อมยิ้มริมกรีน

อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในกีฬากอล์ฟ

อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในกีฬากอล์ฟ
By Karen Palacios-Jansen

ช่วงโควิดที่ผ่านมา ผมเคยเผชิญกับอาการ “หิวกอล์ฟ” จนกระทั่งต้องสั่งซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ฝึกซ้อมกอล์ฟต่าง ๆ มาหวดให้คลายความคิดถึง แล้วเมื่อเริ่มไปสักพัก ก็จินตนาการไปว่า นี่เรากำลังออกรอบอยู่จริง ๆ เล่นเดิมพันราคาสูงอยู่กันก๊วนที่ยอมความกันไม่ได้ ทำให้ต้อง “เข่น” วงกันสักหน่อยให้ได้ระยะสองออน… เท่านั้นแหล่ะครับ… สวิงครั้งต่อไป ที่มีก้านตุ้มถ่วงน้ำหนักอยู่ในมือด้วย เหวี่ยงไปแบบ “ใส่” สุด ๆ ผลลัพธ์ก็คือ… มีความรู้สึกเจ็บแปล๊บเกิดที่แผ่นหลังด้านซ้าย จนต้องทิ้งไม้ซ้อมลงพื้น และรีบหาที่นั่งสำรวจตัวเองอยู่พักใหญ่ นั่นทำให้ผมต้องหยุดซ้อมทันที และรีบไปพบแพทย์ ตรวจอาการแล้วพบว่ากล้ามเนื้อฉีก ถึงแม้จะไม่ร้ายแรง แต่ก็ทำต้องงดแม้กระทั่งจะสวิงลมเบา ๆ แล้วยังต้องรักษาต่อเนื่องกันเป็นปี ๆ กว่าจะกลับมาพอหมุนตัวได้ พร้อมกับอาการ “เข็ด” กลัวการสวิงแบบสุดตัวไปตลอด

ด้วยเหตุนี้จึงได้ลองหาบทความที่เกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บของกีฬากอล์ฟ จนพบว่าคุณ Karen Palacios-Jansen ได้เขียนเอาไว้อย่างน่าสนใจ จึงได้นำบางส่วนมาถ่ายทอดในมุมมองง่าย ๆ ตามนี้ครับ..

…ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา กล่าวถึงปัจจัยหลายประการ ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บจากวงสวิงกอล์ฟ ไว้ว่า

  • ฝึกซ้อมนานเกินไป ฝึกหนักเกินไป
  • กลไกของวงสวิงไม่ดีพอ
  • โอเวอร์สวิง
  • วอร์มอัพกล้ามเนื้อไม่ถูกวิธี
  • ความเค้นจากการหมุนกดอยู่บนกระดูกสันหลัง
  • จับกริปและเซ็ตอัพไม่ถูกต้อง
  • แรงกระทบกระเทือนต่อร่างกายอันเป็นผลมาจากวงสวิงที่ตีได้ไม่ดี

ซึ่งกิจกรรมที่ปฏิบัติผิด ๆ รวม ๆ ดังกล่าว ล้วนส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บในกีฬากอล์ฟที่พบอยู่บ่อยดังนี้

  1. ปวด “หลัง” ประมาณ 75 ถึง 85 เปอร์เซ็นต์ (ของชาวอเมริกัน) จะประสบกับอาการปวดหลังในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในช่วงชีวิตของพวกเขา และตัวเลขอาจสูงกว่านี้ในหมู่นักกอล์ฟ ความเครียดความเค้นในการหมุนของวงสวิง สามารถสร้างแรงกดดันกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อได้มาก ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่านักกอล์ฟใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงในการก้มศีรษะ ทำท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นร้อย ๆ ครั้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่การเล่นกอล์ฟจะทำให้หลังเกิดอาการปวดเมื่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการบาดเจ็บรุนแรงได้ง่าย
    แนวทางแก้ไข : เพื่อให้หลังของคุณแข็งแรงพอสำหรับการเล่นกอล์ฟ ควรเพิ่มการออกกำลังกายที่ช่วยให้เกิดการยืดเหยียดและเสริมความแข็งแรงให้กับแผ่นหลัง
  2. “ข้อศอก” อักเสบ การระคายเคืองและการอักเสบของเนื้อเยื่อเส้นเอ็น พบบ่อยที่สุดบริเวณข้อศอก หรือที่รู้จักกันดีว่า “เทนนิส เอลโบ” เมื่อมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นด้านนอก หากเมื่อมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นด้านใน จะเรียกว่า “กอล์ฟ เอลโบ” ที่แปลกก็คือ นักกอล์ฟส่วนใหญ่ประสบปัญหา “เทนนิส เอลโบ” มากกว่า “กอล์ฟ เอลโบ” ความเสี่ยงของการเกิดเอ็นอักเสบจะเพิ่มขึ้นตามอายุ และจะสูงขึ้นในผู้ที่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เป็นประจำ ซึ่งจะเพิ่มความเครียดให้กับเอ็นที่อ่อนแอ เช่น การตีลูกกอล์ฟ นอกจากนี้ การบาดเจ็บประเภทนี้อาจรุนแรงขึ้นจากวงสวิงที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย
    แนวทางแก้ไข : มุ่งเน้นไปที่การพักให้เส้นเอ็นที่บาดเจ็บได้ฟื้นตัว ลดการอักเสบ ส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และปรับปรุงกลไกการสวิงที่ไม่เหมาะสม ในผู้ป่วยเอ็นอักเสบส่วนใหญ่สามารถหายได้ด้วยการรักษา
  3. ปวด “เข่า” อาจเกิดขึ้นได้จากการสร้างความเค้นความเครียดบนเข่าที่อาจไม่แข็งแรงพอ เพื่อทำให้การหมุนของแกนสะโพกมีความ “นิ่ง” จากจุดเริ่มต้นของวงสวิง การออกแรงกดที่ข้อเข่ามากเกินไป อาจส่งผลให้เส้นเอ็นฉีกขาดได้ ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบอาจประสบปัญหาข้อเข่ามากขึ้นเนื่องจากความเสื่อมของโรค ซึ่งส่งผลให้กระดูกอ่อนของข้อต่อค่อย ๆ สึกหรอเพิ่มขึ้น
    แนวทางแก้ไข : ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ดังนั้นหากมีอาการควรไปพบแพทย์ การยืดกล้ามเนื้อ การพักผ่อน และการประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบสามารถช่วยบรรเทาอาการได้
  4. “เอ็นหัวไหล่” อักเสบ อาจรู้สึกปวดที่ไหล่หรือต้นแขนในระยะต่าง ๆ ของวงสวิงกอล์ฟ หรือหลังการเล่น บางครั้งในช่วงกลางคืนและเมื่อกางแขนขึ้นเหนือศีรษะ การบาดเจ็บที่เอ็นข้อไหล่อาจเกิดได้จากวงสวิงกอล์ฟที่ไม่ดี การตีรากไม้หรือหิน ตีขุดดินจนลึก และจากการใช้งานนานมากเกินไป จนทำให้เกิดแผล, ถุงน้ำกันกระแทกขนาดเล็กบริเวณข้อศอกอักเสบ จนเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด เนื่องจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ของวงสวิง
    แนวทางแก้ไข : มักจะรักษาด้วยยาแก้อักเสบ หรือจำเป็นต้องมีการผ่าตัด, การปรับเปลี่ยนวงสวิงร่วมกับการสร้างความแข็งแรง สามารถบรรเทาอาการและป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติมได้
  5. “ข้อมือ” บาดเจ็บ การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ของการเล่นกอล์ฟและการสวิงอย่างรุนแรง อาจทำให้ข้อมือมีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บ อาการปวดและอาการกดเจ็บบริเวณด้านบนของข้อมือ พบบ่อยเมื่อขึ้นแบ็คสวิงสูงสุดและขณะอิมแพ็ค อาการบาดเจ็บที่ข้อมือ เกี่ยวกับกอล์ฟที่พบได้บ่อยที่สุดคือ เอ็นอักเสบหรือการบวมของเอ็นที่ใช้ในการเคลื่อนไหวข้อมือ
  6. “มือและนิ้ว” บาดเจ็บ อาการคล้ายกันกับที่ข้อมือ เกิดจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ และสวิงรุนแรงโดยทั่วไปอาจทำให้มือและนิ้วมีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บ การบาดเจ็บซ้ำซากหรือการบาดเจ็บรุนแรงเพียงครั้งเดียวที่นิ้วมือ สามารถนำไปสู่สภาวะต่าง ๆ มากมาย เช่น เอ็นอักเสบ กระดูกหักหรือผิดรูป และภาวะอาการอุดตันของหลอดเลือดบริเวณที่ใช้งานซ้ำ ๆ ที่เรียกว่า hypothenar hammer syndrome หรือ HHS
    แนวทางแก้ไข : จับกริฟให้เหมาะสม การหลีกเลี่ยงการตีลูกเป็นเวลานาน และการไม่ตีจากพรมหญ้าเทียมสามารถป้องกันการบาดเจ็บทั้งหมดเหล่านี้ได้
  7. ปวด “คอ” เป็นเรื่องปกติสำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับการบิดร่างกายมากนัก หลังจากสวิงไม้กอล์ฟและตีลูกไม่กี่ชั่วโมง กล้ามเนื้อคออาจกระตุก เกิดอาการเกร็งจนเจ็บปวด
    แนวทางแก้ไข : ป้องกันได้โดยการวอร์มอัพกล้ามเนื้อก่อน พักบ่อยๆ ขณะเล่นหรือฝึกซ้อม และค่อยๆ ออกกำลังให้นานขึ้นในการฝึกซ้อมและเล่น เป้าหมายหลักของโปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับคอ คือการเสริมสร้าง ยืดไหล่และหลังส่วนบน
  8. “เท้าและข้อเท้า” บาดเจ็บ ตลอดวงสวิง ร่างกายทำหน้าที่เหมือนกับเป็น “แส้” เริ่มสะสมพลังงานด้วยการใช้เท้าดันกับพื้น ระหว่างสวิงแต่ละข้างเคลื่อนไหวต่างกัน เท้าหลังต้องยื่นให้ล้ำมากกว่าเท้าหน้า การบาดเจ็บอาจเกิดขึ้นได้เมื่อสูญเสียความสมดุลระหว่างสวิงด้วยกลไกที่ไม่เหมาะสม และเมื่อตีลูกออกจากพื้นผิวที่ไม่เรียบ ข้อเท้าแพลง เอ็นอักเสบที่ข้อเท้าและกระดูกเท้า การอักเสบและแผลพุพองเป็นอาการบาดเจ็บทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะเล่นกอล์ฟ
    แนวทางแก้ไข : การสวมรองเท้ากอล์ฟที่ดีพอ และปรับวงสวิงให้เหมาะสม เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการบาดเจ็บที่เท้าและข้อเท้า
  9. “สะโพก” บาดเจ็บ ข้อต่อสะโพกมักจะเคลื่อนไหวได้ดี สามารถทนต่อแรงกดทับจำนวนมหาศาลได้ แต่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อการบาดเจ็บระหว่างการเล่นกอล์ฟ เนื่องจากวงสวิงเป็นการเคลื่อนไหวที่หมุนและบิดเป็นอย่างมาก ระหว่างสวิง สะโพกต้องรับทั้งแรงดึง งอ ยืด อยู่ซ้ำ ๆ สิ่งนี้ต้องการการควบคุมอย่างมากทั่วทั้งกล้ามเนื้อตะโพกและกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน แรงหมุนและแรงเฉือนเหล่านี้ทำให้เกิดการบาดเจ็บ เช่น การเกร็งของขาหนีบและการบาดเจ็บที่หลังส่วนล่าง
    แนวทางแก้ไข : ข้อต่อสะโพกมีความคล้ายคลึงกับข้อต่อหัวไหล่ ดังนั้นการบาดเจ็บก็คล้ายกันด้วย การวอร์มอัพกล้ามเนื้อก่อนเล่นมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับการเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อรอบข้อสะโพกและเบ้า นักกอล์ฟชื่อดังอย่างแจ็ค นิคลอส และ ปีเตอร์ เจคอบสัน ก็เคยผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกมาแล้ว
  10. “ผิวหนัง” ไหม้ ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และเสี่ยงต่อความเสียหายมากที่สุดขณะเล่นกอล์ฟ การได้รับแสงแดดซ้ำ ๆ อาจทำให้ผิวหนังเสียหาย จนถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ เนื่องจากนักกอล์ฟมักใช้เวลาอยู่กลางแดด 4-5 ชั่วโมง และมักจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน นักกอล์ฟจึงมีแนวโน้มที่จะทำร้ายผิวจากการถูกแดด
    แนวทางแก้ไข : การป้องกันคือ ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป และทาซ้ำบ่อย ๆ ระหว่างออกรอบ สวมหมวก แว่นกันแดด และชุดป้องกัน หากคุณต้องออกแดดเป็นเวลานาน

สรุปโดยรวมก็คือ การป้องกันการบาดเจ็บต่าง ๆ ของนักกอล์ฟที่พบบ่อยที่สุด สามารถทำได้โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ปรับปรุงวงสวิงให้ดีขึ้นกับตัวเอง เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการฝึกซ้อมเป็นเวลานาน วอร์มอัพเป็นประจำทั้งก่อนและหลัง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมหรือลงเล่นในสนาม โดยเฉพาะนักกอล์ฟ ต้องหมั่นยืดเหยียดบ่อย ๆ ทุกทีที่นึกได้ และสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดต้องยึดมั่นคำสอน “เดินสายกลาง” อย่าสุดโต่ง ไม่ว่าจะเรื่องไหน มิเช่นนั้นอาจบาดเจ็บจนอดเล่นยาว ๆ ได้นะครับ

Mr.A

ที่มา : golfchannel.com/article/golf-fitness-magazine/10-common-golf-injuries
โดย : Karen Palacios-Jansen