ลาก่อน…พัทยา
เขียน..เมื่อมีลมหายใจ
ตอนที่ 5 ลาก่อน…พัทยา
ฉันย้อนกลับมาพัทยาอีกครั้ง พร้อมกับสไบสีทอง 4 ผืน ทั้งที่จริงๆ แล้วสไบสีทองใช้แค่เพียง 3 ผืน ก่อนออกเดินทางกับน้องสาวคนสนิทที่มาด้วยครั้งก่อน..ฉันยังคงมีคำถามในใจกับตัวฉันเองเรื่องสไบสีทองที่ให้แม่บ้านนำมาเพิ่มอีก 1 ผืนในเช้าวันนั้น..แต่ยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่าเหตุผลอันใด? แต่ยังไงเสียมีเหตุมันต้องมีผลตามมาแน่นอนฉันคิดอยู่คนเดียว..แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใดๆก็ตาม พลังศรัทธาในคำสอนของครูบาอาจารย์ การไปทำความดีจึงไม่มีอะไรต้องกังวลลังเลอีกแล้ว เมื่อถึงที่หมาย ฉันทำหน้าที่เพื่อห่มสไบให้กับแม่นางทั้ง 3 ส่วนน้องสาวคนสนิทก็ทำหน้าที่มอบเครื่องประดับทับทรวงฯ ครบครัน ฉันผูกสไบสีทองเข้าด้วยกัน ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็จะใช่ว่าจะง่ายอย่างที่ใครๆ คิด ใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมงเนื่องจากแรงลมวูบวาบในเวลานั้น แต่ที่สุดทุกอย่างก็สำเร็จสัมฤทธิ์ผล ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นและตั้งใจ สไบสีทองก็ล้อมรอบต้นไม้ใหญ่น้อยที่ผสมผสานเป็นเกลียวแน่นเกือบจะเป็นต้นเดียวกัน เชื่อมต่อสายใยรักของทั้ง 3 นางด้วยสไบสีทอง…
ฉันและน้องสาวคนสนิทเมื่อทำหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยก็กรวดน้ำเป็นผู้นำส่งบุญให้สรรพชีวิตทั้งหลาย ในผืนแผ่นดินอันมีนัยยะบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่…
ฉันสตาร์ทรถและบอกน้องสาวคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของฉัน เราต้องไปสัตหีบไหว้ถวายเทียนเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ กันแล้วล่ะ ท่านคือองค์บิดาแห่งทหารเรือไทย ล้อหมุนมุ่งตรงสัตหีบ…มาได้คำตอบ สไบสีทองผืนที่ 4 เมื่อรถจอด….ริมหาดนางรำ ซึ่งมีศาลเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯอยู่ฝั่งตรงข้ามชายหาดนางรำ เราสองคนนำเทียนขึ้นถวายเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ…เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเดินข้ามถนนมาโดยให้น้องสาวคนสนิทหยิบสไบสีทองในรถ ฉันเป็นผู้ทำหน้าที่ห่มสไบสีทองให้กับนางรำ หลังจากนั้นเราสองคนนั่งกรวดน้ำอยู่ใกล้ๆ กับเขาตรงนั้น…ภาพแม่นางทั้ง 4 ก็ปรากฏแว๊บเข้ามาเหมือนในจอทีวี เราสองคนเห็นเช่นเดียวกัน ฉันหันมาบอกกับน้องสาวคนสนิท “ครบแล้วทั้ง4นาง” เค้าเชื่อมกันแล้วด้วยสไบสีทอง…ของฉันนั่นเอง
ภาพนางรำ 2 คู่ ประดับองค์ทรงเครื่องครบครันบนศาลสวยริมหาดนางรำ เด่นชัด ฉันรู้…เธอเคียงข้างฉันตลอดเวลา ณ ขณะนี้ มันเป็นพลังพิเศษยกกำลังสองเลยทีเดียว พลังแห่งความดี พลังแห่งความรัก พลังแห่งความเมตตา ที่เธอนำพาฉันมาทำความดี ซึ่งมันเป็นผลบุญอันยิ่งใหญ่ ทำให้ฉันไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางแม้แต่น้อยกลับมีพลังเต็มเปี่ยมล้นหัวใจ ขอบใจที่เราได้มาเป็นเพื่อนแท้ต่อกันแม้เราจะต่างกรรมต่างวาระกันก็ตาม….
…ลมทะเล พัดมา หาดพัทยา ครวญคลั่ง ฟังเหมือนมนต์ ภวังค์ วอนหวีดหวัง ครางว่า ยังรักเธอ รักเธอ พร่ำเพ้อละเมอ รอท่า ยังฝืนกลืน น้ำตา ฝันจนกว่า ชีพวาย ครวญครางไป ใยกัน เกลียวคลื่นนั้นมัน ชวนวิ่งว่าย แล้วล่ม ร่างร้างตาย หาย อาวรณ์ ลาแล้วลา ขอลา โอ้พัทยา ลาก่อน ชีวิตคือ ละคร ฉันมันอ่อนโลกเอย ครวญครางไป ใยกัน เกลียวคลื่นนั้นมัน ชวนวิ่งว่าย แล้วล่ม ร่างร้างตาย หาย อาวรณ์ ลาแล้วลา ขอลา โอ้พัทยา ลาก่อน ชีวิตคือ ละคร ฉันมันอ่อนโลกเอย…
เธอจะไม่มาพัทยาอีกแล้วเหรอ?…