Special Report

อดัม สกอตต์ ฉลองครบรอบ 20 ปี คว้าชัยพีจีเอทัวร์ครั้งแรก พร้อมมุ่งมั่นล่าแชมป์ต่อ

อดัม สกอตต์ ฉลองครบรอบ 20 ปี คว้าชัยพีจีเอทัวร์ครั้งแรก พร้อมมุ่งมั่นล่าแชมป์ต่อ
โดย Jim McCabe

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ อดัม สกอตต์ ฉลองวันเกิดครบรอบ 21 ปี และดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเขานั่งรถไปตามถนนในย่านลีแธม เซนต์ แอนน์ส ในช่วงรุ่งเช้าวันอังคารของเดือนกรกฎาคม เมื่อ 22 ปีก่อน

ในย่านนั้นมีเมืองแบล็คพูล ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 5 ไมล์ และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คนหนุ่มคนสาวส่วนใหญ่ออกไปท่องราตรี กลับบ้านหลังเที่ยงคืน เมื่อถึงบ้านก็มักนอนยาว

แต่อดัม สกอตต์ มีภารกิจตรงกันข้าม เขาไม่ได้กลับบ้านหลังท่องราตรี เขาเริ่มต้นวันทำงานทันทีเมื่อดวงอาทิตน์ขึ้นพร้อมกับคนทำความสะอาดถนนน

โปรกอล์ฟหนุ่มออสซี่ มีโปรแกรมฝึกซ้อมในเวลา 06.00 น.ที่สนามรอยัล ลีแธม เซนต์ แอนน์ส ร่วมกับไทเกอร์ วูดส์ และสำหรับนักกอล์ฟดาวรุ่งหน้าใหม่ที่มีความฝันอันสดใสในเส้นทางอาชีพนักกอล์ฟ นับว่าคุ้มค่าที่ต้องตื่นมาในเวลา 04.45 น.

ตอนนั้นเป็นการแข่งขันรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ เป้าหมายสูงสุดของนักกอล์ฟ และสกอตต์กับไทเกอร์ ก็ทำงานร่วมกับโค้ช บุช ฮาร์มอน เหมือนกัน การได้ฝึกซ้อมร่วมกันกับไทเกอร์ จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญ

และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยความที่สกอตต์ยังเป็นโปรกอล์ฟหน้าใหม่ และไม่ทราบวิธีเข้าสนามรอยัล ลีแธม เซนต์ แอนน์ส ทางด้านหลังในเวลา 5.30 น. ดังนั้นกว่าหาทางเข้าได้ ก็เลยเวลาเริ่มต้นทีออฟที่ตกลงกันไว้ และสกอตต์ ต้องรีบไปให้ทันไทเกอร์ ในการเล่นหลุมที่สอง

“เขาอายุยังน้อย และจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์” ไทเกอร์ วูดส์ กล่าวถึงอดัม สกอตต์ พร้อมรอยยิ้ม

ผ่านไป 11 ปี สกอตต์ได้รับการขัดเกลา ในวัย 32 ปี เขาคว้าแชมป์ 20 รายการทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลียน โอเพ่น 2009 รายการในดวงใจของเขา และรายการใหญ่ในเวทีพีจีเอทัวร์อย่าง เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ 2004 และทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ 2006

สกอตต์ เป็นนักกอล์ฟที่บุคลิกดี หน้าตาหล่อเหลา มีวงสวิงที่นุ่มนวล ไหลลื่น อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาด มาเกิดขึ้นในรายการเมเจอร์ โปรกอล์ฟชาวออสซี่ลงแข่งรายการเมเจอร์ 45 ครั้ง จบใน 10 อันดับแรกเพียง 7 ครั้ง และไม่ผ่านการตัดตัว 15 ครั้ง

ในการแข่งขันเดอะ มาสเตอร์ส ปี 2011 สกอตต์ปิดฉากรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 67 โดยหลังทำเบอร์ดี้ที่หลุม 16 พาร์ 3 เขาขึ้นนำ 2 ช็อต แต่โดน ชาร์ล ชวาร์ตเซล จากแอฟริกาใต้ ระเบิดฟอร์มเก็บเบอร์ดี้ใน 6 หลุมสุดท้าย แซงคว้าแชมป์ไปครอง

ปีถัดมาในการแข่งขันดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ สกอตต์ออกนำคู่แข่ง 4 สโตรก หลังจบรอบสามด้วยผลงาน 64-67-68 มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้สำเร็จ แต่มาเจอฝันร้าย ตีออกโบกี้ใน 4 หลุมสุดท้ายปิดฉากด้วยสกอร์ 75 เข้าป้ายอันดับสอง รองจากเออร์นี่ เอลส์

“ผมรู้ดีว่าได้ทำโอกาสหลุดลอยไปด้วยมือตัวเอง แต่บางทีผมควรจะมองย้อนกลับไป และคิดในทางบวกด้วย” อดัม สกอตต์ กล่าวหลังจากพลาดโอกาสทอง

ถัดจากนั้นอีก 9 เดือน อดัม สกอตต์ อยู่ในการแข่งขันที่เข้มข้นสูสีในศึกเดอะ มาสเตอร์ส เขาออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ ตามผู้นำ 1 สโตรค แต่หลังจากเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 13, 15 และหลุม 18 ปิดฉากที่สกอร์ 69 ก็ขยับขึ้นเป็นผู้นำ

อย่างไรก็ตาม ภาพความผิดหวังยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก เมื่ออังเคล คาเบรร่า ยิงเบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้ายสกอร์รวมเท่ากับ สกอตต์ ต้องไปดวลเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ โดยในการดวลที่หลุม 18 พาร์ 4 ทั้งคู่เซฟพาร์ จากนั้นย้ายไปตัดสินที่หลุม 10 พาร์ 4 สกอตต์เชื่อใจการอ่านไลของ สตีฟ วิลเลียมส์ แคดดี้ของเขา และพัตต์ระยะ 15 ฟุต เก็บเบอร์ดี้สำเร็จ กลายเป็นนักกอล์ฟชาวออสเตรเลียนคนแรกที่ได้สวมกรีนแจ็คเก็ต

“เป็นวันที่เหลือเชื่อจริงๆ ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ ผมภูมิใจในตัวเอง และทุกคนที่คอยช่วยเหลือผม” โปรกอล์ฟชาวออสซี่กล่าวเปิดใจหลังจากคว้าแชมป์เมเจอร์แรกมาครองได้สำเร็จ

การผ่าน 3 ช่วงเวลาบนเส้นทางสายอาชีพของอดัม สกอตต์ ตั้งแต่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และมาเจอกับความผิดหวังในรายการเมเจอร์ จนมาถึงจุดสูงสุดได้สำเร็จ ตอกย้ำความความเป็นมืออาชีพที่ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและสมศักดิ์ศรี

โดยในวันที่ 1 กันยายน 2023 นี้ จะเป็นวันครบรอบ 20 ปี แห่งชัยชนะครั้งแรกในเวทีพีจีเอทัวร์ ที่เปิดทางหลายอย่างให้กับสกอตต์ ในฐานะนักกอล์ฟได้รับเชิญจากผู้สนับสนุนเข้าร่วมแข่งขันรายการดอยช์ แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ที่บอสตัน เขาสามารถคว้าพีจีเอทัวร์ การ์ด จากการทำผลงานที่น่าประทับใจ ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสไตร่ตรองทบทวนสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง

ปัจจุบัน สกอตต์ในวัย 43 ปี ยังมีความสุขกับการลงแข่งขันกอล์ฟ ขณะที่กีฬาชนิดอื่นอาจเลิกเล่นไปนานแล้ว โดยกล่าวเสริมว่า “ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับกีฬากอล์ฟ”

จากการจัดอันดับโลกนักกอล์ฟชายเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2023 สกอตต์ รั้งอันดับ 39 ของโลก และเป็นหนึ่งในสองนักกอล์ฟในวัยเกิน 40 ที่ติดในท็อป 50 ร่วมกับจัสติน โรส อยู่อันดับ 33 แต่สกอตต์ยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทายมากในการแข่งขันกับบรรดาโปรกอล์ฟหนุ่มอายุน้อยที่ฝีมือดีในปัจจุบัน

โดยในปีนี้ สกอตต์ลงเล่นในพีจีเอทัวร์ เป็นฤดูกาลที่ 20 และผ่านมา 23 ปีแล้วนับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพ “ผมคิดว่าตอนอายุ 20 ปี หรือ 23 ปี คุณไม่สามารถจินตนาการถึงการลงเล่นในอีก 20 ฤดูกาลข้างหน้า หากมีใครถามผมตอนนั้น คงตอบว่าน่าจะเลิกเล่นกอล์ฟอาชีพแล้วในวัยขนาดนี้”

แต่อดัม สกอตต์ ยังคงแข่งขันในพีจีเอทัวร์ ขณะที่เพื่อนหลายคนทั้ง เซอร์จิโอ การ์เซีย, เฮนริก สเตนสัน, เอียน โพลเตอร์, ลี เวสต์วูด และพอล เคซีย์ เลือกไปเล่นกับลิฟ กอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องเงินรางวัล หรือโปรแกรมและรูปแบบการแข่งขันที่เครียดน้อยกว่า

สกอตต์ สามารถไปแข่งขันในลิฟ กอล์ฟ ได้เช่นกัน แต่เขาเลือกพีจีเอทัวร์ โดยให้เหตุผลว่า “มันเหมาะกับผมที่สุดแล้วที่จะอยู่ในพีจีเอทัวร์ต่อไป ผมไม่ต้องการละทิ้งความพยายามตลอดอาชีพเพื่อประสบความสำเร็จในเวทีแห่งนี้ แล้วทิ้งไว้ข้างหลัง”

จนถึงตอนนี้ สกอตต์คว้าแชมป์ทั่วโลกมากกว่า 30 รายการ กวาดเงินรางวัลกว่า 60 ล้านเหรียยญสหรัฐ เฉพาะในพีจีเอทัวร์อย่างเดียว ความต้องการให้เขาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกก็เพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคย และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ความรักและความมุ่งมั่นที่จะลงแข่งขัน

“ผมรักการแข่งขันกอล์ฟ และมีความสุขที่ได้มาอยู่ที่นี่” สกอตต์ กล่าว โดยเจ้าตัวใช้ชีวิตเรียบง่ายในสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรเลียกับมาเรีย ภรรยา และลูกๆ ของพวกเขา ห่างไกลจากโซเซียลมีเดีย และไม่เคยตกเป็นเป้าสายตาของชาวโลก

แม้อายุเลยหลักสี่แล้ว สกอตต์ ยังมีสภาพร่างกายที่ฟิตและมุ่งมั่นกว่าเมื่อตอนอายุ 21 ปี และพยายามจะผ่านประตู รอยัล ลีแธม เซนต์ แอนน์ส

โปรกอล์ฟจากออสเตรเลีย กล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองว่า “ผมคิดว่าผมยังมีเกมการเล่นที่สามารถคว้าแชมป์ได้อีกหลายรายการ ดังนั้นผมจะยังมุ่งมั่นกับการแข่งขันต่อไป ตราบที่ยังรู้สึกแบบนี้”

ภาพ : Getty Images