คุยกับ ดร.อมร

การดูแลลูก ยุค New Normal

สวัสดีท่านพูดอ่านทุกท่า ผมได้อ่านบทความดีๆ ที่อยู่ในไลน์ เทคนิคการเลี้ยงลูกด้วย  EF  ครูแอน Parent Coach หัวข้อ

“การดูแลลูก ยุค New Normal “

ที่ครูแอนไปบรรยายที่ ร.ร.อัสสัมชัญคอนแวนต์

เมื่อวานนี้ 26/9/63

ลูกวัยรุ่นช่างเถียงแปลว่าเค้าจะเอาตัวรอดในอนาคต เพราะลูกกำลังฝึกพัฒนาสมองส่วนคิด ส่วนเหตุผล ยิ่งเถียงเยอะ แสดงว่า สมองยิ่งพัฒนา

ถ้าลูกวัยรุ่นกำลังโมโห เพียงเรา และ เรารับมือไม่ไหว ให้บอกลูกว่าไว้เราค่อยคุยกันตอนลูกอารมณ์ดี ( พายุมา เราควรหลบเข้าบ้าน ไม่เอาหน้าดาไปรับพายุลูกใหญ่ )

ลูกวัยรุ่น โตแล้ว มีขา จะไปไหนก็ได้ จะกลับบ้านหรือไม่ก็ได้ ขึ้นกับว่า บ้านน่ากลับหรือไม่ วันหลังเค้าจะไปไหนก็ได้เราห้ามไม่ได้ ตอนนี้ช่วงอยู่บ้าน เป็นช่วงสานสายสัมพันธ์ ทำบ้านให้น่าอยู่ ทำให้ลูกอยากกลับบ้าน

อย่าให้เค้ารู้สึกว่าอยู่บ้านต้องโดนบังคับอ่านหนังสือ โดนบังคับทุกอย่าง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องอยู่บ้าน ทำสภาพแวดล้อมให้ผ่อนคลาย ให้ลูกอยากอยู่บ้าน และ อยู่บ้านแล้วมีความสุข

New Normal เป็นช่วงที่พ่อแม่อาจจะต้องอยู่บ้านกับลูกมากขึ้น ถือเป็นโอกาสอันดี ให้มองว่า ตอนนี้เป็นช่วงผูกมัดใจลูกวัยรุ่น ก่อนที่ลูกวัยรุ่นจะติดเพื่อนและ พ้นจากอกพ่อแม่

Tips : ให้บอกลูกบ่อยๆว่าลูกไม่อยู่พ่อแม่คิดถึง เมื่อลูกกลับบ้าน พ่อแม่ดีใจ

มันจะทำให้เค้าคิดถึงเราเมื่อเค้าอยู่ข้างนอก

ช่วงนี้เป็นช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ของเรากับลูกก่อนที่จะออกจากอกเราไปติดเพื่อนๆ เค้าจะต้องมีกลุ่มเพื่อน ไปกับเพื่อนซึ่งเป็นพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อเตรียมความพร้อมให้เค้ามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ใช่ว่าเค้าอยากจะทำ แต่มันเป็นพัฒนาการของเค้าที่จะเตรียมเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต และ สามารถปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้หลากหลาย และ ราบรื่น เพื่อช่วยลูกเอาตัวรอดในสังคมได้ในอนาคต

——

ผลการเรียนมีผลกับอนาคตเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ต้องเคร่งเครียด กลุ้มใจกับการเรียนไม่ทัน ผลการเรียนของลูกมากเกินไป

เมื่อเริ่มทำธุรกิจธนาคารขอดูสเตทเมนท์ ไม่ขอดูใบเกรด

ให้ความสำคัญกับการฝึกทักษะให้กับลูกมากกว่า การเน้นจำความรู้ไปสอบ

ร.ร.เป็นเพียงสังคมจำลองให้เด็กฝึกการเข้าสังคม ฝึกการทำการบ้านหลากหลายวิชา ฝึกจัดสรรเวลาในการทำการบ้าน

——–

เวลาลูกว่างๆ เบื่อๆ เป็นเวลาให้เค้าคิดทำสิ่งที่ชอบ ค้นหาตัวเอง เค้าทำอะไรก็เปิดพื้นที่ให้เค้า เพื่อให้เค้าได้คิด

ควรจัดตารางว่า เดี๋ยวเวลานี้เรา ร้องเพลง วาดรูป เต้น ดนตรี เมื่อเราว่างเราก็เข้าไปจอยกับลูก เมื่อเรามีตารางเวลาที่ชัดเจน จะทำให้เราไม่เครียดและกังวลเมื่ออยู่บ้าน การอยู่บ้านของพ่อแม่ให้มีความสุข ลูกจะมีความสุขด้วย

ช่วงอยู่บ้านมากขึ้น เป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสในการมอบหมายงานบ้านให้ลูกมีหน้าที่งานบ้านที่ต้องรับผิดชอบที่บ้าน

ฝึกทักษะชีวิตให้เค้าดูแลตัวเค้าเองได้

เด็กที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมักจะเรียนเก่งเนื่องจากขณะขยับร่างกายสมองขยับไปด้วย สมองได้ออกกำลังกาย.

เวลาเด็กบ่น ให้พาเขาไปแก้ปัญหา เพราะการบ่นไม่ช่วยแก้ปัญหา ให้ถามเค้าว่าแล้วต้องทำยังไงดี แล้วพาเค้าทำ

อยากให้ลูกเก่งต้องให้เค้ามีอารมณ์ดี เราต้องพาลูกอารมณ์ดี

เมื่อเด็กอารมณ์ดี อารมณ์มั่นคง เด็กจะแก้ปัญหาได้ดี

——–

ทุกวันนี้ลูกกำลังเมมโมรี่ พ่อหรือแม่เข้าสมอง เมื่อเค้าเกิดปัญหา นึกถึงหน้าพ่อแม่ เค้าจะเห็นภาพความทรงจำอะไรที่เขาเก็บไว้ หากที่ผ่านมา เมื่อเขาเจอหน้าพ่อแม่เมื่อใด เห็นภาพพ่อแม่หน้ายักษ์ใส่เขา เค้าจะรู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า เมื่อลูกไม่มีทางไป และ ลูกติดเพื่อน หรือรู้สึกว่าไปหาเพื่อนดีกว่า แล้วเพื่อนคนนั้นดีไหมเราจะแน่ใจได้อย่างไร เพื่อนคนนั้นจะนำลูกของเราไปไหน ไปอย่างไร เราจะไว้ใจเพื่อนของลูกคนนั้นได้อย่างไรว่าเขาจะช่วยลูกของเราจริง

ตัวอย่าง ข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนเด็กผู้หญิงอายุ14ไปตจว.กับพ่อเพื่อนเพราะเค้าเกิดปัญหากับที่บ้าน และเมื่อนึกถึงหน้าพ่อแม่ตัวเองแล้วรู้สึกว่าไม่อยากคุยด้วย คุยทีไรก็โดนดุ ตำหนิ อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเจอพ่อเพื่อนบอกรัก บอกว่าเอ็นดู เมื่อมีคนที่บอกรักเราและดูแลเราอย่างดี สุดท้าย เด็กเลยยอมไปกับพ่อเพื่อนและ ตั้งครรภ์ เพราะเค้ารู้สึกกลับบ้านตัวเองแล้วไม่ปลอดภัย คนที่ลูกจะไปขอความช่วยเหลือ เขาจะช่วยลูกเรา หรือ เขาจะพาลูกเราไปที่ไหน อย่างไร เราจะไว้ใจคนนอกได้อย่างไร ดังนั้น ช่วง New Normal คือ ช่วงที่เราจะผูกมัดใจลูก สร้างความสัมพันธ์กับลูกให้มาก เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ให้ลูกกลับบ้านมาปรึกษาเราเสมอ ไม่ว่าลูกจะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเพียงใด

——

เลี้ยงลูกเชิงบวก ใช้เวลาอยู่กับลูก ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ชื่นชมเมื่อลูกทำดี เมื่อลูกมีพฤติกรรมไม่ดีให้ นำทาง ลูก ( Redirect )ไปยังพฤติกรรมพึงประสงค์ที่ต้องการ

Tips 5 minutes talk ทุกวัน คือ คุยกับลูกแต่ละคนคนละ5 นาทีเป็นส่วนตัวทุกวัน เมื่อเราฟังเรื่องเล็กๆของลูก เราจะได้ยินเรื่องใหญ่ๆของลูก และ ช่วยลูกทันเสมอ

การเลี้ยงดูลูกคือการเลี้ยงให้เค้ามีความสุขได้ในทุกสถานที่ ทุกสถานการณ์

การเลี้ยงดูลูกนั้น ไม่ใช่แค่เลี้ยงดู เพื่อให้ลูกเป็น “เด็กที่มีความสุข” เท่านั้น แต่จะต้องเลี้ยงดู เพื่อให้ลูก เป็น “เด็กที่สามารถมีความสุขได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ” – สมเด็จพระจักรพรรดินี มิจิโกะ ประเทศญี่ปุ่น

ไม่ว่าจะ อีกกี่ new normal ลูกเราก็มีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ ทุก new normal ^^

เก็บความโดย คุณแม่ Rojmary
เรียบเรียง : ครูแอน Parent Coach

หลังจากผมได้อ่านบทความนี้แล้วผมว่ามันนี้มากๆเลย เพราะผมก็เป็นพ่อที่มีลูกสาว 2 คน อีกไม่กี่ปี ก็จะเป็นวัยรุ่นแล้ว ความรักการเอาใจใส่แค่นี้ยังคงไม่พอ เราต้อง เข้าใจ รับฟัง ให้เวลาเค้าอย่างจริงจัง เป็นพ่อเป็นทั้งเพื่อน เพราะเวลาที่เค้ามีปัญหา เค้าจะได้คิดถึงเราก่อนเป็นคนแรก สังคมสมัยนี้เปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคม Online เติบโต จนเราตามไม่ค่อยจะทัน 

คนแปลกหน้า ไม่รู้จัก ก็สามารถเข้ามาในโลกOnline ของลูกๆของเราได้อย่างง่ายได้ วันนี้เราต้องช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันอย่างแท้จริงที่จะปกป้องมันได้  คนเลือกการสร้างภูมินี้ โดยการให้ลูกสาวทั้งเล่นกีฬา เพราะ กีฬาสร้างคน สร้างวินัย อดทน การรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย สร้างมิตรภาพ ใช้เหตุผล และกีฬาที่ผมเลือกให้ลูกเล่นก็คือ กีฬากอล์ฟ ในฉบับหน้าผมจะมาอธิบายต่อว่า ทำไมถึงเป็นกีฬา  พบกันฉบับหน้าครับ

ดร. อมร นันทวะกุล