เอรียา แชมป์ 3 สัปดาห์ติด ขยับขึ้นท็อปเทนโลก
“เอรียา”แชมป์ 3 สัปดาห์ติด
อันดับโลกขยับขึ้นท็อปเทน
“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล คว้าแชมป์แอลพีจีเอสามรายการติดพร้อมขยับอันดับโลกขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 หลังจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 คว้าแชมป์วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ ที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยทิ้งห่าง คริสติน่า คิม โปรสาวอเมริกันถึง 5 สโตรค ในการแข่งขันชิงเงินรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สนาม ทราวิส พอยน์เจ คันทรี คลับ เมือง แอนน์ อาร์เบอร์ มลรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
จากชัยชนะทำให้ เอรียา กลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์ของทัวร์ที่ชนะครั้งแรกในชีวิตแล้วชนะได้ถึง 3 รายการติดต่อกัน และต้องการชนะติดต่อกันอีก 2 รายการเพื่อเทียบเท่าสถิติแอลพีจีเอที่ แอนนิก้า โซเรนสตัม จากสวีเดน และ แนนซี โลเปซ โปรชาวอเมริกัน เคยชนะ 5 รายการติดต่อกัน
ก่อนหน้านี้ เอรียา เพิ่งจะเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะแอลพีจีเอสำเร็จในรายการโยโกฮาม่า ไทร์ คลาสสิก ในอลาบาม่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และก่อนหน้านี้หนึ่งรายการเพิ่งชนะรายการที่สองติดต่อกันในศึกคิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ
“ความรู้สึกมันง่ายกว่าสองครั้งแรกมาก” เอรียา กล่าว “เมเริ่มตื่นเต้นเพราะคนดูเริ่มเยอะ แต่เมว่าเหมือนเราเรียนรู้แล้วว่า เวลาที่เรากลัว เวลาที่เราตื่นเต้น เราต้องทำยังไงเพื่อผ่านมันไปได้ คิดว่าทำอะไรที่เราสามารถควบคุมได้ ไม่ได้คิดถึงผลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร”
นอกจากนี้ เอรียา ยังเป็นคนแรกที่ชนะ 3 รายการติดต่อกันนับตั้งแต่ อินบี ปาร์ค เคยทำได้ในปี 2013 และนอกเหนือจากนั้น “โปรเม” ที่บังเอิญชื่อคล้องกับเดือนพฤษภาคมในภาษาอังกฤษ ก็สามารถกวาดแชมป์แอลพีจีเอที่แข่งขันในเดือนนี้ได้ครบทุกรายการ
โปรเม เอรียา ที่รับเงินรางวัลมาครองอีก 195,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6.9 ล้านบาท จะพักการแข่งขันช็อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก หนึ่งสัปดาห์เพื่อมุ่งสมาธิกับการแข่งขันเมเจอร์รายการที่สองของปีอย่าง วีเม่นส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่ซัมมามิฃ ในวอชิงตัน ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายนนี้
“จริงๆแล้วเป้าหมายของเมในปีนี้คือชนะแอลพีจีเอครั้งแรกของตัวเองให้ได้” เอรียาที่อันดับโลกขยับขึ้นมา 3 อันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ของโลกกล่าว “ตอนนี้คงพักสักหนึ่งสัปดาห์ แล้วก็เป็นเมเจอร์ที่สองของปี จริงๆก็ ปีนี้พอชนะแอลพีจีเอได้แล้วก็มีความรู้สึกว่าอยากชนะเมเจอร์ ก็ตั้งเป้าว่าอยากจะชนะเมเจอร์สักครั้งหนึ่งค่ะ”
เมื่อถามว่ามีโอกาสได้พักหนึ่งสัปดาห์จะทำอะไร เม เอรียา รีบตอนทันทีว่า “ฝึกซ้อมให้มากขึ้นค่ะ”
เอรียา จบสกอร์ 72 หลุมที่แอนน์ อาร์เบอร์ ในมลรัฐมิชิแกน 15 อันเดอร์พาร์ 273 ส่งผลให้การลงเล่น 12 รอบหลังสุดของเธอนั้นทำสกอร์รวมกันได้ถึง 43 อันเดอร์พาร์
คิม นั้นจบการแข่งขันในอันดับสองด้วยสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 278 หลังทำสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 1 อันเดอร์พาร์ 71 ขณะที่ บรู๊ค เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา และ เจสสิก้า คอร์ด้า สาวอเมริกันวัย 23 ปี ลูกสาวของอดีตยอดนักเทนนิส ปีเตอร์ คอร์ด้า จบอันดับสามร่วมกันที่สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279
คอร์ด้า ที่เล่นก๊วนเดียวกับ เอรียา ในรอบสุดท้าย ยอมรับว่าเธอประหลาดใจมากกับผลงานของสาวไทยในการเล่นรอบสุดท้ายของเธอ
“มันยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ตอนที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายฉันมองไม่เห็นเลยว่าจะมีใครทำ 5 อันเดอร์” คอร์ด้า กล่าว “ด้วยความสัตย์จริง วันนี้เธอ (เอรียา) พัตต์ได้ดีมาก มันไม่ใช่เรี่องง่ายๆเลยสำหรับสภาพกรีนแบบนี้ แต่เธอทำให้มันกลายเป็นเรื่องง่ายๆ”
ในรอบสุดท้าย เอรียา เล่นแบบไม่เสียโบกี้เป็นรอบที่สามของสัปดาห์ ประเดิมเบอร์ดี้แรกหลุม 6 พาร์ 5 ก่อนจะการันตีชัยชนะด้วยการเก็บ 2 เบอร์ดี้ติดที่หลุม 13 พาร์ 4 และ หลุม 14 พาร์ 5 ปิดท้ายด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 16 พาร์ 3 และหลุม 17 พาร์ 4
“ตอนที่ยืนอยู่ที่แท่นทีออฟหลุมแรก เมรู้สึกว่ามันคงเป้นเรื่องยากที่จะชนะเนื่องจากเมตีไดร์ฟเวอร์ได้ไม่ค่อยดีนักในรายการนี้ ดังนั้นจึงต้องการเกมแพลนที่ดีมากๆ เอาจริงๆเลยะนะ ตอนที่เมเห็นสนามครั้งแรก เมคิดว่าเป็นสนามที่ยาก และไม่คิดว่าจะชนะได้” เอรียากล่าวในที่สุด
สรุปผลแอลพีจีเอ วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ (สนามพาร์ 72)
273 เอรียา จุฑานุกาล (ไทย) 65-68-73-67
278 คริสติน่า คิม (สหรัฐฯ) 64-71-72-71
279 บรู๊ค เอ็ม เฮนเดอร์สัน (แคนาดา) 72-67-72-68
279 เจสสิก้า คอร์ด้า (สหรัฐฯ) 72-65-70-72
280 เบเลน โมโซ (สเปน) 72-68-70-70
281 เล็กซี ธอมป์สัน (สหรัฐฯ) 74-68-72-67
281 ฮาซาฮาร่า มูนอซ (สเปน) 69-69-74-69
281 มาริน่า อเล็กซ์ (สหรัฐฯ) 68-67-75-71
281 คิม เฮียว-จู (เกาหลีใต้) 71-68-70-72
282 แองเจล่า สแตนฟอร์ด (สหรัฐฯ) 71-70-72-69