Just Say Know

มะเร็งลำไส้ใหญ่ พรากฮีโร่ Black Panther ไปจากเด็กๆ

ข่าวการจากไปของ Chadwick Bosemen นักแสดงที่รับบทเป็น Black Panther หรือกษัตริย์ ทีชาลา ราชาแห่งวากานดามหานคร อีกหนึ่งฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ ออกมาให้ได้รู้กันล่วงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นด้วยวัยเพียง 43 ปี บวกกับไลฟ์สไตล์ที่ดูเหมือนจะแข็งแรงดีเสียด้วยซ้ำ มีเพียงลักษณะที่ซูบผอมลงของ Bosemen ผ่านออกมาทางโซเชียลมีเดียของเจ้าตัว ที่ทำให้แฟนๆ ต่างคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา

การจากไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในขณะที่ปัจจัยต่างๆ ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยง ทำให้หลายๆ หันมาให้ความสนใจในเรื่องมะเร็วลำไส้ใหญ่กันมากขึ้น โบสแมน เสียชีวิตในวัย 43 ปี ตามรายละเอียดจากข่าวระบุว่า เขาตรวจพบครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน และได้ทำการรักษามาตลอด นั่นหมายความว่า โบสแมน ตรวจเจอตั้งแต่อายุ 39 ปี ซึ่งถือเป็นส่วนน้อย เนื่องจากปกติ 90%มะเร็งลำไส้ใหญ่จะเจอในคนอายุมากกว่า 45 ปี ทำให้หลายๆ คนหันมาให้ความสนใจโรคร้ายนี้กันมากขึ้น

มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นเซลล์มะเร็งของเนื้อเยื่อลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง   ซึ่งชนิดที่พบบ่อยเกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้มีการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตผิดปกติ กลายเป็นติ่งเนื้อเล็กๆ เรียกว่า โพลิพ จากนั้นติ่งเนื้อจะใช้เวลาหนึ่งในการพัฒนากลายเป็นมะเร็ง การตัดติ่งเนื้องอกออก สามารถป้องกันไม่ให้ติ่งเนื้อพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ แต่ถ้าหากรักษาไม่ทันการอาจลุกลามทะลุผนังลำไส้หรือแพร่กระจายต่อไปได้

สำหรับในบ้านเรา มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด โดยจากสถิติพบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่เพศชาย 10 คนต่อประชากรชาย 100,000 คน และเพศหญิง 7 คนต่อ 100,000 คน แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลเกินไปนัก เพราะสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากกรรมพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งแล้ว พฤติกรรมการกินอาหาร ก็คือสาเหตุหลักของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ้าหากสังเกตอาการ รู้สัญญาณที่ร่างกายส่งมาเตือน และดูแลป้องกันตัวเองตามคำแนะนำ ก็สามารถป้องกันได้

ซึ่งอาการเหล่านี้ เป็นกลุ่มอาการที่บ่งบอกว่าอาจจะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ต้องหมั่นสังเกตและเฝ้าระวัง

1. พฤติกรรมในการขับถ่ายอุจจาระเปลี่ยนแปลงไปจากปกติของแต่ละบุคคล โดยอาจจะถ่ายบ่อยครั้งขึ้น หรือท้องผูกมากขึ้น นอกจากนี้จะมีถ่ายไม่สุดหรือปวดเบ่งได้2. มีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูก3. มีเลือดสดๆ หรือเลือดแดงคลํ้าปนออกมากับอุจจาระ4. อุจจาระมีลักษณะผิดปกติจากเดิม ลักษณะก้อนเปลี่ยนเป็นเส้นแบนคล้ายตังเม5. มีท้องอืด ปวดท้องแน่นท้อง จุกเสียด มีลมในลำไส้มาก (Abdominal Discomfort)
6. นํ้าหนักลดลง ซีด เลือดจาง โดยไม่ทราบสาเหตุ7. เหนื่อย อ่อนเพลียไม่สามารถทำงานที่เคยทำตามปกติได้

ถ้าพบว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุของอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อไป

โดยเฉพาะหากประวัติในครอบครัวมีญาติสายตรง เช่น พ่อ หรือ แม่ เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจเลือดทั่วไป, การตรวจอุจจาระว่ามีเลือดปะปนไหม จนไปถึงการตรวจด้วยการส่องกล้อง ตามแต่แพทย์จะแนะนำ ซึ่งควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุของพ่อหรือแม่ที่ตรวจพบครั้งแรกลบ 10 ปี เพราะจากข้อมูลพบว่า กว่าเซลล์ที่ผิดปกติ จะพัฒนาเป็น เซลล์มะเร็งนั้นใช้เวลา 10 ปี ดังนั้นหาก พ่อ หรือ แม่ ตรวจพบตอนอายุ 60 ปี ลูกก็ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ (60 – 10) นั่นก็คือ อายุ 50 ปี

นอกจากจะขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ Chadwick Bosemen แล้ว ก็ยังต้องขอขอบคุณเขา ที่การจากไปครั้งนี้ ช่วยให้หลายคนหันมาสนใจและใส่ใจในสุขภาพตัวเองมากขึ้น แม้ว่าจะมีไลฟ์สไตล์ที่ดูแข็งแรง และอายุจะยังไม่มากก็ตาม