มาสเตอร์ ทัวร์นาเมนต์
มาสเตอร์ ทัวร์นาเมนต์
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะครับ สำหรับรายการเมเจอร์ใหญ่ระดับโลก “มาสเตอร์ ทัวร์นาเมนต์” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 6 – 9 เมษายน 2566 โดยสังเวียนที่ใช้ก็เป็นสนามในฝันของเราชาวกอล์ฟ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ขอให้ได้ไปสัมผัส ถ้าได้ออกรอบด้วยแล้ว คงยิ่งสุขเต็มเปี่ยมหาใดปาน ก็คงต้องพูดอย่างจริงใจว่า ตื่นเถอะครับ ! แล้วมาติดตามชมเรื่องราวของ มาสเตอร์ กันในแบบที่จับต้องได้ ตามยุคตามสมัยดีกว่า ไม่เสียสะตุ้งสตางค์อีกด้วยนะ
มีข้อมูลหลากหลายเกี่ยวกับการแข่งขันที่เรียกกันว่า Masters Tournament ถือว่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าให้ฟังแบบผสมปนเปกันไป ผมเก็บมาให้ท่านแบบไม่ซีเรียส โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มาจาก The Augusta Chronicle ท่านใดที่สนใจแบบละเอียดก็ลองเข้าไปค้นหาอ่านเล่นกันได้… มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
‘บ้อบบี้ โจนส์’ และ ‘คลิฟฟอร์ด โรเบิร์ต’ ร่วมกันก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์การสร้างสมาชิกระดับชาติให้กับสโมสร โดยใช้เงินลงทุนไป 70,000 เหรียญในสมัยนั้น บนพื้นที่ขนาด 365 เอเคอร์ ที่เรียกว่า ฟรุตแลนด์ เนอร์สเซอรี่ ใน ออกัสตา จอเจียร์, โดยมี โจนส์ และ อลิสแตร์ แมคเคนซี แห่งสก็อตแลนด์ เป็นผู้ออกแบบ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1931 และให้เริ่มเล่นได้ในปี 1932 และเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 1933 ปัจจุบันเป็นสนาม พาร์ 72 ระยะรวม 7,745 หลา
ทั้งสองผู้ก่อตั้ง ร่วมกันจัดการแข่งขันครั้งแรก ซึ่งภายหลังใช้ชื่อ เดอะ มาสเตอร์ ทัวร์นาเม้นต์ จัดขึ้น ณ ออกัสตา เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ การแข่งขันครั้งแรก จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 22 มีนาคม ปี 1934 (พ.ศ. 2477) โดยก่อนหน้านี้ เคยใช้ชื่อ “Augusta National Invitational” เป็นเวลาห้าปี (1934-1938) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อ The Masters Tournament ดังที่เห็นในปัจจุบัน และตั้งแต่ปี 1940 เดอะ มาสเตอรส์ ได้กำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์แรก (อาทิตย์ – อาทิตย์) ในเดือนเมษายนของทุกปี
‘ฮอร์ตัน สมิทธ์’ เป็นผู้ชนะคนแรกในปี 1934 แต่ ‘แจ็ค นิกคลอส สร้างสถิต’ เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ ชนะรายการนี้มากที่สุด ทำได้ถึงหกครั้งด้วยกัน และเขายังเป็นผู้ชนะที่มีอายุมากที่สุดอีกด้วย โดยชนะครั้งที่ 6 เมื่อมีอายุ 46 ปี 2 เดือน 23 วัน ในปี 1986 ส่วน ‘ไทเกอร์ วูดส์’ เป็นผู้ชนะที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 21 ปี 3 เดือน 14 วัน เมื่อชนะในปี 1997 และคนล่าสุดที่ชนะในปี 2022 ก็คือ สกอตตี้ เชฟเฟลอร์
‘กรีน แจ็คเก็ต’ เริ่มมอบให้กับผู้ชนะในปี 1949 โดย ‘แซม สนีด’ เป็นผู้ได้สวมคนแรก โดยประเพณีการสวมแจ็กเก็ตสีเขียว เริ่มขึ้นในปี 1937 เมื่อมีการซื้อแจ็กเก็ตจาก Brooks Uniform Co. ในนิวยอร์ก ไอเดียที่สวมก็คือ ผู้อุปถัมภ์ของมาสเตอร์ สามารถเห็นสมาชิกที่สวมได้อย่างชัดเจน ซึ่งยังไม่เกี่ยวกับผู้ชนะแต่อย่างใดเลย แล้วต่อมาก็กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจดจำได้กับภาพผู้ชนะต้องได้สวม กรีน แจ็คเก็ต ถึงจะเรียกว่าเป็นแชมป์มาสเตอร์สของแท้
‘เอเมน คอร์เนอร์’ คำคุ้นหูที่อยู่คู่กับ มาสเตอร์ส เป็นการอ้างอิงถึงหลุม 11,12 และ 13 คำนี้เริ่มได้ยินครั้งแรกในปี 1958 โดย เฮอร์เบิร์ท วอร์เรน วินด์ ผู้สื่อข่าวของ สปอร์ต อิลลัสเตรท ให้ฉายา มุมมรณะ นี้ไว้ เพราะการเล่นในช่วงนั้นถือว่าเป็นจุดวิกฤติ ชี้เป็นชี้ตาย พลาดพลั้งเมื่อไหร่ผลการแข่งขันอาจจะพลิกไปพลิกมา จนคาดการณ์ได้ยากว่าใครจะเป็นผู้ชนะ โดยเขายืมชื่อนี้มาจากเพลงแจ๊สเก่าแก่ “Shouting at Amen Corner”
‘แรส์ ครีก’ เป็นพื้นที่หน้าผ่านกรีนหลุม 12 เป็นสายน้ำเล็ก ๆ ผ่านไปทีออฟหลุม 13 ผ่านหลังกรีนหลุม 11ได้ชื่อตาม ‘จอห์น แร’ ซึ่ง ได้ปกป้องจากการโจมตีของอินเดียนแดง เป็นป้อมปราการที่อยู่ไกลสุดจากป้อมออกัสต้าเหนือแม่น้ำซาวานนาธ์
‘ต้นสน’ เป็นพันธุ์ไม้ที่เยอะที่สุดในออกัสตา มีมากมายหลายสายพันธุ์ หลายชนิดเติบโตขึ้นมาพร้อมกับสนาม ตัวอย่างชื่อสายพันธุ์ก็เช่น Loblolly Pines, Shortleaf Pines, Slash Pines, Longleaf Pines, Eastern White Pines ส่วน เดอะ บิ้ก โอ้ค ทรี ตั้งตระหง่านอยู่ข้างคลับเฮ้าส์ อายุราว 145 – 150 ปี ปลูกมาตั้งแต่ราวช่วงปี 1850และยังมี แม็คโนเลีย เลน ถนนที่ทอดตัวยาวจากประตูทางเข้าไปยังคลับเฮาส์ ต้นแมกโนเลียขนาดใหญ่ 61 ต้นเรียงรายอยู่สองฝั่งของถนน มีความยาว 330 หลา อายุเก่าแก่ย้อนไปถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 1850
ทุกหลุม ตั้งชื่อตามต้นไม้ที่ปลูก ครบทั้ง 18 หลุม เช่น หลุม 1 Tea Olive, หลุม 2 Pink Dogwood, หลุม 12 Golden Bell, หลุม 13 Azalea, หลุม 17 Nandina, หลุม 18 Holly
ไอค์’ พอนด์ เป็นสระน้ำที่สร้างขึ้นขนาด 3 เอเคอร์ มีทั้งเขื่อนและน้ำพุ โดยตั้งชื่อตาม นายพลไอเซนฮาวร์, Founders Circle อยู่ที่ฐานเสาธงหน้าคลับเฮาส์ โล่ประกาศเกียรติคุณสองชิ้นที่มอบให้แก่ผู้ก่อตั้ง Masters ได้แก่ Bob Jones และ Clifford Roberts, น้ำพุพาร์ 3 อยู่ถัดจากทีออฟหลุมแรก ของสนามพาร์ 3 ซึ่งน้ำพุแห่งนี้ มีรายชื่อผู้ชนะการแข่งขันพาร์ 3 โดยเริ่มจาก แซม สนีด ประเดิมเป็นคนแรก ในปี 1960 และ น้ำพุ เรคอร์ด สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 25 ปี เดอะ มาสเตอร์ ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของ ทีออฟหลุม 17 และแสดงบันทึกสถิติของสนาม และผู้ชนะการแข่งขัน รายการมาสเตอร์
โล่ประกาศเกียรติคุณของ แจ็ค นิคลอส ให้เป็นเกียรติแก่แชมป์มาสเตอร์ 6 สมัย ติดอยู่ที่น้ำพุสำหรับดื่มระหว่างหลุม 16 และ 17 ส่วนโล่ประกาศเกียรติคุณของ อาโนลด์ พาล์เมอร์ เพื่อรำลึกถึงการเล่นและการมีส่วนร่วมของผู้ชนะมาสเตอร์สี่สมัย ติดอยู่ที่น้ำพุสำหรับดื่มด้านหลังทีออฟหลุม 16
ในสนามนี้ มีสะพานที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสามแห่ง ได้แก่ สะพานซาราเซน ที่หลุม 15 เพื่อเป็นเกียรติให้กับ จีน ซาราเซน ที่ทำดับเบิ้ลอีเกิ้ลได้เมื่อปี 1935, สะพานโฮเกน ที่หลุม 12 ให้เกียรติกับ เบน โฮเกน ที่สร้างสถิตตี 274 เมื่อปี 1953 และ สะพานเนลสัน ที่หลุม 13 ให้เกียรติกับ ไบรอน เนลสัน ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมในหลุม 12 และ 13 เมื่อเขาชนะในปี 1937
อีกหนึ่งในธรรมเนียมแปลก ๆ นั่นคือ เดอะ แชมเปี้ยน ดินเนอร์ จัดขึ้นในวันอังคารของสัปดาห์แข่งขัน สำหรับสมาชิกของมาสเตอร์ คลับ ผู้ที่เคยชนะการแข่งขันมาแล้ว โดยเจ้าภาพก็คือผู้ชนะคนล่าสุด ซึ่งกำลังจะป้องกันแชมป์
เรื่องแปลก ๆ อื่น ๆ ก็มีหลายรายการด้วยเหมือนกัน เช่น
ไม่เคยมีนักกอล์ฟสมัครเล่นชนะรายการนี้เลย
ไม่เคยมีใครที่ชนะทั้งการแข่งขันพาร์สามและมาสเตอร์ในปีเดียวกัน
คุณไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ ต้องอาศัยการรับเชิญเท่านั้น
บุคคลที่เป็นคนผิวสี เพิ่งได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของคลับได้ เมื่อปี 1990 !
ครับผม ก็รู้ไว้ให้รกสมองเล่น ๆ เผื่อจะทำให้การดู มาสเตอร์ส ในปีนี้ มีรสชาติมากขึ้น อย่างน้อยเมื่อเห็นนักกอล์ฟระดับโลกตีตกน้ำที่ เอเมน คอร์เนอร์ จะได้ไม่แปลกใจว่า ทำไมเล่นมาดี ๆ พอมาถึงตรงนี้ ถึงได้ตกน้ำกันจัง 555
Mr.A
ภาพ/เรื่อง : wplgroup.com, augustachronicle.com, mybucketlistevents.com, masters.com