Sport for Life

กอล์ฟ VS เทนนิส

“กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ” ประโยคนี้เป็นท่อนแรกของเพลง “กราวกีฬา” จากอดีตย้อนไปราวๆ 50 ปี เพลงนี้ทุกคนแทบจะร้องกันได้จบแบบสมบูรณ์ก็ว่าได้ แต่อนิจจาพอเวลาล่วงเลยมา พ.ศ. นี้ใครร้องเพลงนี้เด็กจะถามว่า “ลุงเพลงไรลุง” ถ้าจะให้รู้เรื่องคงต้องอธิบายกันยืดยาว แต่จะอะไรก็ช่าง “กีฬานอกจากเป็นยา ยังทำมาหากินได้ด้วย” ในสมัยที่ผมเริ่มยึดเอากีฬาเป็นอาชีพ ทั้งเล่น ทั้งสอน ทั้งจัดแข่ง เรียกว่าอะไรที่จะตอบโจทย์กับคำว่าอาชีพที่ทำเงินได้ครูไก่เอาหมด แต่นั่นมันก็กว่า 30 ปีมาแล้ว สมัยนั้นก็มีกีฬาเทนนิสนี่แหละที่ขึ้นหน้าขึ้นตาเป็นสิวก็ว่าได้ แทบจะทุกมุมของถนนมักจะมีสนามเทนนิสมาเป็นส่วนประกอบของชุมชนอยู่เสมอ แล้วยิ่งต่างจังหวัดเจ้ากีฬาเทนนิสมันก็มาเป็นที่ชุมนุมของบรรดาผู้มีฐานะหรือมีชื่อเสียงของจังหวัด มาใช้เป็นแหล่งออกกำลังกายพร้อมกับการคุยเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงที่ตามโอกาสจะอำนวย

ประเด็นหนึ่งที่หลายๆ คนมีความพยายามที่จะสร้างนักกีฬาสู่อาชีพให้สำเร็จสักที แต่สุดท้ายปลายทางก็จอดกันเป็นแถวๆ เราเคยมีนักกีฬาเทนนิสที่มีทุกอย่างที่นักเทนนิสควรจะมี แล้วแถมด้วยคำว่า “เก่งจริง” เสียด้วย เพราะในระดับเยาวชนไม่เกินอายุ 14 ทั่วโลกเรียงหน้าเข้ามาเราเอาอยู่ได้ แต่พอเข้าสู่อาชีพหลังจาก 16 ปีขึ้นไปทุกอย่างมันชวนให้น่าแปลกคือ “ทุกอย่างมันได้ไม่เท่าเสีย” จริงๆ …ครูไก่อยากจะทำความเข้าใจกับกีฬาสองชนิดว่าทำไมในระยะยาวอะไรไปโลดกว่ากัน

เทนนิสไล่เรียงมาแต่ในระดับเยาวชนมันมีกี่การแข่งขันกัน เอาเป็นว่าเวลาในรอบแรกเทนนิสมือใหม่ไม่น่าเกิน 1 ชั่วโมง ถ้าตกรอบแรก กับกอล์ฟการแข่งขันของเด็กต้องมี 4- 5 ชั่วโมงกว่าจะจบ นอกจากนั้นยังมีระดับชั้นให้เล่นเข้าไปอีก นักกอล์ฟตั้งแต่เล็กจะได้ฝึกปรือกันเป็นระบบจริงๆ สนามที่เป็นสังเวียนที่ดวลสวิงกันมันก็มีอยู่มากมายหลายรูปหลายแบบ เทนนิสทั่วโลกเท่ากันหมดทั้งขนาดและหน้าตาคือใครเก่งขึ้นมาล้มยากมาก ใครจะมาหักปากกาเซียนมันค่อนข้างยากเย็น แต่กอล์ฟมันเป็นวันๆ นะบางทีคนเก่งเมื่อวานพอวันนี้ออกทะเลไปซะงั้น ส่วนพวกมือรองก็มีโอกาสเป็นผู้นำกับเขาเหมือนกัน…

พอเข้าโหมดการฝึกซ้อมเทนนิสหนักจริงๆ แล้วเก่งยากเย็นแสนเข็ญ ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน คือกว่าจะเอาดีได้หมดเหงื่อไปเป็นร้อยลิตรพันลิตรกระมัง นอกจากนั้นยังมีคู่ซ้อมอีกที่เป็นตัวแปรสำคัญ จะไปตีลมมันไม่มีทางจริงๆ กอล์ฟเหรอ สบายซ้อมกันเป็นวันๆ ยังได้ จัดแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบกันเลยแล้วซ้อมแบบนี้เก่งเร็วอีกด้วย กอล์ฟจัดหนักจัดเต็มได้สบาย พอเทนนิสซ้อมที่ว่าคือชุดใหญ่แบบกอล์ฟบอกได้เลยครับว่า “ตายก่อน”รุ่ง แต่พอฝีมือพอไปได้มันก็ต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายกับเรื่องที่จำเป็นเชื่อว่า “ฝีมือเท่าๆ กันกอล์ฟกินขาด” ในเรื่องการทำเงินทำทอง เพราะในเรื่องของการตกรอบมันมีผลกับเงินรางวัลจริงๆ ถ้าพูดในแบบบ้านเราหรือแถบนี้กอล์ฟทำเงินกว่าเทนนิสมากมายนัก หากฝีมือเท่าๆ กันในระดับ “เอเชี่ยนทัวร์”…นี่เอาแค่คร่าวๆ ว่าทำไมตอนนี้เทนนิสกับกอล์ฟมันถึงได้รับความนิยมในการฝึกฝนที่แตกต่างกัน ตอนนี้กอล์ฟมาแรงแซงไปแล้วคครับ…ก็จากเหตุผลดังว่าแหละครับ 

ครูไก่