พีจีเอทัวร์ กับตัวเลขสถิติในเดือนตุลาคม
รอรี่ แม็คอิลรอย คืนบัลลังก์มือหนึ่งโลก – ทอม คิม คว้าแชมป์รายการที่ 2
โดย Chris Cox
รอรี่ แม็คอิลรอย ยอดโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือ ประเดิมศึกพีจีเอทัวร์ ฤดูกาล 2022-23 ได้อย่างสวยหรูด้วยการคว้าแชมป์ เดอะ ซีเจ คัพ ที่เซาท์แคโรไลนา หลังจากโชว์ฟอร์มทำ 4 เบอร์ดี้ในช่วง 9 หลุมหลังของการแข่งขันรอบสุดท้าย พร้อมกลับขึ้นครองตำแหน่งมือหนึ่งของโลกเป็นครั้งที่ 5 ในอาชีพ แต่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020
แม็คอิลรอย กล่าวภายหลังคว้าแชมป์ว่า “ผมฝึกซ้อมหนักมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อพาตัวเองกลับมาอยู่ตรงจุดนี้ ผมยังรู้สึกสนุกกับการเล่นกอล์ฟเหมือนเดิม ผมรักในเกมกีฬากอล์ฟ และลงเล่นด้วยความสุข ซึ่งแสดงให้เห็นมาตลอดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากเลย”
เจ้าของแชมป์ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ วัย 33 ปี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลายเป็นแชมป์เฟดเอ็กซ์ คัพ คนแรกที่ประเดิมฤดูกาลใหม่ด้วยตำแหน่งแชมป์นับตั้งแต่ ไทเกอร์ วูดส์ เคยทำได้ในปี 2007 ในรายการ บูอิค อินวิเตชันแนล นอกจากนี้แม็กอิลรอย ยังเป็นผู้เล่นคนที่ 5 นับตั้งแต่ปี 1983 ที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันตำแหน่งแชมป์บนสนามที่แตกต่างกัน และมีชื่อติดทำเนียบร่วมกับไทเกอร์ ในฐานะนักกอล์ฟคนเดียวในประวัติศาสตร์พีจีเอทัวร์ที่สามารถทำได้หลายครั้ง (แม็คอิลรอย คว้าแชมป์อาร์บีซี แคนาเดีย โอเพ่น ในปี 2019 และ 2022 ในสนามที่แตกต่างกัน และการแข่งขัน เดอะ ซีเจ คัพ ปีนี้ก็ย้ายมาแข่งขันที่คอนการี กอล์ฟ คลับ ขณะที่ปีก่อนแข่งขันที่เดอะ ซัมมิต คลับ ในลาสเวกัส)
แม็คอิลรอย มีสถิติไดร์ฟเฉลี่ย 323 หลา ในการแข่งขันที่สนามคอนการี กอล์ฟ คลับ เป็นสถิติตีไกลอันดับ 4 ในระบบ ShotLink ที่คว้าแชมป์รายการนี้ และเป็นถ้วยแชมป์ใบที่ 31 ของโปรกอล์ฟจากไอร์แลนเหนือรายนี้ พร้อมทั้งครองสถิติอันดับ 1 Strokes Gained: Off-the-Tee ในสนามนี้ เป็นผู้เล่นที่ทำสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
ทอม คิม โปรกอล์ฟดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ ฟอร์มแรงต่อเนื่อง
ทอม คิม โปรกอล์ฟดาวรุ่งพุ่งแรงจากเกาหลีใต้ เพิ่งประกาศศักดาในเวทีกอล์ฟโลกผงาดคว้าแชมป์แรกในพีจีเอทัวร์ รายการวินด์แฮม แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนสิงหาคม ด้วยการหวด 9 อันเดอร์พาร์ 61 ในรอบสุดท้ายแซงเข้าป้ายครองตำแหน่งแชมป์รายการสุดท้ายของทัวร์ในฤดูกาลปกติ พร้อมคว้าพีจีเอทัวร์การ์ดเต็มฤดูกาลสำเร็จ
หลังจากนั้นโปรดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ยังทำผลงานได้โดดเด่นในรายการเพรสซิเดนท์ส คัพ การแข่งขันกอล์ฟประเภททีมระหว่างทีมนานาชาติ พบกับสหรัฐอเมริกา และอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา คิม ประเดิมศึกพีจีเอทัวร์ฤดูกาลใหม่ด้วยตำแหน่งแชมป์รายการชไรเนอร์ส ซิลเดรนส์ โอเพน กลายเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ 2 รายการ ด้วยวัย 20 ปี 3 เดือนกับ 18 วัน รองจาก ราล์ฟ กัลดาห์ล ที่ได้แชมป์รายการที่สองในปี 1932 ในวัย 20 ปี 2 เดือนกับ 10 วัน
ทั้งนี้นักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่อยู่ในทำเนียบคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในลำดับถัดจาก ทอม คิม มีดาวดังอย่าง จีเน่ ซาราเซ่น, ฮอร์ตัน สมิธ,ทอม เครฟวี่, จอห์น แม็กเดอม็อตต์ รวมถึง ไทเกอร์ วูดส์ ที่ได้แชมป์รายการที่สอง ในวัย 20 ปี 9 เดือน กับ 20 วัน
“การแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ค่อนข้างหิน ยากที่จะคว้าแชมป์ ในชีวิตไม่สามารถคาดหวังอะไรได้ ผมแค่ทำงานหนักกับเกมของตัวเอง มุ่งมั่นฝึกซ้อม และโชคดีที่ชนะ 2 รายการในทัวร์ จนมาอยู่ตรงจุดนี้ ซึ่งผมยังต้องฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไปและยินดีกับผลที่เกิดขึ้นตามมา” คิม เผย
แม้ ทอม คิม บอกว่าการแข่งขันพีจีเอทัวร์เป็นงานยาก แต่จากสถิติฟอร์มการเล่นดูเหมือนง่าย เพราะเขากลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์โดยไม่เสียโบกี้เลยนับตั้งแต่ เจ.ที. พอสตั้น ทำได้ในปี 2019 และเป็นนักกอล์ฟคนที่ 3 เท่านั้นที่ทำได้ในประวัติศาสตร์การแข่งขันพีจีเอทัวร์ โดยผู้ที่ทำได้คนแรกคือ ลี เทรวิโน่ ในปี 1974
โปรกอล์ฟดาวรุ่งจากเกาหลีใต้มีสถิติแม่นกรีน หรือ green in regular อยู่ที่ 87.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นสถิติดีที่สุดของแชมป์ชไรเนอร์ส นับตั้งแต่ปี 2008 และยังมีสถิติการเล่น scrambling ดีที่สุด 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดสัปดาห์

แม็คเคนซี ฮิวจ์ส โปรกอล์ฟแคนาดา ซิวแชมป์รายการที่ 2
นอกเหนือจาก ทอม คิม ยังมี แม็คเคนซี ฮิวจ์ส โปรกอล์ฟจากแคนาดา ที่คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่ 2 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังชนะคู่แข่งในการเล่นเพลย์ออฟรายการ แซนเดอร์สัน ฟาร์ม แชมเปี้ยนชิพ
โปรกอล์ฟวัย 31 ปี พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 8 ฟุต ในหลุมที่ 2 ของการเพลย์ออฟ เอาชนะ เซปป์ สตราก้า พร้อมกับคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 2 ในอาชีพ แต่เป็นแชมป์แรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ชนะเลิศหนแรกในรายการอาร์เอสเอ็ม คลาสสิค โดยฮิวจ์สทำ 6 พัตต์สำคัญใน 7 หลุมสุดท้าย ซึ่งเป็นการเซฟพาร์ 4 หลุม ก่อนมาคว้าชัยเหนือสตราก้าในการเพลย์ออฟ
ฮิวจ์ส กล่าวว่า “ผมบอกกับตัวเองตลอดทั้งสัปดาห์ว่า ต้องทำได้ นั่นคือสิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของผม การเซฟพาร์สำคัญในท้าย ผมแค่พยายามพัตต์ให้ลงหลุม”
โปรกอล์ฟจากแคนาดา ปิดฉากด้วยสถิติการเล่น scrambling 91.67 เปอร์เซ็นต์ เป็นสถิติที่ดีที่สุดในการเล่นอาชีพ นับตั้งแต่คว้าแชมป์รายการอาร์เอสเอ็ม คลาสสิค ที่ทำได้ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งครั้งนั้นเป็นสถิติดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของรายการ ขณะที่ค่าเฉลี่ย Strokes Gained: Tee-to-Green +2.31 ยังเป็นสถิติดีที่สุดอันดับสองของตัวเอง รองจากรายการอาร์เอสเอ็ม คลาสสิค เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งฮิวจ์ส ได้รองแชมป์โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ +3.14
ฮิวจ์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “การคว้าแชมป์ที่สองยากกว่าแชมป์แรก เพราะผมต้องรอคอยนานมาก แชมป์ครั้งแรกเกิดขึ้นในการลงเล่นรายการที่ 5 ในฐานะสมาชิกในพีจีเอทัวร์ ทำให้ผมคิดว่า มันคงง่ายที่จะคว้าแชมป์รายการต่อไป ปรากฎว่าผมต้องรอถึง 6 ปีจึงสามารถทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก การที่ชื่อในฐานะแชมป์ 2 รายการ ย่อมดีกว่าแชมป์รายการเดียวและผมพยายามจะเพิ่มสถิติคว้าแชมป์ให้มากขึ้น”