มอริกาวา ซิวแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่สองในอาชีพ
คอลลิน มอริกาวา นักกอล์ฟดาวรุ่งชาวอเมริกันขึ้นไปแท็ปอินพาร์ที่หลุมสามของการซัดเด้นเดธเพลย์ออฟเฉือนชนะ จัสติน โธมัส คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการเวิร์คเดย์ แชริตี โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 194 ล้านบาท ณ สนามเมียร์ฟิลด์ วิลเลจ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
คอลลิน มอริกาวา ที่นำการแข่งขันในสองวันแรก ทว่าในรอบสุดท้ายที่เมียร์ฟิลด์ วิลเลจ เขาตามหลัง 3 สโตรกในช่วงการเล่น 3 หลุมสุดท้าย แต่ไล่ก็สามารถขึ้นมาดวลซัดเด้นเดธเพลย์ออฟสำเร็จ
จากนั้นเขาก็โกงความตายอีกครั้งด้วยการลากเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 24 ฟุตลงไปที่หลุมแรกของการเพลย์ออฟเพื่อยันเสมอหลังจากที่ก่อนหน้านั้น โธมัส ซึ่งออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำเพิ่งยิงเบอร์ดี้มหัศจรรย์ระยะ 50 ฟุตลงไป
“มันน่าทึ่งจริงๆ” คอลลิน มอริกาวา นักกอล์ฟอเมริกันวัย 23 ปีกล่าว โดยในรอบสุดท้ายเขาทำสกอร์เพิ่มอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 19 อันเดอร์พาร์ 269 บนเส้นทางการคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในอาชีพ
ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นการแก้ตัวของ มอริกาวา หลังจากที่เพิ่งแพ้ซัดเด้นเดธเพลย์ออฟในรายการชาร์ลส์ ชวาบ ชาลเลนจ์ เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้หลังจากพีจีเอทัวร์กลับมาแข่งขันกันได้อีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
ทางด้าน จัสติน โธมัส นักกอล์ฟอันดับห้าของโลกที่กำลังไล่ล่าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 13 ในชีวิต แต่ทำไม่สำเร็จหลังทีช็อตที่หลุมสามของการเพลย์ออฟที่ใช้หลุม 10 พาร์ 4 ลูกหลุดไปทางด้านขวาแถมโชคร้ายไปตกหลังต้นไม้
โธมัส นั้นจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 แต่การเล่นในช่วง 3 หลุมสุดท้ายนั้นพลาดเสียไป 2 โบกี้จนต้องเล่นเพลย์ออฟ ทั้งที่ตอนออกสตาร์ทวันนั้นมีสกอร์นำหน้า วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ จากนอร์เวย์ 2 สโตรก และนำหน้า มอริกาวา 3 แต้ม
“ถ้าจะให้ผมอธิบายความรู้สึกจริงๆก็บอกได้เลยว่ามันน่าโมโหมาก” โธมัส กล่าว “ผมนำอยู่ 3 สโตรกและเหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 หลุมเท่านั้น แต่ทำหลุดมืออย่างสิ้นเชิง แต่ คอลลิน ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะที่หลุมยากอย่างหลุม 17”
“เราทั้งสองคนต่างทำเบอร์ดี้อันยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ในการเพลย์ออฟสองหลุมแรก ที่จริงผมมีโอกาสที่จะชนะตั้งแต่ในรอบปกติและที่หลุมสองของการเพลย์ออฟ แต่ก็ทำไม่สำเร็จเอง” โธมัส กล่าว
การแข่งขันเวิร์คเดย์ แชริตี โอเพ่น ในเป็นพีจีเอทัวร์หนึ่งในสองรายการติดต่อกันที่จะเล่นที่สนามในดับลิน มลรัฐโอไอโอ ที่ แจ๊ค นิคลอส เป็นผู้ออกแบบ โดยในสัปดาห์ถัดไปนั้น เจ้าหมีทอง จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการ เดอะ เม็มโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ ที่สนามแห่งเดียวกันนี้
มอริกาวา นั้นสตาร์ทรอบสุดท้ายของเขาด้วยการตามหลังผู้นำ 3 สโตรก หลังจากออกสตาร์ทสองวันแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 และ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ตามลำดับจนเป็นผู้นำหลังจบรอบแรกและรอบสอง
หนุ่มอเมริกันวัย 23 ปีเริ่มต้นอย่างร้อนแรงเพื่อจะไต่ขึ้นไปบนลีดเดอร์บอร์ดด้วยการเก็บ 2 เบอร์ดี้กับอีก 1 อีเกิ้ลในการเล่นห้าหลุมแรก
มอริกาวา เก็บเพิ่มอีก 3 เบอร์ดี้ในการเล่นเก้าหลุมสุดท้าย ที่รวมถึงเบอร์ดี้ที่หลุม 17 พาร์ 4 ด้วยการแอพโพรชด้วยเหล็กแปด ถูกขึ้นไปตกและสปินกลับมาหาหลุมเหลือระยะประมาณ 8 ฟุต และพัตต์เบอร์ดี้ลงไปผมกับชูกำปั้นอย่างสะใจ
อย่างไรก็ตาม มอริกาวา ไปพลาดเสียโบกี้แรกและโบกี้เดียวของวันที่หลุม 13 พาร์ 4 ทำให้จบสกอร์วันสุดท้ายเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์ 66 แต่ดราม่าเกิดที่หลุมแรกของการเพลย์ออฟเมื่อทั้งคู่ต่างลากเบอร์ดี้ยาวลงไป
โธมัส สร้างความยอดเยี่ยมก่อนด้วยการลากเบอร์ดี้ระยะ 50 ฟุตไลน์ลงเลินลงไปก่อนพร้อมชัยชนะแทบจะอยู่ในกำมือ แต่ มอริกาวา เอาตัวรอดด้วยการเก็บเบอร์ดี้ระยะประมาณ 25 ฟุตลงไปทำให้ต้องกลับไปเล่นที่หลุม 18 อีกครั้งในการเพลย์ออฟหลุมที่สอง
ที่สุด มอริกาวา สามาถคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จในการเล่นหลุมที่ 75 ของวันจากการทำสองพัตต์ หลังจากที่ โธมัส ทีช็อตหลุดแฟร์เวย์ แถมช็อตสองต้องชิพออกมาระยะสั้นๆเนื่องจากลูกไปตกหลังต้นไม้
ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นการคว้าแชมป์ยูเอสพีจีเอทัวร์รายการที่สองในอาชีพของ คอลลิน มอริกาว่า และเกิดขึ้นหลังจากลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพเพียงแค่ 24 รายการเท่านั้น
“เหมือนกับการก้าวข้ามก้อนหินก้อนโต” มอริกาวา กล่าว “ผมคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกมาครองได้แล้ว ผมชนะพีจีเอทัวร์รายการที่สองแล้ว มันเหมือนกับการเปิดประตูบานใหญ่และทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไป เพราะเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ผมเพิ่งแพ้อย่างเจ็บปวดที่ โคโลเนียล แต่ผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาก”
“ตอนนี้ผมพยายามคิดในแง่ดี และพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” มอริกาวา กล่าวในที่สุด