‘แซก จอห์นสัน’ ชอบที่ การเลือกผู้เล่นไวลด์คาร์ด เป็นงานหิน

‘แซก จอห์นสัน’ ชอบที่ การเลือกผู้เล่นไวลด์คาร์ด เป็นงานหิน

แซก จอห์นสัน ออกมาเปิดเผยว่าเขาอยากให้การเป็นกัปตันทีมรวมดาราสหรัฐอเมริกาชุดสู้ศึกไรเดอร์คัพเป็นงานที่ยากที่สุดในการรวบรวม 12 สุดยอดขุนพลของอเมริกันที่จะไปดวลกับทีมรวมดารายุโรป ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. 2566 ที่จะถึงนี้ที่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

“นั่นหมายความว่า พวเขาเหล่านี้เป็นสุดยอดผู้เล่นของสหรัฐอเมริกา และต้องอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” แซก จอห์นสัน กล่าวระหว่างการแข่งขัน ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิพ หรือ บริติช โอเพ่น

งานของเราเริ่มยากขึ้นเรื่อยอันเนื่องมาจากการแข่งขันระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ

ก่อนหารแข่งขันบริติช โอเพ่น นั้น ไบรอัน ฮาร์แมน อยู่อันดับที่ยี่สิบของตารางคะแนนสะสม แต่หลังจากคว้าแชมป์ที่ รอยัล ลิเวอร์พูล ทำให้อันดับของเขาขยับขึ้นไปอยู่ที่สาม ซึ่งแทบจะแน่นอนแล้ว่าเขาจะเป็น 6 คนแรกที่ติดทีมโดยอัตโนมัติ

วินด์แฮม คลาร์ก อยู่อันดับสามสิบของตารางคะแนนสะสมยูเอสไรเดอร์คัพ แต่หลังจากคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกในศึกเวลล์ส ฟาร์โก แมตช์ชิงเงินรางวัลรวม 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตามด้วยการคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น ทำให้ขยับขึ้นไปอยู่อันดัยสองของตาราง และติดทีมค่อนข้างแน่

สกอตตี เชฟเฟลอร์ นั้นเป็นอเมริกันเพียงคนเดียวที่เมื่อดูจากจัวเลขแล้วมีโอกาสที่จะคว้าสิทธิติดทีมโดยอัตโนมัติ  ส่วนผู้เล่นหน้าใหม่ๆคนอื่นหรือแม้แต่นักกอล์ฟชื่อดังต้องไปลุ้นการเลือกไวลด์คาร์ดโดยสิทธิของกัปตันทีม แซก จอห์นสัน ซึ่งรวมถึง จัสติน โธมัส ที่มีสถิติ 6-2-1 ในการเล่นไรเดอร์คัพ 2 สมัยของเขา แต่การสะสมคะแนน โธมัส หล่นไปอยู่อันดับ  14 ที่ห่างไกลจากความเป็นจริงสำหรับการทีมทีมแบบออโต้

คะแนนสะสมทีมยูเอสไรเดอร์คัพนั้นคำนวณมาจากเงินรางวัลสะสมของพีจีเอทัวร์ นักกอล์ฟแต่ล่ะคนจะได้ 1 คะแนนจากทุกๆ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่ทำได้จากการแข่งขัน และจะเพิ่มเป็น 1.5 คะแนนสำหรับทุกๆ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ จากรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ

ตอนนี้เหลือการสะสมคะแนนเพียง 2 รายการจาก 3 เอ็ม โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ วิลด์แฮม แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

“ระบบการสะสมคะแนนของเราขึ้นอยู่กับเงินรางวัล และเมื่อคุณเพิ่มเงินรางวัล ความผันผวนก็จะเกิดขึ้น” จอห์นสันกล่าว “ผมไม่สามารถนั่งอยู่ที่นี่และสามารถบอกได้ว่า โอ้ สิ่งนี้กำลังจะเกิด สิ่งนั้นกำลังจะเกิด ผมไม่รู้ เนื่องจากคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนักกอล์ฟเหล่านั้น การจบด้วยการติดท็อปเทนสักรายการนั้นมีความสำคัญมาก”

บรูกส์ เคปกา ได้แต่เฝ้าดูไม่ต้องลุ้นอะไรมาก เขาขึ้นไปอยู่อันดับสองจากการคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิพ (หลังจากได้รองแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส) แต่การเป็นผู้เล่นในลีฟกอล์ฟ ทำให้เขาไม่มีรายการในพีจีเอทัวร์เพื่อมาคิดคะแนนสะสมมากนัก และกับผลงานในอีกสองเมเจอร์ ทำให้เขาอยู่อันดับสี่ของตารางคะแนนสะสม

เคปกา นั้นมีเงินรางวัลสะสมมากกว่า ซานเดอร์ ชอฟเฟเล 750,000 เหรียญสหรัฐฯ, มากกว่า แพทริก แคนต์เลย์ 967,000 เหรียญสหรัฐฯ และมากกว่า แม็กซ์ โฮมา 1.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆที่เคยเล่น ไรเดอร์คัพ และ เพรสซิเดนต์คัพ ครั้งหลังสุดและอยู่นอกเกณฑ์ที่จะติดทีมแบบอัตโนมัตื อาทิ คาเมรอน ยัง, จอร์แดน สปีธ, คอลลิน มอริกาวา, แซน เบิร์นส์ และ โทนี ฟิเนา ขณะที่ ริกกี ฟาวเลอร์ อยู่อันดับ 12 ของตาราง