ผลกระทบจาก โควิด-19
ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ส่งผลกระทบต
่อนักเรียน นักกีฬา และลูกๆ ของเราอย่างไรบ้าง
สวัสดีครับ
เจอกันอีกครั้งในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งกับการระบาดของไวรัสโควิด19 สำหรับผมเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 54 ครั้งนั้นว่าหนักสุดๆแล้วแต่ครั้งนี้หนักกว่าเพราะส่งผลกระทบต่อชีวิต และเศรษฐกิจของคนทั่วโลกอย่างมหาศาลซึ่งไม่สามารถประเมินความสูญเสียได้เลย และก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร ขณะที่รัฐบาลรณรงค์ให้ประชาชนทุกครอบครัวงดเว้นการออกจากบ้าน เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาด หลายสิ่งหลายอย่างต้องหยุดชะงักหมด แทบจะทุกๆวงการ เด็กๆไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่ได้ไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สวนสนุก หรือแม้แต่การเดินทางไปยังสถานที่บางแห่งก็มีข้อจำกัดทั้งหมดทั้งสิ้น
การจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ ก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด สนามกีฬาทุกแห่ง สนามกอล์ฟ สนามไดร์ฟกอล์ฟ สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอลก็ปิดให้บริการเช่นกัน สมาชิกหลายคนในครอบครัวก็คงรู้สึกหวั่นวิตกกันไม่น้อย เด็กๆ เองก็รับรู้เรื่องราวต่างๆ จากการที่พ่อแม่ดูข่าวสารการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ผ่านทางสื่อต่างๆ ผมเห็นลูกของผมเอามือแตะหน้าผากอยู่หลายครั้งพร้อมกับถามผมว่า “หนูมีไข้ไหมตัวร้อนไหม”
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดว่าเราควรหากิจกรรมอย่างอื่นทำร่วมกันในครอบครัวและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เริ่มจากกิจกรรมด้านการเรียน คุณพ่อคุณแม่ลองทำสื่อการเรียนการสอนขึ้นมาซึ่งหาข้อมูลได้ไม่ยากจากทางอินเทอร์เน็ตมาให้ลูกลองทำ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ในระหว่างที่โรงเรียนต่างๆ ปิด และสอดแทรกกิจกรรมทางสันทนาการด้วย สำหรับผมก็หาเลโก้หรือตัวต่อจิ๊กซอต่างๆ บอร์ดเกมส์ บิงโก มาเล่นร่วมกันก็สนุกไปอีกแบบครับ มาทางด้านวิทยาศาสตร์กันบ้างนะครับ เปิดช่องยูทูปก็มีข้อมูลจากหลากหลายแหล่งให้เลือก ทำการทดลองต่างๆ จากสิ่งของที่มีในบ้านให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จากการลงมือทดลองจริง หรือการเกษตรเองผมก็ได้มีโอกาสซื้อเมล็ดพันธุ์พืช และดิน ชวนลูกๆ มาช่วยกันปลูกต้นไม้พร้อมทั้งอธิบายให้เขาเข้าใจว่า ทำไมต้นไม้ถึงต้องการแสงแดด น้ำ ในดินมีแร่ธาตุอะไร มีประโยชน์อย่างไร สอนพวกเขาให้รักธรรมชาติอีกด้วยครับ ทางด้านกีฬาเองผมก็ดัดแปลงสนามหลังบ้านเป็นที่ซ้อมชิพ และสั่งซื้อพรมสำหรับซ้อมพัตต์ ให้เขาได้ฝึกซ้อมที่บ้าน เด็กๆ ออกกำลังกายกันอย่างสนุกสนาน ช่วงเย็นๆ ก็พากันไปวิ่งเล่น-ขี่จักรยาน ตีแบด ในบริเวณบ้าน ค่ำๆ หลังทานอาหารเสร็จแล้วก็เปิดหนัง หรือช่องกีฬาให้ลูกดู เป็นการใช้เวลาที่มีความสุขร่วมกันครับ บางวันเด็กๆ อยากทำศิลปะเด็ก ฝึกวาดรูประบายสี ประดิษฐ์ของเล่นจากสิ่งของที่เหลือใช้ภายในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีครับ
ทางด้านภาษาต่างประเทศเราก็มีเกมส์ทายคำศัพท์เล่นด้วยกัน สลับกันไป
บางโอกาสก็ฝึกให้เขาไหว้พระสวดมนต์และนั่งสมาธิ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ทั้งในด้านการเรียนและกีฬาอีกด้วยยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายให้ทำร่วมกันในครอบครัวไม่ว่าจะเป็น ทำอาหาร รดน้ำต้นไม้ ทำงานบ้าน
เห็นไหมครับสิ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารักสอนลูกๆ ของเรา ทำให้ทุกคนสนิทสนมและใกล้ชิดกันมากขึ้นและที่สำคัญพวกเราได้ห่างไกลจากมือถือแทปเล็ตด้วยนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เราสามารถจัดสรรกิจกรรมต่างๆ สลับกันไปในทุกๆ วันแค่นี้ก็เป็นการใช้เวลาให้มีประโยชน์ได้แล้วล่ะครับ อย่างไรก็ตามผมขอให้ทุกๆ ครอบครัวดูแลสุขภาพกายและใจกันด้วยนะครับ ที่สำคัญอยู่กับปัจจุบันและทำทุกวันให้มีความสุขที่สุดครับ
ดร. อมร นันทวพกุล
Grow Up Kids พัฒนาศึกษาชีวิต
สร้างความคิดแบบเติบโต