อย่าละเลย ดูแลร่างกาย ช่วงอากาศเปลี่ยน
อย่าละเลย ดูแลร่างกาย ช่วงอากาศเปลี่ยน
ช่วงสภาพอากาศเปลี่ยน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เสี่ยงป่วยง่าย อาจป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่าย กระทรวงสาธารณสุขแนะประชาชนรักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำอย่างน้อยละวัน 6 – 8 แก้ว หมั่นล้างมือ ไม่ไปในสถานที่แออัด และสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โรคระบบทางเดินหายใจและโควิด 19

หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศของประเทศไทยได้เริ่ม เข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวในปีนี้ มีสภาพอากาศแปรปรวน พบฝนตกในบางพื้นที่ หลายพื้นที่มีอากาศเย็นลง ขณะที่กลางวันมีอากาศร้อน
แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ก็กล่าวว่า จากสภาพอากาศตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงาน อาจส่งผลให้ประชาชนมีโอกาสป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่หรือโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทันและเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย
จากข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2563 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 2 พฤศจิกายน 2563 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวน 114,762 ราย เสียชีวิต 3 ราย ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ พะเยา เชียงใหม่ หนองคาย ระยอง และกรุงเทพมหานคร
สำหรับการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ให้ยึดหลักสุขอนามัยที่ดี
1. รักษาร่างกายให้อบอุ่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นหนาๆ เช่น ผ้าพันคอ ถุงเท้า ถุงมือ หมวก และออกกำลังกายให้ร่างกายอบอุ่นอย่างน้อยวันละ 30 นาที
2. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ดื่มน้ำอุ่นๆ งดคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทาน เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินผักสดผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่อยู่ในที่โล่งแจ้งโดยไร้สิ่งปกคลุมร่างกาย ปิดประตูหน้าต่าง ป้องกันลมพัดโดนตัว
5. รักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย ทาโลชั่นป้องกันผิวแตก ไม่แกะเกาผิวหนังที่แห้ง ป้องกันการเป็นแผลและติดเชื้อ ทาลิปมันขี้ผึ้ง ลดอาการริมฝีปากแห้งแตก
6. ดูแลสุขภาพตนเอง นอนหลับอย่างน้อย 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ทำงานหักโหม
หากพบว่าเป็นหวัดหรือระบบ ทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง โดยสวมอย่างถูกวิธีดึงหน้ากากให้ครอบบริเวณจมูกและปากอย่างมิดชิด ไม่ดึงไว้ใต้คาง และแยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว นอกจากจะป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจและโรคโควิด 19 ได้อีกด้วย หากอาการไม่ดีขึ้นและสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ไปพบแพทย์ใกล้บ้าน ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยงโรคโควิด 19 จะได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
