Golf NEWS

‘ดีเจ’ คว้าแชมป์ พร้อมทุบสถิติออกัสตา

‘ดีเจ’ คว้าแชมป์ พร้อมทุบสถิติออกัสตา

ดัสติน จอห์นสัน นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกชาวอเมริกันคว้าแชมป์เมเจอร์ที่สองในอาชีพ หลังสร้างสถิติชนะ เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสตา เนชั่นแนล กอล์ฟคลับ ในมลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ด้วยสถิติสกอร์ที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของ ออกัสตา

ดัสติน จอห์นสัน นักกอล์ฟอเมริกันวัย 36 ปีซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีสมาธิและมุ่งมั่นอย่างมากในระหว่างการแข่งขันในสนาม แต่ครั้งนี้เขาถึงกับหลั่งน้ำตาหลังคว้ากรีนแจ็คเก็ตที่ออกัสตา สนามซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดของเขาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

“มันเหมือนกันความฝันที่กลายเป็นความจริง” จอห์นสัน กล่าวขณะที่ร้องไห้ด้วยความดีใจ “ในสมัยเด็กๆ ผมมักจะฝันเสมอที่จะเป็นแชมเปียนเดอะ มาสเตอร์ส นี่มันสุดยอดจริงๆ ผมแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย การเล่นในสัปดาห์นี้ของผมดีจริงๆ”

ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำสกอร์ได้ดีกว่า จอห์นสัน ที่เคยชนะเมเจอร์มาแล้ว 1 รายการในศึกยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2016 มาที่ออกัสตาครั้งนี้ในรอบสุดท้ายเขาหวดเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268

นั่นเป็นสกอร์ที่ทำให้ จอห์นสัน คว้าแชมป์ไปครองโดยทิ้งห่าง อิม ซัง-แจ จากเกาหลีใต้ และ คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย ถึง 5 สโตรก ขณะที่ จัสติน โธมัส มือสามของโลกชาวอเมริกัน จบอันดับสี่ด้วยสกอร์รวม 276

สกอร์อันเดอร์พาร์ของ จอห์นสัน นั้นเทียบเท่ากับสกอร์ต่ำสุดในประวัติศาสตร์รายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ และทำลายสถิติ 72 หลุมของ เดอะ มาสเตอร์ส 18 อันเดอร์พาร์ 270 ที่ ไทเกอร์ วูดส์ เคยทำไว้เมื่อปี 1997 และ จอร์แดน สปีธ ทำได้อีกครั้งในปี 2015

นับเป็นการพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยมของ จอห์นสัน ที่พลาดโอกาสลงเล่น 2 รายการเพื่อเตรียมตัวสำหรับ เดอะ มาสเตอร์ส เนื่องจากจากเชื้อโควิด-19 และเพิ่งกลับมาเล่นเพียง 1 สัปดาห์ก่อนเมเจอร์สุดท้ายของปีโดยจบอันดับสองที่ฮิวสตัน

จอห์นสัน ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายที่ออกัสตาด้วยการนำ 4 สโตรก แต่สถิติก่อนหน้านี้เขานำ 54 หลุมในรายการเมเจอร์มาแล้ว 4 รายการ คือ ยูเอส โอเพ่น 2010, 2015 และ 2018 และ พีจีเอ แชมเปียนชิพ 2020 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ไม่เคยจบการแข่งขันด้วยการคว้าแชมป์เลย

อย่างไรก็ตาม สถิติไม่ดีดังกล่าวโดบลบล้างไปเรียบร้อยแล้วใน เดอะ มาสเตอร์ส 2020 แม้ในช่วงต้นของรอบสุดท้ายจะมีดรามาเล็กน้อยเมื่อสกอร์ที่นำห่าง 4 แต้มของ จอห์นสัน ลดเหลือเพียงสโตรก

จอห์นสัน พลาดเสียสองโบกี้ติดต่อกันที่หลุม 5 และหลุม 6 พาร์ 3 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการเล่น 33 หลุมติดต่อกันที่ ออกัสตา เนชั่นแนล กอล์ฟคลับ โดยไม่เสียโบกี้ และเปิดโอกาสให้ อิม ไล่หลังเพียงสโตรกเดียว

“นั่นไม่ใช้ช็อตที่เลวร้ายอะไร” จอห์นสัน กล่าวถึงโบกีของเขา “ผมไม่ปล่อยให้มันมารบกวนจิตใจให้มากนัก และผมก็ได้เบอร์ดี้คืนที่หลุม 8 ที่ทำให้ผมกลับมาอยู่ในเกมอีกครั้ง”

อิม นักกอล์ฟจากเกาหลีใต้พลาดออกโบกี้ที่หลุม 6 และหลุม 7 ส่วน จอห์นสัน มาได้เบอร์ดี้ที่หลุม 8 พาร์ 5 ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดีเจ ไม่หันกลับไปมองข้างหลังอีกเลย

“ผมตื่นเต้นตลอดทั้งวัน”​จอห์นสัน ยอมรับ “ผมสามารถรู้สึกได้ สำหรับผมแล้ว เดอะ มาสเตอร์ส เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่มาก และมันยังคงเหมือนกับความฝัน ผมภูมิใจกับตัวเองมากที่สามารถจัดการกับสภาพจิตใจตัวเองและปิดเกมลงไปได้”

จอห์นสัน นับเป็นนักกอล์ฟหมายเลยหนึ่งของโลกคนแรกที่สามารถคว้ากรีนแจ็คเก็ตมาครอสำเร็จ นับตั้งแต่ ไทเกอร์ วูดส์ เคยทำได้เมื่อปี 2002 แต่ครั้งนี้ไม่มีแฟนกอลืฟเข้ามาชมในสนามเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์ต้องย้ายจากเดือนเมษายนมาเล่นในเดือนพฤศจิกายนแทน

หลังจากมีปัญหาในช่วงแรกๆ แต่ จอห์นสัน ก็ยังไม่สะทกสะท้ายและกลับมาเล่นได้อย่างแน่นอนอีกครั้ง และการเก็บเบอร์ดี้ติดต่อกับในช่วงหลุม 13 ถึงหลุม 15 ทำให้สัปดาห์นี้เขาสามารถสร้างประวัตศาสตร์ให้ตนเองสำเร็จ

“ดีเจ มีศักยภาพที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสามารถควบคุมสภาพจิตใจได้เป็นอย่างดีภายใต้สถานการณ์ที่กดดันอย่างนั้น”​ไทเกอร์ กล่าว “ผมไม่คิดว่าจะมีใครเหมาะสมไปกว่า ดีเจ อีกแล้ว”

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัสติน จอห์นสัน เสียโบกี้ที่ออกัสตา เนชั่นแนล กอล์ฟคลับ ไปเพียงแค่ 4 โบกี้เท่านั้น นับว่าน้อยที่สุดในบรรดาแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส

ส่วน อิม ซัง-แจ ที่เพิ่งลงเล่นที่ออกัสตาเป็นครั้งแรกในชีวิต นับเป็นรุ๊คกี้ที่ทำสกอร์ได้ต่ำที่สุดบรรดาผู้เล่นครั้งแรก แต่ยังไม่สามารถจะเป็นคนแรกที่ชนะได้ในการแข่งขันครั้งแรกนับจากปี 1979

“เป้าหมายก่อนการแข่งขันของผมคือการผ่านเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้ายให้ได้” อิม ให้สัมภาษณ์ผ่านล่าม “การจบการแข่งขันในอันดับที่สองร่วมเป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อ”

ส่วน คาเมรอน สมิธ นักกอล์ฟจากออสเตรเลีย อันดับสองร่วมอีกคนที่จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา3 อันเดอร์พาร์ 69 ส่งผลให้เขากลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสต์ที่ลงเล่นเดอะ มาสเตอร์ส โดยได้สกอร์ต่ำกว่า 70 ทั้ง 4 วันของการแข่งขัน

ทางด้าน รอรี แม็คอิลรอย แชมปเมเจอร์ 4 รายการจากไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งต้องการคว้าแชมป์มาสเตอร์ส เพื่อจะทำแคเรียแกรนด์สแลม คว้าแชมป์เมเจอร์ครบทั้ง 4 รายการ จบสกอร์รอบสุดท้าย 3 อันเดอร์พาร์ 69 จบอันดับห้าร่วมด้วยสกอร์ 277 แต่ไม่กดดันอะไร จอห์นสัน ได้เลย

สำหรับ ไทเกอร์ วูดส์ แชมป์มาสเตอร์ส 5 สมัน และแชมป์เมเจอร์ 15 รายการ ตีตกน้ำถึง 3 ครั้งก่อนทำสกอร์ 10 ที่หลุม 12 พาร์ 3 ซึ่งเป็นสกอร์ที่แย่ที่สุดในเมเจอร์ของเขา โดย ไทเกอร์ จบสกอร์วันสุดท้าย 4 โอเวอร์พาร์ 76 รวมสี่วัน 287

ที่น่าสนใจคือ เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ นักกอล์ฟวัย 63 ปี ที่อายุมากสุดที่ผ่านเข้ารอบมาสเตอร์ส จบรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวมสี่วัน 285 ดีกว่า ไบรสัน เดอแชมโบ แชมป์ยูเอส โอเพ่น 1 สโตรก โดยในสัปดาห์นี้ เดอแชมโบ ไม่สามารถใช้พาวเวอร์เกมของเขาเล่นงาน ออกัสต่ ได้เลย

สรุปผลเดอะ มาสเตอร์ส ครั้งที่ 84 (สนามพาร์ 72)
268  ดัสติน จอห์นสัน (สหรัฐฯ)  65-70-65-68
273  อิม ซัง-แจ (เกาหลีใต้) 66-70-68-69
273  คาเมรอน สมิธ (ออสเตรเลีย) 67-68-69-69
276  จัสติน โธมัส (สหรัฐฯ)  66-69-71-70
277  ดีแลน ฟริตเตลลี (แอฟริกาใต้)  65-73-67-72
277  รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ)  75-66-67-69
278   ซี.ที.แพน (ไต้หวัน)  70-66-74-68
278  จอน ราห์ม (สเปน)​  69-66-72-71
278  บรู๊คส์ เคปกา (สหรัฐฯ)  70-69-69-70
279  เวบบ์ ซิมป์สัน (สหรัฐฯ)  67-73-71-68
279  คอรีย์ คอนเนอร์ส (แคนาดา) 74-65-71-69
279  แพทริก รีด (สหรัฐฯ)  68-68-71-72