‘เคปกา’ เมินพรีเมียร์กอล์ฟลีก

บรูคส์ เคปกา อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกชาวอเมริกันออกมาเปิดเผยว่าเขาไม่สนใจที่จะร่วมการแข่งขันพรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก หรือ พีจีแอล  ซึ่งจะเปิดฉากในปี 2022 โดยหวังดึงตัวนักกอล์ฟระดับท็อป 48 คนของโลก มาร่วมการแข่งขัน 18 รายการต่อปี

“ผมจะไม่ไปร่วม พีจีแอล แต่ผมจะเล่นในยูเอสพีจีเอทัวร์ต่อไป” บรูคส์ เคปกา กล่าว “ผมไม่อยากจะเชื่อว่ากอล์ฟควรจะเล่นกันเพียงแค่ 48 คนเท่านั้น”

ก่อนหน้านั้น กอล์ฟวีค เพิ่งจะรายงานข่าวว่า จอน ราห์ม นักกอล์ฟหมายเลขสองของโลกจากสเปนก็เปอดเผยว่าเขาจะไม่ร่วมการแข่งขันในพรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก นั่นหมายความว่านักกอล์ฟ 3 อันดับแรกของโลกยังยืนยันที่จะเล่นในพีจีเอทัวร์ต่อไป

รอรี แม็คอิลรอย นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือที่แซง เคปกา ขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของโลกก็กล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในเม็กซิโก ซิตี ประเทศเม็กซิโกว่า เขาไม่สนใจที่ในลีกกอล์ฟใหม่ แม็คอิลรอยกล่าวว่าเขาต้องการการตัดสินใจอย่างอิสระมากกว่าว่าจะไปเล่นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ แทนที่จะต้องผูกมัดกับ 18 รายการ ซึ่งยังไม่รวมถึงรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ

เคปกา เผยว่าเขาตัดสินใจได้ตั้งแต่พบกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันใน ลอสแองเจลิส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างการแข่งขัน เจเนซิส อินวิเตชั่นแนล โดยกล่าวในช่วงเริ่มต้นฟลอริดาสวิงว่า “ผมต้องการเล่นกับนักกอล์ฟที่เยี่ยมที่สุดของโลก”

และในช่วงที่วงการกอล์ฟโลกต้องหยุดชะงักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่จากไวรัสโคโรนา เคปกา จึงออกมาประกาศเพื่อให้ทุกคนกระจ่างว่าเขาจะไม่ไปเล่นที่ไหนนอกว่าพีจีเอทัวร์

เคปกา ที่ปัจจุบันหล่นมาเป็นนักกอล์ฟหมายเลขสามของโลก และ รอมี แม็คอิลรอย ตัดสินใจที่จะมีอิสระกับการเลือกเล่นในพีจีเอทัวร์ โดยเขายังกล่าวถึงเรื่องที่คนส่วนใหญ่ในพีจีเอทัวร์กังวลว่าจะได้รับความสนใจน้อยลงและแฟนๆจะไปให้ความสนใจกับพวกดาวดังที่จะไปเล่นในรูปแบบประเภททีมที่กำลังจะจัดขึ้นมาใหม่ด้วยว่า

“ผมคิดว่าบรรดาซูเปอร์สตาร์เหล่านั้นถือคนที่แฟนๆกอล์ฟอยากจะไปเดินตาม” เคปกา กล่าว “แต่บรรดานักกอล์ฟชื่อดังเหล่านั้นที่เราเห็นพวกเขาชนะกันบ่อยๆ แต่พวกเขาต้องทำงานกันมาอย่างหนักตลอด 10 หรือ 15 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขาสร้างไว้คือเรื่องราวที่มีตำนาน ผมไม่ต้องการที่จะทำให้คนพวกนี้ต้องตกงาน”

เคปกา กล่าวผ่านประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากที่เขาไม่ผ่านเข้าสเตจที่สองของ พีจีเอทัวร์ ควอลิฟายอิ้งสคูล เมื่อปี 2012 และต้องกลับไปเล่นในทัวร์รองอย่าง ชาลเลนจ์ทัวร์ จนที่สุดสามารถคว้ายูโรเปียนทัวร์คาร์ด หรือแม้กระทั่ง พีจีเอทัวร์คาร์ด ที่เขาชนะรายการแรกเมื่อปี 2015 และที่ผ่านมา เคปกา และ แม็คอิลรอย ชนะเมเจอร์มาแล้วคนละ 4 รายการ

“ผมไม่เคยลืมว่าผมมาจากจุดไหน” เคปกา กล่าว “นักกอล์ฟเหล่านี้ นักกอล์ฟ 125 คนที่คว่าพีจีเอทัวร์คาร์ดมาครองได้จะเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไป”

กอล์ฟวีคเองก็รายงานว่าได้ไปสัมภาษณ์ จอน ราห์ม ซึ่งนักกอล์ฟจากสเปนกล่าวว่า “ผมคิดว่าต้องการจะโฟกัสกับการแข่งขันพีจีเอทัวร์ เพราะที่สุดแล้วผมก็เป็นนักกอล์ฟคนหนึ่ง ผมเป็นสมาชิกของพีจีเอทัวร์และมันคงเป็นอย่างนั้นต่อไป”

ส่วนรูปแบบของ พรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก หรือ พีจีแอล นั้นจะแบ่งนักกอล์ฟเป็น 4 ทีมๆละ 12 คน ลงเล่นทั้งหมด 18 รายการต่อปี 10 รายการในจำนวนดังกล่าวจะเล่นกันในสหรัฐอเมริกา โดยเงินรางวัลรวมทั้งหมด 240 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้เล่นที่ชนะเลิศจะได้รับเงินมากถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เคปกา ยังกล่าวด้วยว่าเขาชื่นชอบมากที่จะลงเล่นกอล์ฟประเภททีมอย่าง ไรเดอร์คัพ หรือ เพรสซิเดนท์คัพ “แต่การต้องเล่นแบบนั้นทุกๆสัปดาห์ ผมคิดว่ามีปัญหาแน่ๆ ผมไม่คิดว่ากอล์ฟจะเป็นกีฬาประเภททีม”