คอลัมน์ในอดีต

ตอนที่ 22 ความรัก กับการพลัดพราก (1)

๒๒.ความรักกับการพลัดพราก ๑

หนูใบบัว เริ่มโตขึ้น ฉายแววความเฉลียวฉลาด ดวงตาที่คมโตคู่นั้นมีพลังแฝงอย่างประหลาด ใบบัวเกิดมาท่ามกลางความรักความอบอุ่น เริ่มออกเสียงได้แล้วโดยเฉพาะคำว่า..แม่ แพถึงกับปิติเมื่อได้ยินเสียงลูกน้อยเรียกด้วยความไร้เดียงสา แม่จ๋า แม่จ๋า

กาลเวลาผ่านล่วงเลยมา ก่อนที่แพจะเริ่มตั้งท้องลูกคนที่สอง เย็นวันหนึ่งพบบอกกับแพว่า

 “แพๆ พบฝันว่ามีชายกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ถือตะกร้ามายื่นให้โดยที่ในตะกร้าใบนั้นมีเด็กทารกหน้าตาขาวผ่องเป็นเด็กผู้ชายมายื่นให้พบ หลังจากที่พบรับไว้ พบก็สะดุ้ง แพ จริงๆนะพบอยากมีลูกเยอะๆ บ้านจะได้ไม่เหงา บ้านเราก็จะอบอุ่นลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเหมือนโบราณพูดไว้”

แพ…อดหัวเราะไม่ได้ กระเซ้าพบว่า

“จะเลี้ยงไหวเหรอพบ เดี๋ยวลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนะ”

พบมีสีหน้ามาดมั่น

 “ไหวซิแพ ทุกวันนี้เราก็พอมีกินมีใช้ จากการปลูกผักปลูกข้าวกินเอง แถมสวรรค์เบื้องบนประทานดอกบัวหลวงให้เราตัดไปขายได้โดยไม่ต้องลงทุน มีมะลิ ดอกจำปี จำปา ให้แพร้อยมาลัยขายอีก ยังไงเราก็อยู่ได้แบบสบายมากแพ”

แล้วพบก็หันมาส่งยิ้มให้แพด้วยความภาคภูมิใจ  แพหัวเราะเสียงใส

“จ้า  แพเชื่อแล้ว”

หลังจากสองผัวเมียคุยกันไม่นานนัก แพก็ตั้งท้องลูกคนที่สอง ส่วนใบบัวก็ช่างพูดช่างประจบ ทุกครั้งก็จะพากันลงเรือไปเก็บดอกบัวไปขายในตลาด ใบบัวก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ไม่ดื้อไม่ซน เวลาอยู่ในเรือก็จะนั่งนิ่ง สายตาจะจับจ้องอยู่กับดอกบัวเหมือนคุ้นเคย แม้ใบบัวจะคืบคลานได้แล้วก็ตาม สามคนพ่อแม่ลูกเปี่ยมด้วยความสุขล้น พอถึงวันพระก็จะพากันไปไหว้พระทำบุญใส่บาตรที่วัดหนองบัว วัดต้นตระกูลของปู่ย่าตายายเป็นกิจวัตรตามที่ยายพริ้มเคยสั่งไว้

สองนี้ แพไม่มีอาการแพ้ท้องเลยกลับทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มาลัยของแพก็ขายดิบขายดีเป็นที่เลื่องลือไปทั้งสองฝั่งโขงว่าไม่มีใครร้อยมาลัยมีฝีมือได้เท่ามาลัยของร้านเจ้หมวยในตลาดที่เป็นฝีมือของแพ จนเดี๋ยวนี้บ้านใครมีงานบุญที่จะต้องใช้มาลัยก็จะต้องสั่งร้านเจ้หมวย ทำให้เจ้หมวยมีรายได้เพิ่มขึ้น เจ้หมวยจึงไม่ขาดการให้ความช่วยเหลือโดยการให้เงินเพิ่มจากเดิม ทำให้ครอบครัวของพบพอมีเงินเก็บไว้ให้ลูกโดยไม่ลำบาก เวลาใกล้พระอาทิตย์ตกดินของแต่ละวันครอบครัวพบก็จะพากันไปเดินเล่นริมโขง ห่อข้าวปลาอาหารไปรับประทานกันโดยแก้วยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้อยู่เหมือนเคย…

จนกระทั่งวันหนึ่ง…..ขณะที่พบ  แพ พาลูกใบบัวเดินเล่นเหมือนเคย  จู่  ๆฝนก็ตั้งเค้ามืดทะมึนมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว  พบรีบบอกว่า

“เร็วๆฝนมาอย่างไม่มีเค้าเลย แพ แก้ว พาใบบัวขึ้นบ้านก่อน ส่วนสัมภาระพวกนี้เดี๋ยวพบ

จัดการเก็บให้เอง ไม่ต้องห่วง ไป๊รีบเข้าบ้านก่อน!”

“จ้ะๆ ไปเร็วแก้วอุ้มน้อง ฉันจะหยิบบางอย่างไปช่วยคุณพบเขา”

แพส่งลูกใบบัวให้แก้ว พาขึ้นเรือนไปก่อนด้วยความห่วงว่าลูกจะเปียกฝน 

“ได้เจ้าค่ะคุณแพ”

ทั้งสามคนยังไม่ทันถึงบ้านเรือนไทยหลังเก่า ฝนก็เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เหมือนฟ้าพิโรธโกรธใครมายังไงยังงั้น แพรำพัน…

“แก้วรีบเช็ดตัวให้น้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวน้องจะไม่สบาย”

“เจ้าค่ะ คุณพบคงเปียกน้ำฝนแย่เลยนะคะคุณแพ”

“เร็วๆเข้าเถอะรีบดูแลน้อง ฉันก็จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอก็เหมือนกันแก้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

 “เจ้าค่ะ คุณแพ”

ฝนกระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา พบถือข้าวของพะรุงพะรังด้วยตัวเองเปียกปอนไปทั่วทั้งตัว

 “พบเร็วรีบเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะไม่สบายเอา พรุ่งนี้วันโกนเราต้องไปเก็บดอกบัวไปส่งเจ้หมวยมากหน่อย เพราะเป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดี๋ยวไม่สบายเอา นี่จ้ะผ้าเช็ดตัวดูพบหนาวมากนะเนี่ย ดูซิตัวสั่นเชียว”

แพเอามือจับตัวสามี  พบบ่นว่า

 “แพ พบรู้สึกหนาวจับใจเลย แปลกจริง เหมือนจะเป็นไข้”

 “แก้วรีบหยิบเสื้อหนาๆให้คุณพบเร็ว ผ้าห่มด้วย”

คืนทั้งคืนพบนอนหนาวสั่นเพราะฤทธิ์ไข้ จนหลับไปในที่สุด เสียงไก่ขันแล้วแต่พบก็คงนอนซมอยู่ด้วยฤทธิ์ของไข้เมื่อคืนที่ผ่านมา  แพเต็มไปด้วยความกังวลกับอาการป่วยไข้อย่างกะทันหันของสามี

 “พบกินข้าวต้มร้อนๆที่แก้วนำมาให้หน่อยนะ วันนี้ไม่ต้องไปเก็บดอกบัวหรอก เดี๋ยวแพแก้ว ลูกใบบัวจะค่อยๆพายเรือไปเก็บกันเองจ้ะ”

พบค่อยๆพยุงตัวขึ้นมากินข้าวต้มผสมเกลือ  สีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใยเมื่อได้ยินแพบอกว่าจะไปเก็บดอกบัวเอง

 “แพจะเก็บดอกบัวไหวไหม เดี๋ยวพบพักสักหน่อยก็คงจะดีขึ้นนะแพ”

 “ไม่เป็นไร แพกับแก้วทำได้ มาลัยก็ร้อยไว้บ้างแล้วห่อไว้ในใบบัวนอกชานบ้าน เหลือไม่เท่าไหร่ก็จะครบตามที่เจ้หมวยสั่งไว้แล้วจ้ะ”

 หน้าผากของพบร้อนผ่าวเมื่อแพเอามืออันเรียวงามลูบ แหวนก้อยที่พบมอบให้แพใน

วันที่แพตั้งท้องลูกคนที่สองยังสวมไว้ที่นิ้วก้อยซ้าย แพนึกถึงคำพูดของพบ…

“แหวนก้อยนี้พบได้จากน้ำพักน้ำแรงจากการขายดอกบัว ดอกลั่นทม เป็นสัญลักษณ์

ของความรักอันยิ่งใหญ่ พบให้แพ รักเราเป็นนิรันดร์”

แพมองใบหน้าพบเหมือนอะไรบางอย่างแทรกเข้ามาในความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูก

พลัดพรากจากสิ่งที่รัก รู้สึกเศร้า…จนน้ำตาไหล แพถามตัวเอง………….ทำไมเราถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้นะแพ เราไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย มันประหวั่นพรั่นพรึงจนรู้สึกกลัว เกิดอะไรขึ้นนะแพ เป็นคำถามที่แทรกเข้ามา แค่จะไปเก็บดอกบัว แต่ทำไมเกิดความอ้างว้าง เดียวดาย รู้สึกใจหายยังไงพิกล

“แพเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเงียบไป”

พบกุมมือเมียรักไว้แน่น

 “เปล่าจ้ะ พบพักผ่อนให้สบายเถอะ เดี๋ยวแพจะรีบไปเก็บดอกบัวกับแก้วแล้วจะกลับมา”

พบดึงตัวเมียรักมากอดไว้แน่น

“แพ พบรักแพรักลูกที่สุดในชีวิต เวลาทั้งหมดในชีวิตพบมีไว้เพื่อรักแพและลูกเท่านั้น

นะแพ”

แพน้ำตาไหลพราก ซ่อนความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่มีเสียงตอบจากแพนอกจากเสียงสะอื้นเบาๆในหัวใจของแพ แพค่อยๆยกวงแขนที่โอบกอดของพบที่ยังคงแนบแน่นอยู่ออกจากตัวแล้วรีบสลัดความรู้สึกที่กำลังอ่อนไหว เสียงเรียกของแก้วดังขึ้นทำให้แพสะดุ้งสุดตัว…

“คุณแพขา แก้วกับน้องใบบัวพร้อมแล้วนะคะ”

มณีจันทร์ฉาย