ต้นทุนของนักกีฬาอาชีพ
ต้นทุนของนักกีฬาอาชีพ
คนไทยเรานั้นโชคดีนักหนาที่ในแต่ละการแข่งขันกีฬาใหญ่ๆ เรามักได้ดูโดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายอะไร ตั้งแต่สมัยมวยโลกชกกันผมจำได้ว่าแชมป์โลกรุ่นยักษ์อย่าง “อาลี” ผมก็ได้ดูแล้วแถมฟรีเสียด้วย เพราะทุกครั้งที่มีการชิงแชมป์หรือป้องกันแชมป์เราคนไทยได้ดูหมดแทบจะทุกคู่ก็ว่าได้ แต่ในประเทศแม่อย่าง “อเมริกา” ใครจะดูนอกจากจะต้องซื้อตั๋วเข้าไปดูกันสดๆ แล้วหากใครอยากจะดูผ่านจอตู้ก็คงต้องควักกระเป๋าจ่ายกันพอสมควร ซึ่งก็อย่างว่ากับประเทศที่เป็นต้นแบบของวงการกีฬาอาชีพโลกเงินทองนั้นเป็นปัจจัยหลักในการถ่ายทอดในแต่ละครั้งแต่ละคราจริงๆ สมัยนั้นเรื่องราวต่างๆ จะถูกเผาหัวกันมาเป็นเดือนๆ กว่าจะได้ชกกันจริง…
ดังนั้นช่วงเวลาที่ว่ามามันคือการหาเม็ดเงินที่จากต้นทางในการถ่ายทอดและปลายทางอย่างพวกเราที่ได้ดู ในมหกรรมกีฬาก็เช่นกันทั้ง “โอลิมปิก” หรือ “เอเชี่ยนเกมส์” หรือ “ซีเกมส์” ในอดีตมันคือของที่ทำมาค้าขายกันได้ด้วยความขลังของตัวมันเอง อย่างมวยชิงแชมป์โลกนับแต่รุ่นยักษ์อย่าง “มูฮัมหมัด อาลี” ไล่เรียงลงมายัน “ไมก์ ไทสัน” ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด หรือมวยรุ่นกลางอย่าง เลียวนาร์ด, แฮกเลอร์, ดูรัน หรือแม้แต่เจ้ากระยางดำ อย่าง โธมัส เฮิร์นส ที่เคยดับตะเกียง “น้าแสบ” ผู้ล่วงลับล้มมาแล้ว ทุกคนที่เอ่ยนามมานั้นล้วนมีค่าตัวในการชกเป็นหลักล้านๆ เหรียญ แล้วไหนจะส่วนแบ่งจากคนดูจากการถ่ายทอดอีก รวมถึงสปอนเซอร์ที่สนับสนุนอีกมากมายหลายเจ้าแบอยากจัดกันทั้งนั้น…
ครูไก่เองดูการถ่ายทอดมาตั้งแต่จอมซ่าอย่าง “ ดอน คิง” โปรโมเตอร์หัวกระเซิงที่เจอเขาในจดตั้งแต่หัวดำยันหัวขาวโพลน ก็ยังเชื่อว่าเขาสามารถทำเงินทำทองได้อย่างมากมายมหาศาลจากการถ่ายทอดหรือจัดชกในแต่ละครั้ง พอเรามองถึงปัจจุบัน “ต้นทุน” ในการจัดกีฬาในแต่ละครั้งมันช่างมีอย่างจำกัดจำเขี่ยจริงๆ ซึ่งเป็นกีฬาอาชีพที่รากหญ้าไม่ค่อยสนใจหรือไม่มีคนไทยแข่งด้วยแล้วบอกได้คำเดียวว่า “เจ๊ง” ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว นั่นเพราะต้นทุนในแต่ละชนิดกีฬามันก็มีต่างกัน สมัย “เขาทราย” ชกป้องกันตำแหน่งในแต่ละครั้งมักจะมีคนใหญ่คนโตในวงการต่างๆ ออกทุนออกรอนให้ดังนั้นมันก็สบายใจไปล้านแปดสำหรับ “โปรโมเตอร์” แต่เดี๋ยวนี้อย่าหวังกับเรื่องแบบนี้การที่จะจัดชกมวยสากลแล้วเก็บค่าดูบอกได้เลย “จอดตั้งแต่ต้น” เพราะคนไทยเราชอบแต่ของฟรีหรือของง่ายไม่อยากจ่ายแต่อยากจะดู ดังนั้นภาระต้นทุนในการจัดมันถึงได้เป็นกำแพงที่คอยสกัดกั้นไม่ให้เกิดกีฬาอาชีพขึ้นเพราะใครจะกล้า ถ้าเบี้ยน้อยหอยน้อยแล้วเก็บเงินไว้ดีกว่า…แต่ก็ไม่แน่นะครับวันหนึ่งเราอาจมีกีฬาอาชีพที่ผู้คนพร้อมใจกันที่จะจ่ายสตางค์เข้ามาดูก็ได้ขอให้โดนใจคนไทยจริงๆ เถิดครับ…
ครูไก่