เนลลี ชนะกอล์ฟ เกนบริดจ์
เนลลี ตามรอยพี่สาว เจสสิกา
ชนะ 3 สโตรค กอล์ฟ เกนบริดจ์
เนลลี คอร์ดา โปรสาวอเมริกันหวดอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันชนะ 3 สโตรค คว้าแชมป์เกนบริดจ์ แอลพีจีเอ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 60 ล้านบาท ที่ออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
เนลลี คอร์ดา ซึ่งพี่สาวของเธอ เจสสิกา คอร์ดา เพิ่งจะชนะรายการแอลพีจีเอทัวร์ก่อนหน้านี้ในรายการเปิดฤดูกาล ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์
คอร์ดา นักกอล์ฟสาววัย 22 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของ ปีเตอร์ คอร์ดา อดีตยอดนักเทนนิสระดับซูเปอร์สตาร์จากเชโกสโลวาเกีย ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำ 1 สโตรค หลังจบรอบสามในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกาเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68
การเล่นรอบสุดท้ายที่ เลค โนนา กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ในออร์แลนโด นั้น คอร์ดา ออกสตาร์ทด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่น 6 หลุมแรก ทำให้เธอไร้ความกดดันบนลีดเดอร์บอร์ดที่ช่วงหนึ่งเธอทำสกอร์ห่างอันดับสองถึง 5 ช็อต
จากนั้น เนลลี เซฟพาร์ 12 หลุมติดต่อกันและยังสามารถควมคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ก่อนจะจบด้วยการคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่สี่ในอาชีพไปครองสำเร็จ ท่ามกลางคุณพ่อคุณแม่และพี่สาว เจสสิกา ที่วิ่งขึ้นไปดีใจกับเธอบนกรีนหลุม 18
“ด้วยความสัตย์จริง วันนี้ฉันเล่นกอล์ฟไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด” คอร์ดา กล่าวหลังคว้าแชมป์บนแผ่นดินเกิดเป็นครั้งแรกในอาชีพ “ฉันพยายามเล่นด้วยความแน่นอนที่สุด จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจัดการมันได้อย่างไร เพราะจริงๆแล้วเป็นเกมที่เครียดมาก”
“การคว้าชัยชนะต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่เป็นครั้งแรกเป็นอะไรที่ดีมากๆ” คอร์ดา กล่าว
สกอร์รวม 72 หลุมของ คอร์ดา 16 อันเดอร์พาร์ 272 ทำให้เธอคว้าแชมป์โดยทิ้งอันดับสองถึง 3 สโตรก โดย เล็กซี ธอมป์สัน สาวอเมริกัน และ ลิเดีย โค จากนิวซีแลนด์ จบอันดับสองร่วมกันที่สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์
ธอมป์สัน นั้นขยับเข้าใกล้ คอร์ดา เพียง 3 สโตรคหลังเธอทำอีเกิลได้ที่หลุม 11 พาร์ 5 ทว่าการเสียโบกี้ในหลุมถัดไปทำให้เธอเร่งไม่ขึ้นในช่วงท้าย โดยในรอบสุดท้าย ธอมป์สัน จบวันด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68
ส่วน ลิเดีย โค อดีตมือหนึ่งของโลกจากนิวซีแลนด์ขยับไปมีลุ้นบนลีดเดอร์บอร์ดในช่วงเก้าหลุมหลังที่เธอเก็บ 4 เบอร์ดี้ติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่หลุม 12 ก่อนจะจบวันด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69
ขณะที่ โค จิน-ยัง นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกคนปัจจุบันจากเกาหลีใต้ที่ตบอันดับสี่โดยแพ้ไปถึง 5 สโตรคที่สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ โดยในรอบสุดท้าย โค ทำเข้ามาเพียง 1 อันเดอร์พาร์ 71 หลังเก็บเข้ามา 4 เบอร์ดี้แต่เสียคืนไป 3 โบกี้
อีกคนที่น่าผิดหวังคือ “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรสาวจากประเทศไทยที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายตามหลังผู้นำเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น
นักกอล์ฟวัย 21 ปีจากประเทสไทยที่เป็นรุ้คกี้ในปีนี้จบรอบสุดท้ายเข้ามาเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 จากการเสีย 2 โบกี้ และ 1 ดับเบิลโบกี้ในช่วงเก้าหลุมแรกที่ทำให้เธอหมดลุ้น ก่อนจบการแข่งขันด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ เท่ากับ ซาราห์ เคมพ์ จากออสเตรเลีย ที่หวดเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69
สำหรับ อันนิกา โซเรนสตัม ตำนานแห่งแอลพีจีเอ ที่เวฟพาร์หลุมสุดท้ายในรอบสองวันศุกร์ทำให้เธอผ่านเข้ารอบแอลพีจีเอเป็นรายการแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ก่อนมาจบสกอร์รอบสุดท้าย 4 โอเวอร์พาร์ 76 และจบทัวร์นาเมนต์ด้วยสกอร์รวม 13 โอเวอร์พาร์
สรุปผลเกนบริดจ์ แอลพีจีเอ (สนามพาร์ 72)
272 เนลลี คอร์ดา (สหรัฐฯ) 67-68-68-69
275 เล็กซี ธอมป์สัน (สหรัฐฯ) 71-68-68-6
275 ลิเดีย โค (นิวซีแลนด์) 65-69-72-69
277 โค จิน-ยัง (เกาหลีใต้) 68-72-66-71
278 ซาราห์ เคมพ์ (ออสเตรเลีย) 70-69-70-69
278 ปภังกร ธวัชธนกิจ (ไทย) 69-69-66-74
279 แองเจล ยิน (สหรัฐฯ) 72-69-65-73
280 เจนนี ชิน (เกาหลีใต้) 71-70-71-68
280 โซเฟีย โปปอฟ (เยอรมนี) 70-70-70-70
280 สเตซีย์ ลูอิส (สหรัฐฯ) 71-68-70-71
280 แอชเลย์ บูไฮ (แอฟริกาใต้) 71-67-71-71
280 มานิสสา สตีน (สหรัฐฯ) 69-71-68-72
280 ชุน อิน-จี (เกาหลีใต้) 69-68-71-72
280 เชลลา ชอย (เกาหลีใต้) 69-69-69-73