‘ฮอฟแลนด์’ แรงปลายผงาดเฟดเอ็กซ์คัพ 2023

‘ฮอฟแลนด์’ แรงปลายผงาดเฟดเอ็กซ์คัพ 2023

วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ รู้ดีว่าเขาเล่นกอล์ฟได้เยี่ยมสุดในชีวิตและออกสตาร์ตรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ด้วยการนำ 6 สโตรกในรายการ เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ซึ่งเขาต้องรักษาแฟร์เวย์และกรีน รวมถึงพาร์จำนวนมาก เพื่อความปลอดภัยในการครองรางวัลที่ใหญ่ที่สุดอย่าง เฟดเอ็กซ์คัพ ประจำปี 2023

ซานเดอร์ ชอฟเฟเล นักกอล์ฟอเมริกันทำให้เขาเปลี่ยนแผน

จากนั้น ฮอฟแลนด์ นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากนอร์เวย์กลับทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ฮอฟแลนด์ดูเหมือนไม่สะดุ้งกับการไล่กดดันของ ชอฟเฟเล พร้อมกับการทำเบอร์ดี้มากมายตั้งแต่ต้นจนจบในการเล่นที่ อีสต์เลก ในแอตแลนตา ก่อนจบสองสัปดาห์ที่เขาโชว์ผลงานเยี่ยมที่สุดในชีวิตด้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพพร้อมโบนัส 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เขาจบสกอร์รอบสุดท้าย 7 อันเดอร์พาร์ 63 นับเป็นสกอร์สุดท้ายที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของแชมป์ ทัวร์ แชมเปียนชิพ และคว้าชัยชนะไปครองโดยทิ้งอันดับสองอย่าง ชอฟเฟเล 5 สโตรก

“เกมแพลนของผมคือพยายามเล่นให้น่าเบื่อที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ เล่นให้เหมือนไทเกอร์ในสมัยที่เขาทำสกอร์ 69 หรือ 70 ในรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ และเดินออกจากสนามพร้อมกับชัยชนะ”?ฮอฟแลนด์กล่าว

แต่เมื่อลงไปเล่นจริงๆกลับไม่ใช่กอล์ฟที่น่าเบื่อ ฮอฟแลนด์ จบสกอร์วันสุดท้าย 63 ส่วน ชอฟเฟเล กดมา 62 จากที่นำอยู่ 6 สโตรกก็ตัดมาเหลือ 3 สโตรกในช่วงเก้าหลุมสุดท้าย กระทั่ง ฮอฟแลนด์ ลากพัตต์พาร์ระยะ 25 ฟุตลงไปที่หลุม 14 ซึ่งทำให้เนินเขาที่สูงชันอยู่แล้วสำหรับการปีนป่ายแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการพลิกสถานการณ์ของ ชอฟเฟเล

“สิ่งที่เขาทำในวันนี้มันวิเศษมาก”?ฮอฟแลนด์กล่าว “มันทำให้เกมวันนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดกว่าที่มันควรจะเป็น”

นับเป็นการจบฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ฮอฟแลนด์ ที่คว้าแชมป์แรกในสหรัฐอเมริกาในรายการเมโมเรียล และมาปิดท้ายฤดูกาลด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมสองสัปดาห์ซ้อนจนทำให้เขาคว้าชัยชนะทั้งในรายการ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ ที่โอลิมเปียฟิลด์ และ ทัวร์ แชมเปียนชิ พ ด้วยสกอร์ 36 อันเดอร์พาร์

“มันค่อนข้างจะเหลือเชื่อที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ในตอนนี้”? ฮอฟแลนด์กล่าวหลังรับถ้วยรางวัล เฟดเอ็กซ์คัพ “โดยพื้นฐานแล้วก็คือผมเล่นกอล์ฟได้อย่างยอดเยี่ยมที่ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และมันคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วที่มันเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้พอดี”

ชอฟเฟเลทำให้เขาต้องทำงานหนักขึ้นสำหรับโบนัส 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขายิงธงตั้งแต่หลุมแรก และนำหน้า 3 สโตรกตอนที่เหลือเจ็ดหลุมสุดท้ายโดยที่โมเมนตั้มนั้นเทมาอยูาฝั่งเขา จากนั้น ฮอฟแลนด์ จบความระทึกด้วยการเซฟพาณ์ไกลระยะ 25 ฟุตลงไปที่หลุม 14 และดับความหวังของ ชอฟเฟเล ด้วยเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 10 ฟุตที่หลุม 16

ชอฟเฟเล และ ฮอฟแลนด์ โชว์ผลงานกันได้อย่างสุดยอดในการลงเล่นก๊วนสุดท้ายในวันสุดท้ายที่ล่าช้าไปเกือบ 2 ชั่วโมงเนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนอง โดยสกอร์ที่ดีที่สุดในวันสุดท้ายนอกจากของ 2 คนนี่คือ 65 จากผลงานของนักกอล์ฟที่ไม่มีลุ้นแชมป์

“ผมคิดว่าสกอร์ 62 น่าจะทำให้ผมขยับเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้”?ชอฟเฟเฟกล่าว “เขาเล่นได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถเก็บพัตต์สำคัญได้หมด และที่สำคัญคือเล่นแบบแชมป์”

ฮอฟแลนด์นั้นเป็นมือวางอันดับสองก่อนที่ เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ จะเปิดฉาก นั้นหมายความว่าเขาได้ออกสตาร์ตด้วยการมีสกอร์ตุนอยู่ 8 อันเดอร์พาร์ และ ฮอฟแลนด์ จบสี่วันด้วยการตีเข้ามา 19 อันเดอร์พาร์ 261 ซึ่งเป็นสกอร์เดียวกับที่ ชอฟเฟเล ทำได้ ทว่า ชอฟเฟเล เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการตุนไว้เพียง 3 อันเดอร์เท่านั้นจากการเป็นมือวางอันดับ 15

นับเป็นครั้งที่สองในรอบ 4 ปีที่ไม่มีใครสามารถทำสกอร์ได้ดีกว่า ชอฟเฟเล แต่เขากลับต้องออกจากสนามโดยไม่มีถ้วยรางวัลติดมือไปซึ่งเป็นธรรมชาติของแมตช์ปิดฤดูกาลของซีรีส์ เฟดเอ็กซ์คัพ ซึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วงโพสต์ซีซั่นจะสามารถสร้างความสำเร็จได้มากกว่าใน เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ

“ผมพยายามเชิดหน้าขึ้น” ชอฟเฟเลกล่าว “มันเป็นการแข่งขันที่สนุกมากแม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด ผมทำสกอร์ 62 แต่ปรากฏว่าแพ้ไป 5 ช็อต ซึ่งต้องชื่นชมฮอฟแลนด์ที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมขนพาตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งนี้ เหมือนผลผลิตที่เบ่งบ่นสำหรับทั้งตัวเขาและทีมงาน”

ชอฟเฟเลพยายามทุกอย่างที่เขาทำได้ ตอนค่ำของวันเสาร์เขาออกจาก อีสต์เลกด้วยสถานการณ์ที่ตามหลัง 6 สโตรก ซึ่งเขารู้ดีว่าความหวังเดียวของเขาคือพยายามเร่งกดดันใส่ ฮอฟแลนด์ ให้ได้ในช่วงเก้าหลุมแรก

ชอฟเฟเลจบเก้าหลุมแรกของวันสุดท้ายด้วยสกอร์ 30 ขณะที่ ฮอฟแลนด์ แทบจะกดเบอร์ดี้ได้ใกล้เคียงกันและจบเก้าหลุมแรกด้วยสกอร์ 31 ซึ่งรวมถึงการพัตต์เซฟพาร์สำคัญระยะ 15 ฟุตที่หลุม 2 หลังความล่าช้าเกือบ 2 ชั่วโมงจากพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้พื้นสนามของ อีสต์เลก นุ่มขึ้น

ด้วยสไตล์เยือกเย็นแบบหนุ่มแคลิฟอร์เนียทำให้ ชอฟเฟเล พร้อมที่จะต้อสู้ไม่ว่าราคาต่อรองตอนนั้นจะเป็นอย่างไร

เขาพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 18 ฟุตลงไปที่หลุม 11 พาร์ 3 ตามด้วยเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 12 ฟุตบนกรีนหลุม 12 ที่ตัดช่องว่างเหลือ 3 ช็อตกับอีกเจ็ดหลุมสุดท้ายที่จะต้องดวลกัน

ช่องว่างของทั้งคู่น่าจะแคบว่านี้เมื่อเทียบกับการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ ชอฟเฟเล ในขณะที่ ฮอฟแลนด์ พลาดโอกาสทำเบอร์ดี้ถึงสามครั้งจากระยะไม่เกิน 10 ฟุตในช่วงเก้าหลุมหลัง

การพัตต์สำคัญเกิดขึ้นที่หลุม 14 ซึ่งเป็นหลุมที่ยากสุดของ อีสต์เลก ซึ่ง ฮอฟแลนด์?ตีสั้นเกินไปยังห่างจากธง 100 ฟุต และช็อตต่อมาก็ยังพิตช์สั้นเกินไป ต้องขึ้นมาพัตต์ระยะ 25 ฟุต

ฮอฟแลนด์ พัตต์เซฟพาร์ลงไปซึ่งเขาชูกำปั้นอย่างแข็งแกร่งกว่าทุกพัตต์ที่เขาทำได้ในรอบสุดท้าย จากนั้นไปโชว์เหล็กสั้นขึ้นไปออนระยะ 10 ฟุตที่หลุม 16 เก็บเบอร์ดี้สำเร็จ เมื่อถึงจุดนั้นช่างแกะสลักก็พร้อมจารึกชื่อเขาบนถ้วยรางวัลเฟดเอ็กซ์คัพ

“เมื่อพัตต์นั้นลงไป มันเป็นโมเมนตั้มที่ยิ่งใหญ่จริงๆ การนำ 2 ช็อตกับอีกสี่หลุมที่เหลือย่อมแตกต่างเป็นอย่างมากกับการนำ 3 สโตรก และทีสำคัญคือยังไม่ได้เล่นหลุม 15” ฮอฟแลนด์กล่าวโดยอ้างอิงถึงหลุมพาร์ 3 กลางน้ำ “หลังจากนั้นผมค่อนข้างผ่อนคลายจริงๆ”

เขาปิดทัวร์นาเมนต์ด้วยการทำ 3 เบอร์ดี้ในสามหลุมสุดท้ายพร้อมคว้าแชมป์เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ไปครอง

ทางด้าน วินด์แฮม คลาร์ก แชมป์ยูเอส โอเพ่น จบอันดับสามหลังทำสกอร์รอบสุดท้าย 65 ตามหลังถึง 11 สโตรก แต่ก็ยังเพียงพอที่จะรับโบนัสไปครอง 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ รอรี แมคอิลรอย ที่ทำมา 65 เช่นกันจบอันดับสี่รับโบนัส 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ แพทริก แคนต์เลย์ (66) จบอันดับห้าแต่เพียงผู่เดียว รับไป 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ