ราห์ม ขึ้นหมายเลขหนึ่งกอล์ฟโลก
จอน ราห์ม กลายเป็นนักกอล์ฟสเปนคนแรกนับตั้งแต่ เซวี บาเยสเตอรอส เมื่อปี 1989 ที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งขอโลกสำเร็จหลังคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการเม็มโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 295 ล้านบาท ณ สนามเมียร์ฟิลด์ วิลเลจ ในดับลิน โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
จอน ราห์ม โชว์ช็อตมหัศจรรย์ชิพระยะ 31 ฟุตลงที่หลุม 16 พาร์ 3 ถึงแม้ว่าจะโดนปรับสองสโตรกจากเบอร์ดี้กลายเป็นโบกี้ แต่สุดท้ายเข้าเขาก็ยังคว้าชัยชนะรายการนี้ไปครองสำเร็จด้วยการทิ้ง ไรอัน พาลเมอร์ จากสหรัฐอเมริกา 3 สโตรก พร้อมกับแซง รอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นครั้งแรกในชีวิต
“ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ออกมาเป็นคำพูดได้” ราห์ม กล่าว “นี่มันคือเป้าหมายของผมตั้งแต่สมัยอายุเพียง 13 หรือ 14 ปีเท่านั้น”
ราห์ม นับเป็นหนึ่งในบรรดานักกอล์ฟจากสเปนที่ได้แรงบันดาลใจจาก เซวีบาเยสเตอรอส แชมป์เมเจอร์ 5 รายการชาวสเปนที่เสียชีวิตด้วยวัย 54 ปี เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมาด้วยโรคมะเร็งสมอง
“เซวีนับเป็นผู้เล่นที่วิเศษสำหรับพวกเรานักกอล์ฟชาวสแปนิชทุกคน และการได้เป็นคนที่สองต่อจากเขานั้นนับเป็นเกียรติอย่างแท้จริง” ราห์ม กล่าว “เมื่อใดก็ตามที่คุณได้รับเกียรติเข้าไปร่วมอะไรก็ตามกับ เซวี่ นั้นล้วนสุดยอดทั้งนั้น”
ถึงแม้จะก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก แต่ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาอันยากลำบากของ จอน ราห์ม พอสมควร เนื่องจากในเวลาใกล้ๆกันนี้เขาต้องสูญเสียสมาชิกครอบครัวไปถึง 2 คนจากการติดเชื้อโควิด-19
“มันเป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะผ่านกระบวนการต่างๆในช่วงนี้ไปได้” นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกคนล่าสุดกล่าว “มีเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาให้ผมต้องคิด และที่สำคัญผมไม่สามารถทำอะไรได้มากนักกับเกมกอล์ฟของตัวเอง”
ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ราห์ม ตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75 รวมสี่วันคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 ตามมาด้วย ไรอัน พาลเมอร์ ส่วน แมทธิว ฟิทซ์แพทริก จากอังกฤษจบอันดับสามด้วยสกอร์ 283 หลังจบสกอร์รอบสุดท้าย 68 ขณะที่ เจสัน เดย์ จากออสเตรเลีย และ แมทท์ วอลเลซ จากอังกฤษ จบอันดับสี่ร่วมกันด้วยสกอร์ 284
ราห์ม สตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำ 4 สโตรกและผ่านเก้าหลุมแรกหนีห่างไปเป็น 8 แต้มก่อนจะเสีย 4 สโตรกในการเล่น 5 หลุมถัดไป เริ่มด้วยโบกี้ที่หลุม 10, ดับเบิลโบกี้ที่หลุม 11 และ โบกี้ที่หลุม 14 ทำให้ พาลเมอร์ ไล่หลังเหลือเพียง 3 สโตรก
จุดเปลี่ยนสำคัญของนักกอล์ฟวัย 25 ปีจากสเปนคือชิพมหัศจรรย์ที่หลุม 16 ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า “นั่นเป็นการชิพที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผม ผมไม่รู้ว่าจะสามารถเล่นอะไรให้ดีไปกว่านั้นอีกแล้ว เป็นการเล่นลูกสั้นที่ดีที่สุดของผม มันเหลือเชื่อจริงๆ”
แจ๊ค นิคลอส แชมป์เมเจอร์ 18 รายการซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ที่เมียร์ฟิลด์ วิลเลจ ในดับลิน มลรัฐโอไฮโอ บอกว่าชิพมหัศจรรย์ของ ราห์ม นั้นเป็นช็อตที่น่าตื่นเต้นในขณะที่เข้าไปแสดงความยินดีกับ ราห์ม บนกรีนหลุม 18
ราห์ม ที่ชนะยูเอสพีจีเอทัวร์อย่างน้อยฤดูกาลละ 1 รายการเป็นปีที่สี่ติดต่อกันโดยปรับโทษ 2 สโตรก หลังจากภาพช้าจากการถ่ายทอดสดแสดงให้เห็นว่าในขณะที่เขาสัมผัศหญ่าหลังลูกกอล์ฟก่อนชิพมหัศจรรย์นั้น ปรากฏว่าลูกกอล์ฟเคลื่อนเล็กน้อยแม้จะไม่ได้เป็นการปรับแต่งไลก็ตาม
“ผมไม่เห็นและไม่ได้รู้สึกอะไรเลย “ราห์ม กล่าวยอมรับคำตัดสินหลังได้ดูภาพช้า “ลูกกอล์ฟเคลื่อนและเสียโทษแน่นอน ผมยอมรับ โชคไม่ดีที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่นั่นก็ยังเป็นช็อตที่ยอดเยี่ยม”
เม็มโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ เป็นพีจีเอทัวร์รายการที่หกที่กลับมารีสตาร์ทอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้การแข่งขันกีฬาทั่วโลกได้ผลกระทบ
สรุปผลเดอะ เม็มโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ (สนามพาร์ 72)
279 จอน ราห์ม (สเปน) 69-67-68-75
282 ไรอัน พาลเมอร์ (สหรัฐฯ) 67-68-73-74
283 แมทธิว ฟิทซ์แพทริก (อังกฤษ) 75-66-74-68
284 แมทท์ วอลเลซ (อังกฤษ) 72-70-70-72
284 เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย) 73-66-72-73
285 แมคเคนซี ฮิวก์ส (แคนาดา) 74-66-73-72
285 เฮนริก นอร์แลนเดอร์ (สวีเดน) 74-66-71-74
286 โทนี ฟิเนา (สหรัฐฯ) 66-69-73-78
287 เควิน นา (สหรัฐฯ) 74-69-71-73
288 ลุค ลิสต์ (สหรัฐฯ) 70-68-79-71
288 แพทริก รีด (สหรัฐฯ) 71-76-70-71
288 ชาง ซินจุน (จีน) 72-73-70-73