Interview

ชอบเล่นกีฬาทุกประเภท – จิตกานต์ จันทรวิโรจน์

จิตกานต์ จันทรวิโรจน์
สมาคมกอล์ฟสตรี ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของ
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7

“ไม่เอาถ่านเลย ไม่เรียนหนังสือ แต่ชอบเล่นกีฬาทุกประเภท”

นี่คือนิยามแรกของ คุณจิตกานต์ ที่ให้กับตัวเองเมื่อครั้งยังเยาว์วัย

“เทนนิส ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ลาคลอส ฮ้อคกี้ เล่นทุกอย่าง ไปเรียนต่างประเทศก็เป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เวลาพักซัมเมอร์กลับมาบ้าน ก็อยู่แต่สนามเทนนิส”

แรงบันดาลใจแรกสำหรับการเป็นยอดหญิงนักกีฬาก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ ที่เล่นกีฬาให้เห็นมาตั้งแต่จำความได้ แล้วก็เล่นกับพี่น้องญาติๆ ความแตกต่างที่สำคัญอย่างหนึ่งในการเรียนในต่างแดน ณ เมืองบอสตัน แมสซาชูเซ็ต สหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ หลักสูตรของเขาจะเรียนแค่ครึ่งวัน ทำให้มีเวลาว่างในช่วงบ่าย มีโอกาสในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มาก เช่นการเล่นกีฬา

“การเรียนขอแค่ผ่านอย่างเดียว ปัจจุบันก็ยังสอนให้ลูกๆ ว่า ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากหรอก เรียนแค่ผ่านก็พอ สงสารเด็กพวกที่ติวกัน เรียนพิเศษจะเป็นจะตาย เพราะสุดท้ายแล้ว ปริญญาก็ใบเดียวกัน บางคนเรียนเก่ง แต่ทำงานไม่เห็นเก่ง เจอมาเยอะแล้ว”

คุณจิตกานต์ บอกถึงเหตุผลที่ ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง แต่ ต้องทำกิจกรรม หรือเล่นกีฬา เพราะ

“คนเล่นกีฬา มีเพื่อนเยอะแน่นอน”

“แล้วกีฬาก็บอกถึงนิสัยคนได้ชัด โดยเฉพาะกับ กอล์ฟ”

ตอนเริ่มเล่นกอล์ฟ คุณจิตกานต์ กลับมาประเทศไทยแล้ว และต้องเริ่มหัดกอล์ฟเพราะคุณพ่อคุณแม่ให้ไปเล่น “น่าเบื่อมาก” คือสิ่งแรกที่รู้สึก เพราะสมัยนั้นเด็กๆ ไม่มีใครเล่นกอล์ฟ ก็ต้องไปซ้อมอยู่กับคุณลุงคุณป้า การตีลูกที่ตั้งนิ่งๆ ไม่มีการตอบสนองเหมือนกับเทนนิส ยืนตีไป ร้อนก็ร้อน มันไม่สนุกเท่าไหร่ แต่พอได้เล่นแล้ว ด้วยวิสัยนักกีฬาก็อยากจะเอาชนะ อยากเล่นให้ได้ดี ก็เลยอยู่ซ้อมในสปอร์ตคลับได้ทั้งวัน สลับเล่นกับกีฬาอื่นๆ บ้าง ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ๆ กว่าจะเล่นได้ เพราะเป็นนักกอล์ฟที่เข้าข่าย

“ตีไกล แต่ไร้ค่าค่ะ” เธอเล่าไปขำไป “พอถึงเวลาลูกสั้นก็มักจะหลุดอยู่เป็นประจำ” จนตอนหลังถึงได้รับการชักชวนให้เข้ามาเล่นกับสมาคมฯ

ถึงแม้จะชอบเล่นกีฬาแค่ไหน แต่ก็ต้องมีภาระหน้าที่ให้รับผิดชอบ

“ตอนนั้นทำงานด้วย ไปเริ่มเป็นพนักงานที่โรงงานผลิตรองเท้า ซึ่งอยู่ในเครือของครอบครัว เข้าไปทำในส่วนของการตลาดและออกแบบ โรงงานเราผลิตให้กับยี่ห้อดังๆ ระดับโลก ต้นทุนจากเราไปถูกมาก แล้วไปขายแพงอีกเป็นร้อยเท่า แต่เป็นงานที่สนุกที่สุด เพราะพ่อแม่ให้ไปเริ่มงานเหมือนกับพนักงานทั่วๆ ไป ไม่ใช่ว่าเป็นลูกหลานแล้วจะได้เริ่มทำงานบริหารเลย ไม่ใช่ไปถึงจะทำตัวเป็นเจ้านาย ต้องไปหัดเป็นลูกน้อง เริ่มจากงานเบื้องต้นก่อน ทำงานเหมือนสาวโรงงาน เสื้อผ้าก็ไม่ต้องซื้อ ใส่กางเกงน้ำเงิน เสื้อสีฟ้า กินข้าวโรงครัว เขาทำอะไรกันก็กลมกลืนทำไปกับเขา นิสัยเราก็เข้ากับคนได้ง่ายอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำตัวแตกต่าง ไม่ถือตัว เขาก็ปฏิบัติกับเราเหมือนกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเช่นกัน แล้วลูกน้องก็จะรักเพราะได้ใจกัน”

กีฬาส่วนใหญ่ก็จะเล่นอยู่ในสปอร์ตคลับ เพราะไม่ได้มุ่งมั่นจะไปไกลถึงขนาดทีมชาติ แต่เธอก็เคยอยู่ในทีมพัฒนาทีมชาติ ได้ไปอยู่ในค่ายซ้อมกับนักกอล์ฟคนอื่นๆ เหมือนเป็นนักกีฬาคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ไปสม่ำเสมอ เนื่องจากพ่อแม่บอกชัดเจนเลยว่า ต้องทำงาน ไม่ให้เล่นกีฬาอย่างเดียว เพราะถ้าไม่รุ่งขึ้นมา จะเอางานที่ไหนทำ คุณจิตกานต์ เลยต้องทำงานไป เล่นกีฬาไป

เมื่อได้เล่นกอล์ฟจริงจัง จากกีฬาที่เคยรู้สึกว่าน่าเบื่อ ก็กลายเป็นชอบ ทำให้เลิกเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ ไปหมดเลย แม้กระทั่งเทนนิสที่เคยชื่นชอบ ก็ห่างๆ ไป ถ้าไม่มีใครชวนก็ไม่เล่น กลายเป็นหันมาเล่นกอล์ฟเป็นหลัก

พอเลิกจากการทำโรงงานรองเท้า ก็หันไปจับงานทางด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ช่วงหนึ่ง แล้วก็ย้ายมาอยู่บริษัทเมืองไทยประกันภัย ซึ่งตลอดเวลาที่งานนั้น เธอไม่เคยห่างหายจากการเล่นกอล์ฟ

“เข้ามาสมาคมฯ ครั้งแรกในฐานะกรรมการอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็ออกไป แล้วไม่ได้ทำอะไรกับสมาคมฯ อีกนานมาก จนกระทั่งไปเป็นเลดี้ส์กัปตันของสปอร์ตคลับอยู่ 4 ปี พอเสร็จจากตรงนั้นก็มีคนชวนให้มาเป็นนายกฯ ของที่นี่ จริงๆ ก็ลังเลมากอยู่ เพราะตำแหน่งนี้น่าจะเป็นของผู้ใหญ่ท่านอื่น ซึ่งสนิทกับเรามาก และท่านคิดว่า สมัยนี้อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง นายกฯ น่าจะเป็นคนรุ่นเด็ก เป็นคนรุ่นใหม่ จะได้ออกไปสังคมได้ ก็เลยรับหน้าที่นี้ กะว่าจะอยู่ในตำแหน่งแค่ 2 ปี แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำหน้าที่ต่อเนื่องมาอีกหลายปี ยอมรับว่าไม่เคยพร้อมสำหรับการทำงาน แต่ก็พยายามทำหน้าที่จากการเรียนรู้ มีหลายอย่างที่อยากปรับปรุง แต่ก็ติดอยู่หลายข้อ โดยเฉพาะในส่วนของข้อบังคับต่างๆ”

“จากเดิมที่นักกีฬาเคยซ้อมกันตอนเย็นๆ อย่างไม่มีรูปแบบเท่าไหร่นัก เราก็พยายามคัดเลือกโปรที่มีความรู้ความสามารถ ทำแคมป์ เราทุ่มเทมากให้กับเด็กเยาวชน ทำอย่างเต็มที่ภายใต้ข้อจำกัดของงบ ซึ่งก็เชื่อมั่นว่าเราสร้างให้เกิดผลที่ดีเกินไปกว่างบที่ใช้ เด็กๆ ของเราปัจจุบันก็ก้าวเข้าไปเล่นใน LPGA ซึ่งเป็นทัวร์กอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดของผู้หญิง ซึ่งเคยเป็นเด็กในแคมป์ของเรา เคยรับใช้สมาคมฯ ในฐานะนักกอล์ฟ เคยสร้างผลงานโดดเด่นมาแล้วทั้งนั้น”

“แต่เราต้องกระเสือกกระสนดูแลตัวเอง ความช่วยเหลือที่ได้รับเป็นประจำก็มาจากบริษัทบุญรอดฯ ภาคเอกชนอื่นๆ ก็ไม่มีใครให้ จริงๆ ก็ไม่ต้องการมากมายอะไร เพราะเราคิดว่า ถ้าช่วยสนับสนุนคนละเล็กคนละน้อย เราก็พออยู่ได้ แต่ที่ผ่านมานั้น เราไม่ได้รับเลย เพราะทุกแห่งพูดเหมือนกันว่า ไม่มีงบ เราก็สงสัยว่ามันเป็นไปได้ยังไงที่บริษัทใหญ่ๆ จะไม่มีงบ ไม่มีใครเห็นความสำคัญของเราเลย บางทีก็พยายามเข้าใจว่า เขาช่วยแล้วจะไม่ได้ผลตอบแทนเต็มที่เพราะ เด็กเยาวชนห้ามติดป้ายโฆษณาต่างๆ อีกทั้งกอล์ฟก็อาจจะไม่มีแรงดึงดูดมากเหมือนกีฬาชนิดอื่นๆ”

นายกสมาคมกอล์ฟสตรี ถ่ายทอดถึงความยากลำบากให้การทำงานเพื่อส่วนรวม

“อีกสิ่งที่อาจจะเป็นอุปสรรค คือเรามักจะคิดกันว่า ถ้านักกีฬายังไม่ดังก็ยังไม่สนใจ แต่พอเริ่มมีชื่อเสียงเมื่อไหร่ถึงจะวิ่งเข้ามาหา ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการตลาด แต่ถ้าอยากจะเห็นเด็กของเราเล่นอยู่ในทัวร์ใหญ่ๆ มากๆ ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เราก็ไม่มีโอกาสที่จะส่งให้เด็กไปสู้กับเขาในเวทีระดับโลก ไม่มีทุน ก็ไม่รู้จะไปหาประสบการณ์จากที่ไหน”

“ผลงานของนักกอล์ฟหญิงมีให้เห็นได้ชัดเจนในทัวร์ระดับโลก รุ่นแรกๆ ที่ไปบุกเบิกสร้างชื่อเสียง ก็ทำให้รุ่นน้องหลังๆ เกิดแรงบันดาลใจ มุ่งม่ันอยากจะเข้าไปเล่นในทัวร์ใหญ่ๆ บ้าง ทั้ง LPGA และ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ผลงานก็นับว่าใช้ได้ ถ้าเราอยากจะเห็นเด็กของเราเข้าไปในทัวร์ระดับโลกมากขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชน ก็ต้องหันมาช่วยกันสนับสนุน ช่วยกันหาดาวรุ่งเพื่อสนับสนุนให้สามารถไปต่อได้ กอล์ฟเป็นกีฬาแพง แต่เด็กที่เล่นกีฬากอล์ฟก็ไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวที่มีฐานะดีเสมอไป บางครั้งมีกำลังแค่ระดับหนึ่ง แล้วสมาคมก็ไม่ได้มีทุนเยอะสำหรับให้การสนับสนุนได้มากมาย ช่วยได้แค่บางส่วนเท่านั้น ปัจจุบันเราไม่ได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวหรือการกีฬาเลย ซึ่งเราควรจะได้รับงบประมาณมาบ้าง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่านมาทาง สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเท่าที่รู้มา สกท.เอง ก็ไม่ได้รับงบมาเช่นกัน”

ก่อนจะจบบทสนทนา คุณจิตกานต์ ในฐานะนายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ได้ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนให้เกิดประโยชน์กับนักกีฬากอล์ฟอย่างจริงจังว่า

“อยากเห็นภาครัฐ และภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนนักกอล์ฟให้มากขึ้น เด็กๆ ของเรามีความสามารถ แต่การจะไปสู้ในเวทีระดับโลกได้นั้น ต้องช่วยกันให้จริงจังมากกว่านี้ หากมีกำลังใจ มีทุน คอยหนุนอยู่เบื้องหลังเพียงพอ เด็กไทยสู้เขาได้สบายมากค่ะ”

1015-int-working-2

1015-int-working-3