New Normal ความธรรมดาในแบบใหม่
เราเดินทางฝ่าฟันวิกฤติ โควิด-19 มาได้หลายเดือนแล้ว ต้องยอมรับว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปหลายอย่าง และดูจากสถานการณ์ที่มีทีท่าว่าจะยึดเยื้อไปอีกเป็นปี รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา จะกลายเป็นรูปแบบชีวิตปกติต่อไปในอนาคต ที่หลายคนเรียกมันว่า “New Normal”
หลายคนอาจจะเพิ่งได้ยินคำว่า “New Normal” ในช่วงนี้ แต่จริงๆ แล้ว คำนี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 2008 โดย Bill Gross นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดัง เป็นคนนิยามขึ้น ถึงสภาวะรูปแบบเศรษฐกิจโลกที่จะไม่ได้เป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจเดิมแบบที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น
และในวันนี้ “New Normal” ก็ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว จะหมายรวมถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวันหลายๆ อย่าง ที่จะต้องเปลี่ยนไป เพื่อที่จะให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ แม้ว่า โควิด-19 จะยังไม่หมดไป และอาจจะรวมไปถึงโรคใหม่ๆ ที่อาจจะโผล่มาแพร่ระบาดในอนาคตอีกด้วย
“New Normal” หลายอย่างเคยมีอยู่แล้ว แต่ถูกยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น หลายอย่างก็เป็นเรื่องใหม่ ที่ต้องค่อยๆ ปรับตัวกันไป ไม่ว่าจะเป็น การอยู่บ้านเป็นหลัก สิ่งไหนที่สามารถทำจากที่บ้านได้ ก็ทำจากบ้านให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การประชุม การติดต่อสื่อสาร การเรียน การซื้อของ ไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน ก็ต้องป้องกันตัวเองให้ดี
เมื่อต้องออกจากบ้าน การสวมหน้ากาก ป้องกันการไอจามตลอดเวลาที่อยู่ในที่ออกจากบ้าน เข้าไปยังที่ชุมชน ร้านค้า รวมถึง ธนาคาร ร้านทองก็ไม่เว้น, การล้างมือ บ่อยๆ ขณะอยู่ข้างนอก หลังจากจับสิ่งของสาธารณะ หรือเผลอจับหน้ากากตัวเอง, เว้นระยะจากคนรอบข้าง อย่างน้อย 1-1.5 เมตรเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การรอคิวซื้อของ กดเงิน นั่งดื่มกาแฟ หรือทานอาหาร เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย, ของใช้ของใครของมัน ไม่ว่าจะเป็น จาน ช้อน แก้วเครื่องดื่ม ลืมเรื่องช้านกลางไปเลย รวมไปถึงสิ่งของที่ต้องใช้มือหยิบจับ อย่างปากกาเซ็นต์ชื่อ ก็ควรมีของส่วนตัวพกติดไว้
และเมื่อกลับบ้าน ควรล้างมือก่อนเข้าบ้าน เข้าบ้านแล้วไปอาบน้ำก่อนจะไปทักทายคนใกล้ชิด ก็จะดีมาก
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “New Normal” ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่อาจจะมีเพิ่มเติมในอนาคต หากเรามีข้องมูลเรื่องการแพร่ระบาดของ โควิด-19 มากขึ้นกว่านี้
เราเองไม่เพียงจะต้องปรับตัวในด้านผู้ปฏิบัติ แต่จะต้องเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับสังคม “New Normal” ในกรณีที่เราเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวของ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านทอง หรือให้บริการขนส่งสาธารณะ เมื่อก่อนสิ่งเหล่านี้อาจจะดู “พิเศษ” ในการใช้ชีวิตปกติ แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นเรื่อง “ธรรมดา” รูปแบบใหม่ไปแล้ว