ปุณณวิชญ์ – สุทธินนท์ นำร่วม ลุ้นแชมป์แรก ‘สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ’
ปุณณวิชญ์ – สุทธินนท์ นำร่วมจบรอบสาม ลุ้นแชมป์แรก ‘สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ’
ปุณณวิชญ์ ฮิรายามา และ สุทธินนท์ ปัญโญ นำร่วมที่สกอร์รวมคนละ 12 อันเดอร์ หลังจบรอบสาม ในรายการ ‘สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ 2023’ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ ระยะ 8,075 หลา พาร์ 72 จังหวัดปราจีนบุรี
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 จากการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนจัดแข่งขันรายการ “สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ 2023” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2566 ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ ระยะ 8,075 หลา พาร์ 72 จังหวัดปราจีนบุรี นับเป็นรายการที่สิบเอ็ดของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ฤดูกาล 2023 ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก
ในการเล่นรอบสาม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โปรนนท์ – สุทธินนท์ ปัญโญ ทำเพิ่ม 3 อันเดอร์ ขณะที่ โปรโนริ – ปุณณวิชญ์ ฮิรายามา ตี 2 อันเดอร์ สกอร์รวมคนละ 12 อันเดอร์ โดยมี วาริษ มั่นธรณ์ ซึ่งทำรอบสาม 3 อันเดอร์ ตามหลัง 2 สโตรกที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์ โดยทั้ง 3 นักกอล์ฟต่างก็กำลังลุ้นแชมป์แรกในออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ โดยที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ผลงานดีสุดของสุทธินนท์คืออันดับ 3 ร่วม ในรายการ สิงห์ คลาสสิก ขณะที่ ปุณณวิชญ์ ซึ่งก่อนนี้ตกรอบทั้ง 2 รายการที่ลงเล่นในทัวร์ในฤดูกาลนี้นั้น เคยทำผลงานดีสุดคือรองแชมป์รายการสิงห์ พัทยา โอเพ่น 2019 ส่วน วาริษ เล่น 3 รายการล่าสุด ติดท็อป 10 ทุกรายการ ซึ่งก็รวมถึงการได้รองแชมป์ รายการ เอดีที-ออลไทยแลนด์ พาร์ทเนอร์ชิพ โทรฟี่ และอันดับ 4 ร่วม รายการสิงห์ ออลไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ
โปรนนท์ – สุทธินนท์ วัย 20 ปี ซึ่งทำ 5 เบอร์ดี้ 1 ดับเบิ้ล กล่าวถึงการลุ้นแชมป์แรกในทัวรกับอีก 18 หลุมสุดท้าย ว่า “ค่อยๆ ตีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ แมตช์นี้ค่อนข้างมั่นใจไดร์ฟเวอร์ มีพลาดบางหลุมนิดหน่อย ไดร์ฟอยู่ก็จะเปิดโอกาสให้ทำสกอร์มากขึ้นครับ” โปรชาวเชียงใหม่ กล่าวพร้อมพูดถึงดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 3 ว่า “ทีช็อตรวบตกน้ำ ตีแอพโพชรไม่ค่อยเข้าเป้า เก็บพัตต์ใกล้ๆ ก็ไม่ลง เป็นทะเลรวมในหลุมเดียวครับ”
ด้าน โปรโนริ – ปุณณวิชญ์ โปรลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่ทำ 5 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ และ 1 ดับเบิ้ลโบกี้ กล่าวว่า เกมโดยรวมรอบสามถือว่าไดร์ฟดี แต่ตีเหล็กไม่ค่อยดีในช่วงรอบหลัง แต่ก็พยายามตีเข้ากลางกรีน ส่วนโอกาสในการลุ้นแชมป์นั้น โปรวัย 27 ปี กล่าวว่า “ถ้าเป็นไปได้อยากได้แชมป์ แต่คงโปรเซสเอาไว้ ตีตามแผนที่เราวางไว้และมีระเบียบกับความคิดตัวเองครับ”
กัมลาส นาเมืองรักษ์ ทำผลงานดีสุดในรอบนี้ที่ 5 อันเดอร์ สกอร์รวม 7 อันเดอร์ อยู่ที่ 4 โดยรอบนี้กัมลาส ทำ 6 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ ส่วน ปาร์ค ชังยู โปรเกาหลีใต้แชมป์รอบมันเดย์ควอลิฟาย อยู่ที่ 5 ร่วม สกอร์รวม 6 อันเดอร์ หลังจากทำเพิ่มอีก 2 อันเดอร์ เช่นเดียวกับ กรวิชญ์ อินมี (71), ปิยะ สว่างอรุณพร (73), ทัตพงศ์ ชุติมาภรณ์ (73) และ ภูมิ ภัทโรพงศ์ (74), กิตติธีร์ ป้อมบุญมี ตี 3 อันเดอร์ จาก 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ สกอร์รวม 4 อันเดอร์ ตามผู้นำ 8 สโตรก เช่นเดียวกับ ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ (72) และพิสิฏฐ์ชัย ทิพย์พงษ์ (75) ส่วนอดีตแชมป์ปี 2019 ธนภัทร พิชัยกุล ทำ 3 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ จบรอบสาม 1 อันเดอร์ 71 สกอร์รวม 2 อันเดอร์ อยู่ที่ 16 เช่นเดียวกับ 7 นักกอล์ฟรวมถึง อมรินทร์ กรัยวิเชียร (69) และธันยากร ครองผา (75) วรุณ เอี่ยมแก้ว (75) อยู่ที่ 24 ร่วม สกอร์รวม 1 อันเดอร์
รายการนี้เป็นรายการที่ 11ของออลไทยแลนด์ฯ 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาทพร้อมคะแนนสะสมโลก (แชมป์รับ 450,000 บาท) รอบสุดท้าย (8 ตุลาคม) ถ่ายทอดสดทางช่อง ทรูสปอร์ต 2 (667) และไลฟ์สตรีมมิ่ง ทางเฟสบุคแฟนเพจและยูทูปของออลไทยแลนด์ฯ เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น.