นับถอยหลัง โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
นับถอยหลัง โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
“ลิเดีย โค” ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองกอล์ฟหญิง ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ซิวครบ 3 เหรียญ
โดย Helen Ross
เหลือเวลาอีกปีกว่า ก่อนถึงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งจะมีบรรดานักกอล์ฟที่ดีที่สุด 120 คน เป็นนักกอล์ฟชาย 60 คน นักกอล์ฟหญิง 60 คน มารวมตัวกันเพื่อชิงชัยเหรียญรางวัลที่สนามเลอ กอล์ฟ นาซิอองนาล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ใช้เวลาเดินทางจากพระราชวังแวร์ซาย 15 นาที และสนามแห่งนี้เคยเป็นสังเวียนประชันฝีมือของเหล่าโปรกอล์ฟชั้นนำมาแล้วมากมายในรายการ ไรเดอร์ คัพ 2018 และโอเพ่น เดอ ฟรองซ์ ของเวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์ 28 ครั้ง
กีฬากอล์ฟหวนคืนสู่มหกรรมกีฬาแห่งมนุษยชาติอีกครั้ง ในการจัดโอลิมปิก 2016 ที่กรุงริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล หลังห่างหายไปนาน 112 ปี และไม่ง่ายเลยที่นักกีฬาจะคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ โดยมีการจัดเตรียมเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง สำหรับการชิงชัยที่ฝรั่งเศสในปีหน้าไว้เพียง 5 ชุดสำหรับประเภทบุคคลชาย และ 4 ชุดสำหรับประเภทบุคคลหญิง
ถึงกระนั้น การแข่งขันในช่วงสองสัปดาห์ของเดือนสิงหาคม 2024 อาจเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในวงการกีฬาโลก เนื่องจากนับตั้งแต่มีการแข่งขันมายังไม่เคยมีนักกอล์ฟชายหรือหญิงคนใดที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกได้ครบทั้ง 3 เหรียญ และหากอันดับโลกไม่ลดลงอย่างรวดเร็วในอีก 12 เดือนข้างหน้า ลิเดีย โค โปรกอล์ฟจากนิวซีแลนด์ ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ทำได้ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปารีส
ลิเดีย โค คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอ เดอจาเนโร โดยพ่ายต่อเจ้าของเหรียญทองอย่าง ปาร์ก อินบี จากเกาหลีใต้ 5 สโตรก แม้ว่าสามารถทำโฮลอินวันได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันรอบที่สาม และในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว เธอชวดเหรียญเงินหลังแพ้เพลย์ออฟต่อ โมเนะ อินามิ จากญี่ปุ่น ได้เพียงเหรียญทองแดง โดยทั้งคู่ทำสกอร์เท่ากันในอันดับสองเมื่อจบสี่วัน รองจากเนลลี่ คอร์ด้า โปรกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกา ที่คว้าเหรียญทองไปครอง
โปรกอล์ฟสาวดีกรีแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 19 รายการจากนิวซีแลนด์ ให้สัมภาษณ์ทางเว็บไซต์ Olympics.com เมื่อไม่นานมานี้ว่า การลงแข่งที่ปารีส คือหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเธอในปีหน้า และในขณะที่ลุ้นทำสถิติคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญที่ 3 ติดต่อกัน เป้าหมายสูงสุดของเธอคือเหรียญทอง
นักกอล์ฟวัย 26 ปี กล่าวถึงการแข่งขันกอล์ฟในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ว่า “ที่ปารีสน่าจะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของฉัน แน่นอนว่ามันเป็นอีกหนึ่งปีข้างหน้าต่อจากปีนี้ และในอีก 4 ปีถัดไป ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องการแข่งขันอีกหรือไม่เมื่อเข้าสู่โอลิมปิก 2028 ที่แอลเอ (สนามริเวียร่า คันทรี คลับ)”
ยอดโปรกอล์ฟจากนิวซีแลนด์ กล่าวเสริมอีกว่า “ปารีสคือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจของฉันขณะนี้ และคงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากหากจะบอกว่า คุณได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกครบ 3 เหรียญ หลังจากกีฬากอล์ฟหวนคืนสู่เวทีโอลิมปิกในรอบกว่า 100 ปี หากทำสำเร็จมันคงเจ๋งมากที่สามารถบอกทุกคนได้ว่าฉันมีเหรียญรางวัลโอลิมปิกครบทั้งสามสี”
สำหรับ ลิเดีย โค คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการสร้างประวัติศาสตร์ในวงการกอล์ฟโลก เธอคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ รายการแรกด้วยวัยเพียง 15 ปี และได้แชมป์เมเจอร์แรกในวัย 18 ปี ทั้งสองอย่างเธอสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ เมื่อครั้งขึ้นครองบัลลังก์มือหนึ่งของโลกตอนอายุ 17 ปี เธอก็จารึกประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดในการครองตำแหน่งอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน
ในการแข่งขันกอล์ฟโอลิมปิก ที่สนามเลอ กอล์ฟ นาซิอองนาล ซึ่งออกแบบโดย ฮูเบิร์ต เชสโน และโรเบิร์ต วอน ฮากก์ จะเป็นบททดสอบที่ยากและท้าทาย โดยโปรแกรมกอล์ฟประเภทบุคคลชาย กำหนดชิงชัยระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2024 ขณะที่ประเภทบุคคลหญิง จะแข่งขันระหว่างวันที่ 7-10 สิงหาคม 2024
การคัดเลือกนักกอล์ฟเพื่อเข้าแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส ใช้โอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้งเป็นเกณฑ์ โดยอิงจากคะแนนอันดับโลก เมื่อจบการคัดเลือกในปีหน้า นักกอล์ฟ 15 คนแรกในโอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้ง จะได้สิทธิเล่นที่ปารีส แต่ว่าแต่ละประเทศมีนักกอล์ฟเข้าแข่งขันได้มากที่สุดไม่เกิน 4 คนในแต่ละประเภท (ชาย 4 คน และหญิง 4 คน)
ถัดจาก 15 อันดับแรกในโอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้ง จะมีนักกอล์ฟที่ได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันประเทศละไม่เกิน 2 คน และเป็นนักกอล์ฟจากประเทศที่มีผู้เล่นไม่เกิน 2 ในท็อป 15 โดยปัจจุบัน ลิเดีย โค รั้งอันดับ 3 ของโลก รองจากโค จิน ยอง มืออันดับ 1 จากเกาหลีใต้ และเนลลี่ คอร์ด้า เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ที่ลุ้นคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกอีกสมัยเช่นกัน
โดยเนลลี่ คอร์ด้า เคยให้สัมภาษณ์หลังชนะเลิศเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ผ่านกอล์ฟ ชาแนล ว่า “ฉันตื้นตันใจจนน้ำตาคลอเบ้า มันเหลือเชื่อมาก คุณจะไม่มีวันเข้าใจจนกว่าจะได้ไปอยู่ตรงจุดนั้น เป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งมากเมื่อจบการแข่งขัน เพราะคุณไม่ได้แค่เล่นเพื่อตัวเอง แต่กำลังลงเล่นเพื่อประเทศชาติ มีประวัติศาสตร์มากมายในการแข่งขันโอลิมปิก และการได้เป็นส่วนหนึ่งของโอลิมปิกก็สุดแสนมหัศจรรย์”
ข้ามมาทางฝั่งนักกอล์ฟชาย สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ แชมป์มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ ปี 2022 และเดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ 2023 มีคะแนนนำในอันดับโอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้ง โดยรุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ของพีจีเอทัวร์ ในปี 2020 น่าจะได้ประเดิมแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกในปีหน้า เช่นเดียวกับนักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาอีก 2 คน ที่ปัจจุบันอยู่ใน 6 อันดับแรก นั่นคือ แพทริก แคนท์เลย์ และแม็กซ์ โฮมา หากสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้
ด้านซานเดอร์ ชาฟเฟเล่ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 อยู่ในตำแหน่งที่ดี มีโอกาสได้เข้าไปแข่งขันที่ปารีส เพราะยังเหลือเวลาอีกกว่า 1 ปี โดยมีทัวร์นาเมนท์ใหญ่ระดับเมเจอร์ 6 รายการให้ลุ้นทำคะแนนสะสม เป็น 2 รายการในปี 2023 และ 4 รายการในปี 2024 ก่อนจบการคัดเลือกในปีหน้า
ขณะที่จอน ราห์ม มืออันดับ 2 ของโลก ดีกรีแชมป์มาสเตอร์ส คนล่าสุดจากสเปน หวังได้ร่วมชิงชัยในโอลิมปิกครั้งแรกที่กรุงปารีสเช่นกัน หลังจากต้องถอนตัวจากการแข่งขันโตเกียว เกมส์ ซึ่งเลื่อนมาจัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 จากการแพร่ระบาดของโควิด เนื่องจากเจ้าตัวติดเชื้อโควิด-19 รอบที่สอง
รอรี่ แม็กอิลรอย ยอดโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือ ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ในโอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้ง เป็น 1 ใน 7 นักกอล์ฟที่ดวลเพลย์ออฟเพื่อคว้าเหรียญทองแดง ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว และเป็น ซี.ที. ปัน จากไต้หวันที่ชนะไป โดยตอนนั้น แม็คอิลรอย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรในโอลิมปิก แต่การลงเล่นในนามตัวแทนประเทศมีผลกับตัวเขาอย่างมาก
โปรกอล์ฟวัย 34 ปีจากไอร์แลนด์เหนือ กล่าวหลังชวดเหรียญทองแดงที่โตเกียวว่า “สิ่งนี้ทำให้ผมมีความมุ่งมั่นมากขึ้นที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่ปารีส และพยายามคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้ ผมผิดหวังที่ออกจากโตเกียวแบบไร้เหรียญติดมือ เพราะผมพยายามสู้สุดชีวิตแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อจบอันดับสาม แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม การได้มีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัล ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากที่ผมคาดหวัง และผมก็มองไปถึงการแข่งขันในอีก 3 ปีข้างหน้า และพยายามจะทำให้ดีกว่าเดิมอย่างน้อย 1 อันดับ แต่หวังว่าจะเป็น 3 อันดับจะดีกว่า”
แม็คอิลรอย ยอมรับว่าความผิดหวังจากโอลิมปิกที่โตเกียวยังตามหลอกหลอน แต่เชื่อมั่นว่ามีโอกาสดีกว่าที่จะคว้าเหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านในการแข่งขันที่กรุงปารีส เพราะมีประสบการณ์ในเวทีนี้มาแล้วและทราบดีว่าต้องทำอย่างไร
“ผมคงจะเข้าร่วมแข่งขันด้วยความคิดที่แตกต่างจากเดิมในการตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลแทนที่จะรอดูว่าเป็นอย่างไรและดูว่าประสบการณ์ในโอลิมปิกเป็นแบบไหน แต่ผมก็อยากรักษาบรรยากาศที่ผ่อนคลายและบรรยากาศความสัมพันธ์ภายในทีมตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะผมคิดว่า เหตุผลหนึ่งที่ผมเล่นได้ดีเพราะบรรยากาศที่เรามีภายในทีม” เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 4 รายการกล่าว
นั่นคือประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิก
ภาพ : IGF