ไม่มีหมวดหมู่

เดย์ ฉลองมือหนึ่ง ด้วยแชมป์แมทช์เพลย์สมัยสอง

เดย์ ฉลองมือหนึ่ง ด้วยแชมป์แมทช์เพลย์สมัยสอง

เจสัน เดย์ นักกอล์ฟจากออสเตรเลียฉลองการกลับสู่ตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์เวิลด์กอล์ฟแชมป์เปี้ยนชิพ แมทช์เพลย์ มาครองเป็นครั้งที่สองหลังต้อน หลุยส์ อูสธุยเซ่น จากแอฟริกาใต้ในแมทช์ชิงชนะเลิศ 5 และ 4 ณ สนามออสติน คันทรีคลับ เมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา

เจสัน เดย์ การันตีการกลับขึ้นสู่มือหนึ่งของโลกในรายการนี้หลังจากที่เขาผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ ในขณะที่ จอร์แดน สปีธ นักกอล์ฟอเมริกันที่เป็นเจ้าของบัลลังค์มือหนึ่งโลกคนเดิมพลาดท่าตกรอบ 16 คนสุดท้าย

ในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการแข่งขัน เจสัน เดย์ ก็ไม่แพ้ใครเลยในการแข่งขันที่ออสติน คันทรี่คลับ ในเท็กซัส ด้วยชัยชนะ 1 อัพเหนือแชมป์เก่า รอรี แม็คอิลรอย ในรอบรองชนะเลิศ ตามด้วยชัยชนะเหนือ อูสธุยเซ่น ในรอบชิงชนะเลิศ

“การเล่นได้ดีตั้งแต่ทีออฟจนกระทั่งถึงกรีนอย่างที่ผมทำได้ และสามารถสู้ได้อย่างสนุกในแมทช์สุดหินนับเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก” เจสัน เดย์ กล่าว โดยนักกอล์ฟจากออสเตรเลียเดินทางมาแข่งขันรายการนี้พร้อมกับชัยชนะในรายการอาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นแนล ที่เบย์ฮิลล์ หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ชัยชนะในรายการนี้ยังทำให้ เจสัน เดย์ ขึ้นไปเทียบเท่ากับยอดนักกอล์ฟอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกชาวอเมริกัน และ เจ๊ฟฟ์ โอกิลวี เพื่อนร่วมชาติออสเตรเลีย ที่ชนะเวิลด์แมทช์เพลย์ได้มากกว่า 1 รายการ

เจสัน เดย์ เคยชนะเวิลด์แมทช์เพลย์ครั้งแรกของเขาเมื่อปี 2014 ที่อริโซน่า ซึ่งตอนนั้นยังใช้รูปแบบเก่าก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นรอบแบ่งกลุ่มใน 3 วันแรกเหมือนสมัยนี้

ทางด้าน รอรี แม็คอิลรอย มือวางอันดับสามของรายการที่ถูกปฏืเสธการจะชนะรายการนี้สองสมัยติดต่อกันเหมือนอย่างที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ เคยทำได้นั้น  ปรากฏว่าในการชิงอันดับสามนักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือยังมาโดน ราฟา คาบรีร่า เบลโล มือวางอันหับห้าสิบสองของรายการจากสเปนเอาชนะได้อีก 3 และ 2

ส่วน หลุยส์ อูสธุยเซ่น มือวางอันดับสิบหกของรายการจากแอฟริกาใต้ที่เอาชนะ คาบรีร่า เบลโล 4 และ 3 ในรอบรองชนะเลิศ แต่พอเข้าถึงรองชิงกับมือวางอันดับสองของรายการอย่าง เดย์ กลับไม่สามาถสู้ได้เลย

เจสัน เดย์ เปิดฉากแมทช์ชิงชนะเลิศของเขาด้วยการเสียโบกี้ตั้งแต่หลุมแรกพร้อมกับตกเป็นฝ่ายตามหลัง 1 ดาวน์ แต่เพียงหลุมสามเขาก็ตามปลดสำเร็จหลังจาก อูสธุยเซ่น ขอยอมแพ้จากทีช็อตที่ไม่ได้ดั่งใจ

เดย์ ขยับขึ้นเป็นฝ่ายนำ 1 อัพจากเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 11 ฟุตบนกรีนหลุม 4 และจากนั้นเป็นต้นมาก็เริ่มยืดการนำออกมาเรื่อยๆ

ผ่านไปเก้าหลุม เจสัน เดย์ หนีห่างออกเป็น 3 อัพ ตามด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 6 ฟุตลงไปที่หลุม 13 ทำให้นักกอล์ฟจากออสเตรเลียขยับหนีไปเป็น 4 อัพ

ที่หลุมถัดมาหลุม 14  เจสัน เดย์ โยนช็อตแอพโพรชอันยอดเยี่ยม ลูกขึ้นไปออนห่างธงเพียง 3 ฟุตก่อนขึ้นมาเก็บเบอร์ดี้พร้อมปิดแมทช์ลงไปได้สำเร็จ

“มันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมาก แน่นอนว่ามันเป็นสัปดาห์แห่งความทรงจำของผมที่ไม่เพียงชนะรายการเดลล์ แมทช์เพลย์ แชมเปี้ยนชิพ เท่านั้น แต่มันยังเป็นสัปดาห์ที่ผมกลับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกอีกครั้งด้วย” เดย์ กล่าว

นักกอล์ฟจากออสเตรเลียเปิดเผยว่า การเล่นในรอบรองชนะเลิศกับ รอรี แม็คอิลรอย เป็นแมทช์ที่ระทึกมากกว่า แต่เขาสามารถลากพัตต์ระยะ 13 ฟุตเซฟพาร์บนกรีนหลุมสุดท้ายนเพื่อยันเสมอหลุม และคว้าชัยชนะแมทช์มาครองสำเร็จ

แมทช์รอบรองชนะเลิศระหว่าง เดย์ กับ แม็คอิลรอย ผ่านไป 11 หลุมก็ยังเสมอกัน ก่อนที่ เดย์จะทำสองออนที่หลุม 12 พาร์ 5 และชนะหลุมด้วยเบอร์ดี้ ตามด้วยการชิพอินเบอร์ดี้ที่หลุม 13 ชนะติดต่อกันเป็นหลุมที่สอง

แม็คอิลรอย โต้หลับด้วยการลากเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 12  ฟุตลงไปที่หลุม 14 แต่จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่สามารถชนะได้อีกเลย

“มันเป็นสถานการณ์ที่ตึงเตครียดมาก” เดย์ กล่าว “แต่นั่นเป้ฯช่วงเวลาที่ผมคิดว่ามันสนุกที่สุดในการเล่นแบบแมทช์เพลย์ เพราะผมต้องพยายามเล่นให้ดีที่สุด พัตต์ให้เยี่ยมที่สุดแบบถูกเวลา”

“มันไม่ได้ตึงเครียดตั้งแต่ทีออฟถึงกรีนเหมือนอย่างที่ รอรี เป็น ผมพยายามทำในสิ่งที่ผมพูดอยู่เสมอคือพยายามสร้างความลำบากใจให้กับเขาให้ได้ในการเล่นลูกสั้น”

“ถ้าผมตีไม่ออก ผมก็ต้องกลับขึ้นไปเซฟให้ได้ หรือถ้าผมชิพไม่ดี ผมก็ต้องพัตต์ให้ดีมาแทนที่” นักกอล์ฟจากออสเตรเลียกล่าว

ส่วน แม็คอินรอย กล่าวถึงแมทช์รอบรองชนะเลิศของเขาว่าเป็นแมทช์คุณภาพ

“ผมพลาดโอกาสไป 2-3 ครั้งในช่วงเก้าหลุมแรก” แม็คอิลรอย กล่าว “เขาออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การที่ผมไม่สามารถเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 12 และ 13 ได้นั่นน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับแมทช์นี้”

เจสัน เดย์ ท ี่กลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส เมเจอร์รายการแรกของปีที่ออกัสต้า เนชั่นแนล ในเดือนเมษายนนี้ กล่าวว่าการเล่นลูกสั้นที่เฉียบคมที่ช่วยให้เขาชนะการแข่งขันที่เบย์ฮิลล์ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้เป็นกุญแจสำคัญสำหรับชัยชนะที่ออสติน

แต่การเล่นระหว่างแมทช์เพลย์กับสโตรคเพลย์นั้น ต้องคิดแตกต่างกัน

“คุณต้องสู้กับคนที่อยู่กับคุณตั้งแต่แท่นทีออฟ” เดย์ กล่าว “ดังนั้น คุณจะรู้ได้ทันทีว่าช็อตไหนควรจะเล่นอย่างไร หรือว่าช็อตไหนไม่ควรเล่น และเมื่ออีกคนเล่นผิดพลาด คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องตีชาร์จธง เพียงแค่เล็งห่างจากธงสัก 20 ฟุตแล้วขึ้นไปพัตต์ให้ได้ก็พอ”