีวิตทำไม บางเหตุการณ์ในชีวิต รู้สึกว่าเราอดทนมากจนเกินไป เพราะคำสอนแม่ที่ว่า ชีวิตต้องอดทน อดทน และ อดทน ตอนคิดขึ้นได้ว่า ถ้ามีเรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิต เราเลือกที่จะไม่รับได้ ยังโทรกลับไปบ่นกับแม่เลยว่า อะไรที่ไม่ดี ก็จะไม่ทนแล้วนะ (หัวเราะ)

แม่ค้า : พอจบ ม.3 สตรีวัดอัปสรสวรรค์ ปากน้ำ ตั้งแต่อายุ 15 ก็ไปทำงานร้านขายของที่ระลึก ส่งตัวเองเรียน ไม่ได้ขอแม่เลยสักบาท ไปขายของที่ตลาดน้ำวัดไทร ที่นั่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปกันเยอะมาก ดูแลสินค้าที่มีราคาสูงหลักแสน ตั้งแต่เมื่อปี 2533 ได้ค่าแรงวันละ 50 บาท สมัยนั้นก็ถือว่าเยอะพอควร เช้าแต่งตัวชุดนักเรียนมาทำงานที่ร้าน แล้วเปลี่ยนเป็นชุดเด็กดอย ขายของจนถึงเกือบเที่ยง ก็เปลี่ยนกลับเป็นชุดนักเรียน ไปเรียนที่บพิตรพิมุข มหาเมฆ เอกภาษาจีน เพื่อน ๆ ก็สงสัยว่า ทำไมถึงพูดภาษาอังกฤษได้ ทั้งนี้ก็เพราะเราทำงานต้องเจอกับชาวต่างชาติทุกวัน เรื่องการทักทาย ชักชวนให้มาซื้อ ต่อรองราคา จึงเป็นสิ่งที่คุ้นชิน ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นคนช่างสังเกต บางคนบอกว่าเราเป็นคนละเอียดมาก เพราะนั่นคือประสบการณ์ชีวิต และได้นำมาใช้กับการทำงาน

เส้นทางชีวิต : ตอนเด็ก ๆ อยากเป็นผู้ชาย (หัวเราะ) อะไรห้าว ๆ เพื่อน ๆ เขาทำอะไรกัน เราทำได้หมด เคยรับจ้างปีนหลังคาเก็บแมว รับจ้างซักผ้า ล้างห้องน้ำ เลี้ยงเด็ก ดูแลคนแก่ แล้วแต่ว่าใครจ้างให้ทำอะไร เราเป็นเด็กฝั่งธนฯ แถวบ้านน้ำไม่ค่อยไหลอยู่บ่อย ๆ เราหอบเสื้อผ้าไปซักในคลองเลย กระโดดน้ำ ตีลังกาลงมาจากสะพาน ลอยคอเกาะห่วงยางในรถบรรทุก เดินขึ้นทางรถไฟกลับบ้าน บิดมอเตอร์ไซด์ ปีนรถสิบล้อ ฯลฯ มีกิจกรรมแบบนี้มาตั้งแต่สิบขวบ แล้วโตมาโดยไม่รู้สึกว่าชีวิตเราแปลกอะไร หรือคิดว่าเรื่องที่ทำเสี่ยงอันตรายตรงไหน เพราะนี่คือสภาพเส้นทางของเรา ที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริง ๆ มันเป็นแบบนี้ ไม่ได้นึกว่านี่คือความลำบาก หรือคือความทุกข์อะไร เพราะเจอแบบนี้มาตลอด นึกย้อนไปแล้วบางครั้งก็รู้สึกว่า บางเรื่องที่ทำ ถ้าเป็นสมัยนี้คงรอดยาก (หัวเราะ) แล้วยังเป็นเด็กไม่อยู่สุข ไฮเปอร์ (หัวเราะ) ถูกสอนมาว่าให้ขยัน อดทน ทำงานตลอดเวลา ส่งตัวเองเรียน จนจบบพิตรพิมุข มหาเมฆ เอกภาษาจีนกลาง แล้วเรียนสวนสุนันทา จากนั้นก็ไปทำงานอีกยาวนานเลย ก่อนจะกลับมาเรียนอีกครั้งที่ ม.กรุงเทพธนบุรี จนจบปริญญาโท ปริญญาเอก

ชื่อเสียงเรื่องสำคัญ : คนมักจะพูดว่า การเป็นคนกตัญญู ซื่อสัตย์ ขยัน บริษัทหรือองค์กรที่ไหนก็พร้อมรับ ตัวตนเราเป็นคนแบบนี้ ไปถึงไหนก็ขยันทุกที่ ซื่อสัตย์ กตัญญู แล้วใครจะเกลียด หน้าที่การงานก็เจริญเติบโต เคยอยู่ในวงการยา เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านผลิตภัณฑ์ ดูแลยาที่รักษาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ มีหน้าที่ต้องไปนำเสนอให้กับร้านค้า โรงพยาบาล ผลงานเรา ทะลุทะลวง (หัวเราะ) ได้รางวัลท้อปเซลส์ อยู่ตลอดเวลา จนก่อนปีน้ำท่วม ได้งานใหม่ พอดีบริษัทเดิมซึ่งขายยาแผนปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย ควบรวมกิจการกัน ก็เป็นโอกาสให้เราได้เจอกับบริษัทใหม่ เป็นธุรกิจขายยาแผนไทย ทำงานตั้งแต่ยอดขายไม่กี่สิบล้าน จนยอดขายสองร้อยกว่าล้าน หน้าที่เราคือดูแลพนักงานขายทั้งประเทศ มีการเก็บเงินสด ซึ่งเราคุ้นชินกับสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ยอดไม่มีตกหล่น ไม่มีการนึกออกนอก “เส้นทางสภาพ” ของตัวเอง ที่ถูกสอนมาให้ ซื่อสัตย์ กตัญญู ขณะที่คนอื่น ๆ ก่อนหน้า อาจอยู่ได้ไม่นานเพราะมีเงินทองล่อใจให้ทำผิดได้ง่าย ยิ่งพอเจ้านายได้ออกไปพบปะกับร้านยาต่าง ๆ เขาก็ได้ยินเสียงสะท้อนว่าเราเป็นคนขยัน เป็นคนดี ซึ่งไม่มีการการันตีจากที่ใด ๆ ต้องออกมาจากปากคนรอบข้าง ที่เขาเห็นว่าดีจริงเท่านั้น

สยามนกไทย 54 : ได้รู้จักหุ้นส่วนชีวิต เขาเป็นนักดนตรีอาชีพแต่เรียนจบทางวิศวะ มีความชำนาญเกี่ยวกับเครื่องจักรกล สมัยเรียนเคยสร้างหุ่นยนต์ส่งเข้าประกวด เป็นนักซ่อม สร้าง เครื่องจักร ชอบคิดค้น ส่วนเราเองเป็นนักขาย นักประชาสัมพันธ์ จึงได้ทดลองทำผลิตภัณฑ์ยาสีฟันขึ้นมาจำหน่าย เขามีสูตรเดิมอยู่แล้ว ส่วนเราก็มีสูตรของเราซึ่งเป็นสายสมุนไพรอยู่แล้ว ได้ลองทำมาเป็นรูปแบบหลอด จนเกิดเป็นธุรกิจของเราเองเต็มตัวเมื่อปี 2558 เป็นคนก่อตั้งเอง จดทะเบียนทุกอย่างเอง เพราะเคยทำงานกับบริษัทใหญ่ ๆ ทำให้รู้ระบบ เข้าใจระเบียบ ทุกอย่างต้องถูกต้อง ขณะที่หากมัวแต่ไปกลัวโน่นกลัวนี่ ชีวิตนี้ก็คงทำอะไรกันไม่ได้

ผลิตภัณฑ์หลากหลาย : เพราะตัวแม่ค้านี่แหล่ะ (หัวเราะ) พอได้ยินเสียงตอบรับกลับมาในทางที่ดี ประกอบตัวเราเคยทำงานร้านยามาก่อน พอไปนำเสนอแล้วเขายอมรับ ขณะที่สินค้าก็ต้องดีจริงด้วย ถึงจะยั่งยืน สิ่งที่ทำให้เราก้าวมาไกล เติบโตได้เร็ว ส่วนนึงมาจากตัวตนและบริบทของทุกคนเอง ตัวตนเราเป็นคนแบบนี้ มีใจให้บริการ ยินดีให้ความช่วยเหลือ ถ้าคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรม ไม่มีคุณธรรม ถึงจะโตเร็วแต่คงไปได้ไม่ไกล แต่ถ้าเราเป็นคนดี จะถูกแรงส่งจากในอดีต ขับเคลื่อนเรา ผลักเรา ส่งเรา จนถึงจุดหมาย

แม่ทัพนักบริหาร : ความรู้ ความสามารถ เรายังมีอีกเยอะ แค่ยังรอทีมที่แข็งแกร่งอยู่ ขณะที่เราเป็นแม่ทัพ ลงสนามรบ บุกลุยไปข้างหน้าไม่เคยกลัว แต่เมื่อหันกลับมา นักรบของเรากลับอยู่ข้างหลังห่างไปไกลลิบ แต่เราก็ยังสู้ได้ ถ้าเรามีทีมดี ๆ หนุนหลังใกล้ชิด คอยส่ง คอยเสริม คงไปได้ไกลกว่านี้เยอะมาก แต่ก็คิดเสมอว่า ชีวิตเราถูกกำหนดมาแล้ว อาจช้าหน่อย แต่ปลอดภัยในเส้นทาง เราเป็นนักบริหารจัดการ ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นวันนี้ การทำบริษัทก็เหมือนการใช้ชีวิตของเรา เพียงแค่คนละบริบท แต่สุดท้ายแล้ว เราคือนักบริหารจากสายเลือด ทำยังไงให้ร่างกายตัวเองไม่สึกหรอ ไม่รู้จักคำว่าอิจฉา ริษยา ใครดีเราก็พูดออกมาตรง ๆ เกิดมามีเรื่องให้คิดเยอะมากแล้ว แต่พอหัวถึงหมอน หลับสนิท เหมือนปิดสวิทช์ได้ แล้วใครมาว่าเจ็บ ๆ ก็รู้สึกเฉย ๆ หรือไม่ก็สวนกลับไปให้เขาได้เจ็บบ้าง (หัวเราะ)

ทุกที่มีปัญหา : ไปทำงานที่ไหน ย่อมมีปัญหาเยอะด้วยกันทั้งนั้น คนรอบข้างมักมาบ่นให้ฟังเสมอว่าชีวิตเขาลำบากอย่างนั้น เจอปัญหาอย่างนี้ ขณะที่เราเป็นผู้หญิงที่ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียว แล้วรู้สึกว่า เราผ่านเรื่องนั้น ๆ ไปได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อเด็ก ๆ เจอมาหมดแล้ว เราไม่มีพ่อ แต่โรงเรียนจะให้ไปพูดเรื่องวันพ่อ ความรู้สึกแบบนั้นเราไม่เคยรู้ว่าเป็นยังไง แม่ก็เป็นคนจีนที่มุ่งมั่นแต่เรื่องค้าขาย ไม่เคยไปรับที่โรงเรียน กลับบ้านเองตั้งแต่ยังเด็ก จนสงสัยว่า ทำไมเราไม่มีญาติบ้าง (หัวเราะ) เพราะแม่เอาแต่กลัว เกรงใจ ไม่ขอความช่วยเหลือใคร ลูก ๆ ก็เลยลำบากไปด้วย (หัวเราะ) แต่ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ก็ผ่านมาได้ อย่าคิดว่าอุปสรรคแค่นี้จะทำให้เราต้องท้อถอย ชอบคิดแบบนี้ ทุกอย่างจึงดูเป็นเรื่องเล็กไปหมด

ชีวิตเรียบง่าย : ความสุขของเราเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แค่ได้ไปเดินซื้อของตามตลาดนัด ก็มีความสุขแล้ว (หัวเราะ) บางครั้งชอบทำเซอร์ไพรซ์ให้กับคนที่ชีวิตเขายากลำบาก อย่างเวลาขับรถ เห็นคนเดินเก็บขยะอยู่ แดดร้อน ๆ เห็นคนขับซาเล้ง ก็ลงไปมอบเงินให้ การได้ช่วยทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นได้บ้าง ถึงแม้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สร้างความสุขให้ทั้งกับผู้รับและเราที่เป็นผู้ให้ เพราะเคยจน เข้าใจในสภาพความลำบากเช่นนี้มาก่อน สมัยเด็ก แม่พาไปศาลเจ้า งานเทกระจาด ผู้คนจะเยอะมาก ช่วงเวลารอ ยังไม่มีคนมาแจก แม่ก็จะบอกว่า คนนั้น คนนี้ ที่เป็นเจ้าของกิจการ ชื่นชมว่าเขาดีนะ พอร่ำรวย มีก็มาแจก ตอนนั้นเราเป็นหนึ่งในนั้นที่รอรับของแจก แล้ววันหนึ่งที่เราพอมีบ้าง ก็อยากจะแบ่งปัน เวลาเกิดเหตุต่าง ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ จะเดินทางไปมอบด้วยตัวเองถึงที่ ทั้งสิ่งของ อาหาร เงินสด ให้กับผู้ที่ประสบภัยต่าง ๆ หรือยากไร้ ขาดแคลน ทำเป็นประจำทุกเดือน ซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง ช่วยอุดหนุนครั้งละสองตัน เพื่อนำมาแจก เมื่อมีจิตคิดดีกับทุกคน สิ่งเดียวที่หวังได้กลับมา คือความสุขจากการเป็นผู้ให้ แล้วหัวใจจะพองโตค่ะ