Interview

ชินทร์ เหล่าฤกษ์อุทัย

ชินทร์ เหล่าฤกษ์อุทัย
บริษัท ธีรภาแลนด์ จำกัด
iSanook Bangkok, iSanook Resort & Suites Huahin
“ถ้าเราเป็นคนดี ทุกอย่างก็จะกลับมาดีให้เรา”

ประเทศญี่ปุ่น : หลังเรียนจบมัธยมปลายจาก บพิตรภิมุข ผมไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เลือกเพราะชอบญี่ปุ่น อยู่ใกล้ประเทศไทย ใช้เวลาบินไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงบ้านเราแล้ว ส่วนทางบ้านก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะมีธุรกิจกับญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพราะเครื่องจักรที่ทอถุงมือ ในโลกนี้มีผลิตอยู่แค่สองแห่ง จากประเทศญี่ปุ่นทั้งคู่ เราก็เป็นลูกค้าของเขา

อุปสรรค : เรื่องใหญ่ที่สุดคือภาษาญี่ปุ่น ยากมาก คำกริยาอยู่ข้างหลัง สลับกันกับภาษาไทย หรืออื่น ๆ ที่เราคุ้นเคย ถ้าคิด จะคิดไม่ทัน ทำยังไงก็ยังพูดไม่คล่อง แรก ๆ ก็ลำบาก พออยู่ไป ปรับตัวได้ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ปรับตัวอยู่ราวหกเดือนก็เริ่มสื่อสารได้มากขึ้น ฟังได้ก่อน แล้วค่อยพูดได้ สั่งอาหารได้ แรก ๆ เคยกินแต่ข้าวผัด 2-3 เดือน เพราะสั่งยังไม่เป็น แต่คนญี่ปุ่นก็เป็นมิตร ให้ความช่วยเหลือเราดี แต่ส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนญี่ปุ่นอาศัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ต้องไปเรียนภาษาก่อนปีครึ่ง เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย

โอซาก้า : เคยไปมหาวิทยาลัยที่โตเกียว คนเยอะเกิน ดูแล้วไม่น่าสนุก จึงมาเลือกเรียนที่ มหาวิทยาลัยคันไซ เมืองโอซาก้า รู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองมากกว่า ผมเรียนเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง ระหว่างประเทศ อยู่ญี่ปุ่นทั้งหมด 6 ปี เรียนจบเก็บกระเป๋ากลับบ้านเลย ไม่คิดที่จะอยู่ต่อ เพราะมีงานรอให้ทำอยู่เยอะมาก มีธุรกิจรออยู่แล้ว ขณะที่เพื่อนบางคน ได้งานก็อยู่ต่อ

ทำงานอสังหาฯ : พอกลับประเทศไทย ทำงานอยู่กับที่บ้านช่วงหนึ่ง พ่อแม่ก็ให้ไปทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกพักใหญ่  อยู่ในแผนกที่ได้ทำงานทุกอย่าง มีเจ้านายทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ได้เรียนรู้งานรอบด้าน ได้ความรู้มาเยอะมาก เริ่มมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำได้ว่า ลาออกมาอยู่บ้านแล้ว เจ้านายญี่ปุ่นยังโทรมาตามให้ไปทำงานอยู่หลายรอบ อยากให้กลับไปช่วย แต่เป้าหมายของเราตอนนั้นคือกลับมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งเป็นลักษณะกงสี ยากที่จะได้รับความไว้วางใจโดยง่าย เหมือนกับการผัดก๋วยเตี๋ยว ต่อให้ลูกผัดได้เก่งแค่ไหน พ่อก็ต้องขอผัดเองก่อน ถึงแม้คุณจะเก่งกว่าแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชื่อใจอยู่ดี ไม่เหมือนกับการทำงานในบริษัทฝรั่ง เราก็ทำงานตามหน้าที่ไปเรื่อย ๆ ค่อยเติบโตขึ้นมาตามจังหวะ พัฒนาธุรกิจขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

ธุรกิจดั้งเดิม : เราทำโรงงานผลิตถุงมือฝ้าย เป็นงานทอที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม จากนั้นก็เริ่มมาสร้างอะพาร์ตเมนต์ แห่งแรกที่ลาดพร้าว จากนั้นก็มาที่สี่พระยา แล้วไปเอแบค บางนา มาทำเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ ที่ซอยสวนพลู จนมาวันนึงคิดว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราน่าจะเข้ามาสู่ธุรกิจโรงแรมบ้าง เรามีประสบการณ์ด้านนี้อยู่แล้ว ต่างกันแค่เพียง เก็บค่าเช่ารายเดือนกับรายวัน หลังจากนั้นถึงได้มาทำโรงแรม iSanook Bangkok สี่พระยา ย่านบางรัก และขยายไปที่ หัวหินเป็น iSanook Resort & Suites

เปิดโรงแรม : เราบริหารกันเอง ไม่ได้พึ่งพาเครือโรงแรมใหญ่ ช่วงแรก ๆ แขกเป็นส่วนมากชาวต่างชาติฝั่งยุโรป เยอรมัน พอเปิดตลาดไปได้ ลูกค้าก็เข้าหาเรามากขึ้น เอเชียก็มี ญี่ปุ่น จีน เราก็เคยทำตลาด แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวยุโรป ที่มาแล้วก็กลับมาพักซ้ำกับเราอีก และทุกครั้งที่มาเข้าพักก็จะถามหาผม ผมเองก็เดินไปเดินมา เขาก็รู้ว่าผมเป็นใคร มานั่งคุยกัน มีปัญหาอะไร ก็ช่วยเขาแก้ไขด้วยความยินดี จนกลายเป็นแขกประจำ กลายเป็นเพื่อนกัน

iSanook : ผมมีญาติที่ฮ่องกง ตึกของเขาชื่อ ไอสแควร์ เราก็พยายามตั้งชื่อให้คล้องกันว่า ไอสนุก มีความหมายไทย ๆ ไปด้วยกันได้อีกด้วย โดยในนโยบายได้ว่า ‘ห้องใหญ่ ราคาถูก บริการดี’ นี่คือความตั้งใจ ในละแวกนี้ ห้องของเรานับว่าใหญ่มากในราคาระดับเดียวกัน เพราะเนื้อที่เรามีจำกัด ถ้าเป็น iSanook Resort & Suites ที่หัวหินยิ่งจะชัดมาก ห้องจะใหญ่ไปกว่านี้อีก ห้องเล็กสุดที่นั่นก็ราว 30 ตารางเมตรแล้ว ที่ iSnook Bangkok เรามีทั้งหมด 4 อาคาร อาคารละ 40 ห้อง รวมทั้งหมด 160 ห้อง, 2 อาคาร เรามีเนื้อที่ราวสองไร่ ในใจกลางเมืองนับว่าเป็นไปได้ยากมาก เปิดมาปีแรกก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว มีลูกค้าเข้าพักกับเราเต็มตลอด

Never Say No : บริการ และ ความเป็นกันเอง คือหัวใจสำคัญที่สุด เราไม่เคยปฏิเสธ ถ้าทำได้ ช่วยเต็มที่ ทำให้เสียงสะท้อนตอบรับดี ๆ กลับมาหาเรา สำหรับการพักอาศัยแบบอยู่ยาว ชาวต่างชาติ หรือพนักงาน ถึงไม่ได้เป็นเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ แต่หากเขาอยากให้อะไร เราก็ยินดีจัดหาให้ บางคนมาอยู่กับเรายาวหลายปีเลยก็มี ส่วนแขกที่เป็นลูกค้าประจำ เมื่อมาประเทศไทยจะมาหาเราก่อนเป็นที่แรก แล้วไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โรงแรมเราจึงเป็นเหมือนศูนย์กลาง มีความสะดวกมาก ฝากกระเป๋าไว้ได้ ไปเที่ยวเสร็จแล้วค่อยกลับมาแวะพักกับเราอีก ก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน ทุกปีก่อนหน้าจะเกิดวิกฤติโควิด ช่วยปลายปี แขกชาวยุโรปก็จะทยอยกันมาเข้าพัก บางคนกลับไปแล้ว ยังติดต่อมาชวนให้ผมไปเที่ยวบ้านเมืองเขาบ้างก็มี

ชุมชนเอื้อเฟื้อ : ผมเกิด และโตมาในละแวกนี้ ทำให้รู้ดีว่า ที่นี่เราเป็นชุมชนเข้มแข็ง มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันและกัน ไอสนุก เป็นโรงแรมในซอย แต่แถวนี้ทุกคนก็รู้จักกันหมด เราทำการค้า ถ้าเราดีกับเขา เขาก็ดีกับเราด้วย นั่นคือคอนเซ็ปต์ของเราอยู่แล้ว เราอยู่ในชุมชน ร้านค้า ร้านอาหารแถวนี้ก็พึ่งพานักท่องเที่ยว ยิ่งมีเข้ามาเยอะก็ยิ่งสร้างรายได้ เพิ่งมาลดลงในช่วงโควิดนี่เอง เคยมีแขกของเราหลงทาง หาทางกลับโรงแรมไม่ถูก พอดีเจอกับรถตำรวจ เขาไปขอความช่วยเหลือ บอกว่าพักอยู่ที่ ไอสนุก ตำรวจก็ขับรถพามาส่ง เขาประทับใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือ แล้วตำรวจก็รู้จักโรงแรม

กีฬา : ลูกกลม ๆ ผมชอบและเล่นได้หมด จับอะไรแป๊ปเดียวก็เล่นเป็น ทั้ง ฟุตบอล บาสฯ วอลเลย์ ปิงปอง เทนนิส ฯลฯ เคยอยู่ในทีมบาสฯ ของโรงเรียน แต่พอไปที่ญี่ปุ่น ได้เล่นเทนนิสกับเพื่อนบ้างนิดหน่อย การเล่นกีฬาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายเยอะ ทำให้ทำให้โอกาสในการเล่นน้อยลง จองก็ยาก เนื้อที่เขาจำกัด ทำให้ใช้เวลาไปในการอ่านหนังสือและท่องเที่ยวมากกว่า พอดีพ่อซื้อรถให้ด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกกว่าเล่นกีฬาอีก ทำให้ไปเดินทางบ่อย ไปตั้งแต่เหนือจดใต้ ตั้งแต่ฮอกไกโด จนถึง โอกินาวา ส่วนตัวผมชอบอากาศหนาว ๆ เย็น ๆ เลยชอบทางภาคเหนือของญี่ปุ่นมากเป็นพิเศษ

กอล์ฟ : ตอนทำงานบริษัทอสังหาฯ คนญี่ปุ่นชวนเล่นกอล์ฟ ผมก็ไปหาโปรแถวสุขุมวิท ตอนนั้นออฟฟิศอยู่ที่อโศก เล่นใหม่ ๆ รู้สึกว่าตลกดี ลูกอยู่เฉย ๆ กลับตีไม่ถูก ยิ่งไปแรง ยิ่งไม่ไป ต้องตีเบา ๆ ถึงจะไป ฝึกซ้อมอยู่พักใหญ่ถึงได้ออกรอบครั้งแรกกับเพื่อนคนไทย เพราะยังไม่กล้าออกกับคนญี่ปุ่น อยากจะซ้อมก่อน จำได้ว่าวันนั้นเล่น 36 หลุมเลย ยิ่งพอตีโดน เหมือนโดนลูกกอล์ฟหลอก เล่นเท่าไหร่ก็ไม่เหนื่อย เดินไปเรื่อย ๆ เล่นกับเพื่อน ๆ ยิ่งสนุก แต่พอกลับบ้าน เป็นไข้ไปหลายวัน จนเล่นได้พอสมควร ก็ไปขอออกรอบกับคนญี่ปุ่น จากนั้นก็เล่นมาตลอด ใครชวนไปเล่นที่ไหนก็ไป แรก ๆ ก็บ้ากอล์ฟมาก ว่างเมื่อไหร่ตี เล่นทุกเสาร์ ไปแทบทุกสนามในย่านฝั่งธน เพราะเพื่อนอยู่แถวนั้น เคยเล่นจนแต้มต่อลงมาเหลือ 8 เล่นแท่นโปรกันได้ จุดแข็งคือ พัตต์ไม่เคยสั้น แต่ลูกยาวอาจจะไม่แน่นอน เพราะโอกาสซ้อมค่อนข้างน้อย ถ้าช่วงไหนซ้อม พาร์ 5 ก็ทำสองออนได้ แต่ลูกสั้นทำงานได้ดีมาตลอด โดยเฉพาะพัตต์ไม่เคยสั้น เพราะถ้าไม่เลยหลุมคือไม่มีโอกาสลง

ไม่เคยห่าง : เมื่อก่อนเล่นบ่อยมาก สัปดาห์ละสองครั้งเป็นอย่างน้อย แต่ปัจจุบันลดน้อยลงไปบ้าง เน้นซ้อม ออกรอบน้อย เพราะเพื่อน ๆ ต่างมีภาระหน้าที่ ผมเองก็งานเยอะขึ้น เวลาที่ว่างก็เป็นช่วงบ่าย ขณะที่เพื่อน ๆ ชอบออกรอบกันตั้งแต่เช้า แต่เรายังไม่สะดวก ญาติของผมเป็นชาวสิงคโปร์ มีการจัดทัวร์นาเม้นต์กอล์ฟระหว่างเครือญาติกันเอง ปีละ 4 ครั้ง แต่ละครั้งก็มีญาติ ๆ มาร่วมแข่งกันร้อยกว่าคน ปิดสนามแข่งกันที่นั่น แล้วก็เชิญเราไปเล่นด้วยทุกครั้ง ทำให้กอล์ฟไม่ค่อยห่างกับผมเลย จนเมื่อมาถึงช่วงวิกฤติ ถึงห่างไปบ้าง แต่ก็พยายามซ้อมกับโปร เพื่อให้พร้อมสำหรับการออกรอบ มิเช่นนั้นห่างปล่อยไปนาน กล้ามเนื้อที่เคยยืดเหยียดได้ก็จะตึง ๆ ติด ๆ ขัด ๆ ใช้เวลานานกว่าจะปรับสภาพได้ จะเอาวงคืนกลับมายาก

ประยุกต์ใช้กับชีวิต : เราต้องซื่อสัตย์ เวลาเล่นกอล์ฟ พื้นที่กว้างขวาง ไม่มีใครเห็นตลอดเวลา สามารถทำอะไรได้หมด ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ถ้าคุณซื่อสัตย์กับกอล์ฟ คุณก็น่าจะซื่อสัตย์กับทุกอย่างได้ ส่วนที่เหลือก็เป็นความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สมัยก่อนยังไม่มีรถลาก ไม่มีรถกอล์ฟ ต้องใช้วิธีแบกถุง ถ้าเราเห็นใจแค้ดดี้ ใส่เฉพาะอุปกรณ์จำเป็นในถุง ก็ไม่เป็นภาระให้เขามากเกิน อย่างผมเองก็มีเหล็กอยู่แค่สิบชิ้น เพราะรู้สึกเกรงใจ และเพียงพอแล้ว เมื่อก่อนช่วงเล่นดี ๆ บางวันก็เลือกแค่เหล็กคู่หรือเหล็กคี่ ไม่จำเป็นต้องครบทั้งถุง เนื่องจากมีอยู่ช่วงต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ การแบกถุงกอล์ฟแบบครบ ๆ สร้างความลำบากมาก พกไปแค่ชุดฮาฟเซ็ตก็พอแล้ว

สนับสนุนกอล์ฟ : เราอยากจัดกอล์ฟที่หัวหิน เนื่องจากซบเซามานาน อยากช่วยเหลือการท่องเที่ยว ช่วยเหลือผู้คนที่นั่น และอยากช่วยให้นักกอล์ฟที่เป็นมือสมัครเล่นในช่วงที่ยังไม่รู้ว่า ทิศทางของเขาจะไปทางไหน ยังดูกันไม่ออก แม้กระทั่งตัวเขาเอง เราอยากจะช่วยทำให้เขาได้เห็นตัวเขาเองได้ชัดเจนมากขึ้น จนถึงช่วงหนึ่งที่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหน หากมุ่งหน้าสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ก่อนจะก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้น มันมีช่องว่างอยู่ในช่วงนี้ เขาอาจจะต้องการกำลังใจ กำลังทรัพย์ เพื่อสนับสนุนให้ก้าวต่อไปได้ เราก็อยากจะมีส่วนร่วม หรือหากจะใช้กอล์ฟเป็นแค่กิจกรรมเสริม ไว้เล่นเพื่อความบันเทิง พักผ่อนหย่อนใจ เราก็ยินดีสนับสนุนด้วยเช่นกัน ราว ๆ พฤษภาคม นี้ คาดว่าคงจะได้เริ่มเห็นการแข่งขัน อาจใช้เครือโรงแรมไอสนุกหรือสปอนเซอร์เป็นชื่อทัวร์นาเมนต์ ก็กำลังติดต่อทาบทามกันไว้

โรงแรมกีฬา : เรามีแพ็คเก็จของโรงแรมไอสนุกร่วมกับสนามทั่วหัวหิน มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ความต้องการจะเล่นในสนามต่าง ๆ หรือช่วงเวลาที่เข้าพักของลูกค้านักกอล์ฟ เราอยากทำให้ไอสนุก เป็นที่พักสำหรับคนเล่นกีฬา ทั้ง กอล์ฟ เทนนิส ฯลฯ เรามีนักกีฬามาเข้าค่าย ทำกิจกรรมทางกีฬาที่นี่ มีโครงการสร้างสนามเทนนิส สนามฝึกซ้อมพัตต์กอล์ฟ ไว้สำหรับการฝึกซ้อมหรือใช้อบรมในเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟก็ได้

ดูแลตัวเอง : ก่อนหน้านั้น ผมเป็นคนกินเยอะ กินไม่หยุดด้วย พออายุเยอะ มันเผาผลาญไม่หมด เหลือเป็นส่วนเกินเยอะ น้ำหนักเกือบร้อยกิโล พออายุเริ่มมากขึ้น ก็ลองหาวิธีต่าง ๆ มาดูแลสุขภาพ ทุกวันนี้ตื่นมาก็ยืดเส้นประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนอาหาร กินแค่วันละมื้อเดียว เป็นมื้อเย็น แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเวลาไหน หิวก็กิน ไม่หิวก็ช้าหน่อย กินผักกับปลาเป็นหลัก ก็พบว่าวิธีนี้ ไปด้วยกับผมได้ ผมนอนดึกตื่นสาย ตื่นมาก็ใกล้ ๆ เที่ยง ทานไข่ลวก 1-2 ฟอง รองท้อง แล้วอยู่ถึงเย็น เวลานั้นก็มักจะมีเพื่อน ๆ มาหา เพราะเป็นเวลาที่ว่างตรงกัน ทุกคนจะรู้ดี แล้วก็เล่นเทนนิสอาทิตย์ละสองวัน ตั้งแต่ ห้าโมงถึงสองทุ่ม ก่อนมื้อเย็นสักชั่วโมง เล่นมาสามสิบกว่าปีแล้ว ผมเอาเวลาที่เล่นเทนนิสได้มาเป็นตัวเช็คสุขภาพ ถ้ายังลงสนามได้นานเท่ากันปกติที่เคยเล่น 2-3 ชั่วโมง ร่างกายก็น่าจะแข็งแรงดีอยู่ ถ้ารู้สึกผิดปกติก็จะไปปรึกษาแพทย์

ทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น : ต้องทำอะไรทุกอย่างแบบ ตรงไปตรงมา ถ้าเราเป็นคนดี ทุกอย่างก็จะกลับมาดีให้เรา ถ้าเราเผื่อแผ่คนอื่น ถึงเวลาเขาก็กลับมาช่วย คุณรักเขา เขาก็รักคุณ คุณให้เกียรติเขา เขาก็ให้เกียรติคุณ แล้วต้องรู้จักทำใจดี ๆ เข้าไว้ อย่างน้อยที่สุด เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ให้คิดเรื่องนั้นในแง่ดีไว้ครับ