สัพเพฯ กอล์ฟ

ละครโรงใหญ่

ละครโรงใหญ่

นอกจากโรค COVID-19 ที่กำลังจัดเต็มกับมวลมนุษย์ชาติของเราเองก็เคยภูมิอกภูมิใจในช่วงออกตัวเคยขึ้นถึงมือวางอันดับ 1 ของการป้องกันโรคร้ายที่ทั่วโลกชื่นชมในการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ก็เล่นเอาผู้คนในชาติดีใจได้ปลื้มว่าเรานี่แหละของจริง แต่พอเวลาล่วงเลยเข้ามาปีสองของการระบาดมันก็อย่างที่เห็นคือ “ติดเป็นล้านและตายเป็นร้อยต่อวัน” เล่นเอาผู้คนเป็นประสาทไปตามๆ กัน ก็จะมานั่งยิ้มอยู่ได้อย่างไรเมื่อตรวจและได้ผลวันละสองหมื่นขึ้น พักเดียวเราก็พบกับเลขเจ็ดหลักของคนที่ติดโรค สรุปว่ายิ่งตรวจยิ่งเจอแล้วตายเป็นใบไม้ร่วงแบบนี้แหละ เขาเรียกว่า “เอาอยู่” ตายแบบเผาไม่ทันกันเลยทีเดียว

แต่ขณะนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางจะด้วยการคัดกอรองที่มีอยู่หลายจุด หรือวิธีการตรวจที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทุกอย่างล้วนประกอบขึ้นแล้วก็ส่งผลตามมาในทางที่ดีขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด “วัคซีน” คือตัวแปรสำคัญที่จะปลดปล่อยความทุกข์จากมวลมหาประชาชนซึ่งในเริ่มแรกของวัคซีนจะถลกแขนทียังมี “เลือก” ตัวนั้นตัวนี้มีแถมด้วยการเอามาเกทับกันอีกยิ่งโซเชียลด้วยยิ่งแล้วใหญ่ “มันเก่งกันจริงๆ” ทำท่าจะเป็นมดเป็นหมอกันไปแทบจะทั้งบ้านทั้งเมือง บอกตรงนะถ้าเก่งแบบนี้บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีใครป่วยแน่นอน สุดท้ายปลายทางที่กำลังเจออยู่คือ “วัคซีนไม่พอ” ทีนี้เองวัคซีนหายากกว่าทองอยากฉีดแต่ของไม่มี ผมโชคดีที่ว่าเขตที่พักเป็นที่ซึ่งเกิดการระบาดสูงขนาดเป็นสีแดงจัดๆ ดังนั้นการฉีดวัคซีน “ฉุกเฉิน” มันก็ช่วยได้แต่เชื่อหรือเปล่าว่าขนาดนี้ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ฉีดหรือมาก็ปากเก่งพูดไปเรื่อยสรุปว่าตอนนี้อยากฉีดก็อดแล้วหายากด้วย… แต่ก็ขอให้ทำใจร่มๆ กันไว้นะครับเพราะก่อนสิ้นปีนี้เราจะมีวัคซีนทั้งทางรัฐจัดหาและวัคซีนทางเลือกเข้ามามากมาย เพียงแต่อย่าได้เข้าไปในวังวนของโรคก็แล้วกัน หรือถ้าไปป๊ะเข้าก็ต้องแข็งเอาไว้อย่าใจแป้วด่วนไม่หายใจไปก่อน อีกไม่นานโรคพวกนี้ก็จะเป็นเรื่องธรรมดากันไป ชีวิตก็จะเข้าสู่สภาวะปกติเชื่อว่าปลายปีนี่แหละอะไรต่อมิอะไรมันจะอวสานเสียที ชีวิตธรรมดาๆ ของเราก็จะกลับมาแต่ก่อนหน้าต้องกล้าแกร่งเข้าไว้อย่าเลิกหายใจไปก่อนนะครับ…

ละครอีกโรงก็บรรดาผู้คนที่ออกมาประท้วงในการทำงานของ “รัฐ” ขณะนี้ไอ้ผมเองก็ไม่รู้จะเอาอย่างไรกัน ประเด็นหลักก็ว่าด้วยโรคร้ายนี่แหละครับที่ผมว่ามันแปลกนะ คือ ถ้าทั่วโลกเขาอยู่สบายดีแต่ที่นี่ที่เดียวที่มีการระบาดของ COVID-19 แบบนี้มันก็ควรจะหยิบยกมาพูดคุยกัน แต่นี่ทั่วโลกก็ไม่ต่างกับเราหรือบางที่บางแห่งจะหนักหนากว่าเราเข้าไปอีกเช่นนี้จะมาร้องแร่แห่ป้ายมาประท้วงมันใช่เรื่องหรือเปล่า ไอ้ผมก็ไม่ได้รักใคร่ในรัฐบาลชุดนี้มากมายนักเพียงแต่เขาก็พยายามทำกันเต็มที่อยู่แล้วมันก็ได้แค่นี้เอง คนที่มาประท้วงไม่รู้อายุมากน้อยกันแค่ไหนแต่คนที่เขียนอยู่เนี่ย 60 เข้าไปแล้ว ดังนั้นผ่านและเห็นอะไรมาเต็มไปหมดทั้งเรื่องดีและร้าย แต่สุดท้ายก็จบไปแบบประวัติศาสตร์ที่ทราบกัน…

อีกเรื่องที่กลบข่าวทุกอย่างลงหมดสิ้นคือ “คดีการตายของผู้ต้องหาที่ตายเพราะตำรวจ” เรื่องราวจะจบอย่างไรจะมีการวางบทบาทใครไว้อย่างไรคอยติดตามกันต่อไปนะครับ

ครูไก่