ผลงานนักกอล์ฟไทยในกอล์ฟโลก

ผลงานนักกอล์ฟไทยในกอล์ฟโลก

ปี 2015 ที่ผ่านมานักกอล์ฟไทยหลายคนโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจในแทบจะทุกทัวร์ที่พวกเขาเป็นสมาชิกอยู่ ทั้ง ยูโรเปี้ยนทัวร์ แอลพีจีเอทัวร์ เอเชี่ยนทัวร์ และรวมถึงการแข่งขันในประเทศญี่ปุ่น

“โปรช้าง” ธงชัย ใจดี ยอดนักกอล์ฟจากลพบุรีคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่เจ็ดในชีวิตมาครองสำเร็จ ขณะที่ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ เก็บชัยชนะบนเวทียุโรปเพิ่มมาอีก 2 รายการ ทำให้ตอนนี้เขาชนะยูโรเปี้ยนทัวร์ไปแล้วทั้งหมด 3 รายการ

ธงชัย จบฤดูกาลในยูโรเปี้ยนทัวร์ด้วยอันดับ 10 ในเดอะ เรซ ทู ดูไบ และในช่วงปลายปียังมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาสามารถขยับอันดับโลกขึ้นไปถึง 28 ที่นับว่าดีที่สุดเท่าที่มีนักกอล์ฟจากประเทศไทยเคยทำได้นับตั้งแต่มีการจัดอันดับโลกอย่างเป็นทางการ

ขณะที่ โปรอาร์ม กิรเดช นักกอล์ฟมือ 37 ของโลกจบอันดับที่ 13 บนตารางทำเงินยุโรป บวกกับ “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ ที่ทำอันดับเพียงพอที่จะคว้ายูโรเปี้ยนทัวร์คาร์ดในปี 2016 ทำให้ในปีนี้เราจะมีนักกอล์ฟไทยถึง 3 คนโลดแล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์

ทว่าสำหรับ กิรเดช แล้ว ยูโรเปี้ยนทัวร์ทัวร์ดูจะไม่ใช่จุดหมายของเขา เพราะเป้าหมายที่ใหญ่กว่าคือเวทีพีจีเอทัวร์ในสหรัฐอเมริกา และพีจีเอทัวร์คาร์ดคือเป้าที่นักกอล์ฟวัย 27 ปีตั้งไว้สำหรับการแข่งขันในปี 2016 นอกเหนือจากการรักษาอันดับโลกให้อยู่ใน 50 อันดับแรกให้ได้

กิรเดช ที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมาอันดับโลกยังอยู่ที่ 146 แต่จากชัยชนะในรายการเสินเจิ้น อินเตอร์เนชั่นแนล ในประเทศจีน และ พอล ลอว์รี แมทช์เพลย์ ที่สก็อตแลนด์ ส่งผลให้อันดับโลกของเขาขยับพรวดขึ้นมาผงาดใน 50 แรกของโลกสำเร็จ การจบปี 2015 ด้วยอันดับโลกที่อยู่ในท็อป 50 ส่งผลให้ในปี 2016 นี้ กิรเดช จะมีโอกาสได้ลงเล่นในยูเอสพีจีเอทัวร์ถึง 12 รายการ ซึ่งโปรอาร์มมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีเพียงพอที่จะทำเงินรางวัลเพียงพอที่จะคว้าพีจีเอทัวร์คาร์ดมาครองได้สำเร็จ

“นอกจากเมเจอร์ทั้ง 4 รายการและรายการในเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ ปีนี้ผมจะได้เล่นในพีจีเอทัวร์ทั้งหมด 10 รายการ   ถ้าสภาพร่างกายสมบูรณ์และสามารถตีช็อตได้เหมือนอย่างที่ซ้อม ผมคิดว่าเพียงพอที่จะคว้าพีจีเอทัวร์คาร์ดมาครองได้” กิรเดช กล่าว
โปรอาร์มยังกล่าวต่ออีกว่า “ผมจะพยายามเก็บเกี่ยวโอกาสทั้งหมดที่ผมได้เล่นในพีจีเอทัวร์ให้ได้มากที่สุด และหวังว่าผมจะสามารถทำได้ดีทั้งอันดับเงินรางวัลและพีจีเอทัวร์คาร์ดแบบเต็มฤดูกาลสำหรับปี 2017”

“สำหรับโอกาสในการเล่นเมเจอร์ ถ้าผมสามารถผ่านการตัดตัวได้ครบทั้ง 4 รายการก็ถือว่าประสบความสำเร็จ” โปรอาร์มกล่าว “แต่เป้าหมายหลักคือคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาครองให้ได้ และจบอันดับโลกอยู่ในท็อป 20 หรืออย่างน้อยจบปีต้องอยู่ในท็อป 50”

ด้วยการมุ่งสมาธิไปที่พีจีเอทัวร์ ทำให้ กิรเดช จะลงเล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์น้อยลงในปีนี้ หลังจากที่เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาเขาเล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์ไปทั้งหมด 25 รายการ และจบปีด้วยการทำเงินอันดับ 13 ด้วยจำนวนเงินรางวัลสะสม 2,055,618 ยูโร หรือประมาณ 82 ล้านบาท
“เนื่องจากผมชนะในยูโรปเปี้ยนทัวร์ปีนี้ทำให้ผมได้ทัวร์คาร์ดไปจนถึงปี 2017 ผมจึงไม่ต้องกังวลอะไรมากในยุโรป ดังนั้นผมจะเล่นในยุโรปน้อยลงและจะมุ่งสมาธิไปที่การแข่งขันในสหรัฐอเมริกา”

บนเวทีระดับโนอกจากนักกอล์ฟชายแล้ว นักกอล์ฟสตรีของไทยก็โดดเด่นไม่แพ้กันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังแอลพีจีเอ ควอลิฟายอิ้ง สคูล ที่ฟลอริด้า ในช่วงปลายปี ซึ่ง 4 นักกอล์ฟสาวไทยคว้าแอลพีจีเอทัวร์คาร์ดสำหรับปี 2016 มาครองสำเร็จ ประกอบด้วย บุษบากร สุขพันธ์ และ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ สองนักกอล์ฟเจ้าของเหรียญทองในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2014, ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมี  และ นนทยา ศรีสว่าง รวมกับ  พรอนงค์ เพชรล้ำ, เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล, พัชรจุฑา คงกระพันธ์ และ ธิดาภา สุวัณณะปุระ ที่รออยู่แล้ว ทำให้ปีหน้าจะมีสาวไทยถึง 9 คนในศึกแอลพีจีเอทัวร์ 2016 ปริมาณนักกอล์ฟสาวไทยที่เพิ่มมากขึ้นบนเวทีแอลพีจีเอนั่นย่อมเพิ่มโอกาสที่จะเห็นสาวไทยชนะแอลพีจีเอทัวร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ขณะที่ ภรณีย์ ชุติชัย สาวจากเชียงรายก็เพิ่งจะคว้าทัวร์คาร์ดเข้าไปเล่นในเจแปน แอลพีจีเอทัวร์ 2016 ร่วมกับ อรนรินทร์ สัตยาบรรพต ที่เป็นเมมเบอร์ของวงการกอล์ฟสาวญี่ปุ่นมายาวนาน ซึ่งสองสาวก็จะโกยเงินเยนอยู่ในแดนปลาดิบเป็นหลัก

นอกจากนั้นในเวทีระดับรองๆลงมา ยังมีนักกอล์ฟไทยในเซอร์กิตใหญ่ของเอเชียอย่าง เอเชี่ยนทัวร์ ที่หลังจบฤดูกาล 2015 มีนักกอล์ฟไทยถึง 13 คนที่สามารถรักษาทัวร์คาร์ดเอาไว้ได้หลังจบฤดูกาลทำเงินรางวัลอยู่ใน 63 อันดับแรกของออเดอร์ ออฟ เมอริท ประหยัด มากแสง ที่ชนะควีนส์คัพ, แดนไท บุญมา ที่คว้าชัยชนะในรายการเวิลด์ คลาสสิก แชมเปี้ยนชิพ และ เนติพงษ์ ศรีทอง แชมป์มะนิลา มาสเตอร์ส เป็น 3 นักกอล์ฟไทยที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ระหว่างฤดูกาล 2015 ของเอเชี่ยนทัวร์

ส่วน ธงชัย ใจดี ที่แม้ทั้งฤดูกาลจะเล่นในเอเชียเพียง 8 รายการเนื่องจากมุ่งสมาธิไปที่ยูโรเปี้ยนทัวร์ แต่ยังจบฤดูกาลด้วยการทำเงินเป็นอันดับหก โดยผลงานดีที่สุดของเขาคือการจบอันดับสองในศึกไทยแลนด์ คลาสสิก ที่หัวหิน ซึ่งเป็นรายการโคแซงชั่นกับยูโรเปี้ยนทัวร์

ทางด้าน นายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกอล์ฟไทยมายาวนานกล่าวว่าการพัฒนาของนักกอล์ฟไทยนั้นกำลังมาถูกทางแล้ว แต่เขาเชื่อว่ายังสามารถไปไกลกว่านี้ได้อีก

“ผมค่อนข้างประทับใจทีเดียวกับพัฒนาการและผลงานของพวกเขาในปีที่ผ่านมากับการเป็นตัวแทนประเทศไทยบนเวทีระดับโลก ซึ่งงานนี้บรรดาโค้ชของพวกเขาก็ต้องได้รับเครดิตนี้ด้วย ความสำเร็จของนักกอล์ฟไทยนั้นเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้คนมีความสนใจในกีฬากอล์ฟเพิ่มมากขึ้น”

“การดูกอล์ฟสมัยนี้สนุกมากขึ้นเมื่อมีนักกอล์ฟไทยขึ้นไปมีลุ้นในเกือบจะทุกๆสัปดาห์ เมื่อก่อนเราดูกอล์ฟเราก็ได้แต่เชียร์คคนอื่น ดู ไทเกอร์ วู้ดส์ บ้าง แต่ตอนนี้เรามีนักกอล์ฟของไทยให้เชียร์กันแล้ว สัปดาห์ไหนที่นักกอล์ฟไทยมีลุ้นผมก็จะไม่ไปไหนเลย นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีอย่างเดียว”

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวต่ออีกว่า “อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนนี้นักกอล์ฟเราทำผลงานกันได้ดีแล้ว แต่มันยังต้องพัฒนาต่อไปซึ่งนักกอล์ฟเหล่านี้เขารู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร  ทุกคนล้วนเป็นมืออาชีพ”

“สิ่งที่ผมอยากเห็นคือนักกอล์ฟไทยได้เข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์และแอลพีจีเอทัวร์มากขึ้น และอยากเห็นนักกอล์ฟไทยสักคนชนะในรายการใหญ่ๆเหล่านั้น และผมคิดว่าเรามีโอกาสเพราะมีหลายคนที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะชนะได้” นายสันติ กล่าวในที่สุด
ครั้งหนึ่งเราไม่เคยคาดคิดว่าจะมีนักกอล์ฟไทยขึ้นไปยืนสู้ได้ในระดับโลก แต่วันนี้เราทำได้และสามารถสู้กับมือระดับเวิลด์คลาสได้อย่างสนุก

กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว การที่นักกอล์ฟคนหนึ่งประสบความสำเร็จในเวทีระดับใดระดับหนึ่งย่อมเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟในรุ่นต่อๆมา  เป็นการสร้างรากฐานอย่างยั่งยืน จากเจอเนเรชั่นหนึ่งส่งต่อสู่อีกเจอเนเรชั่นหนึ่งไล่มาตั้งแต่ยุค สุเทพ มีสวัสดิ์ ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น มาครองเมื่อปี 1991 ส่งต่อความสำเร็จสู่ บุญชู เรืองกิจ ที่ชนะรายการใหญ่ที่สุดของไทยในยุคนั้นอีก 2 สมัยในปี 1992 และ 2004 ไล่มาถึงยุค ธงชัย ใจดี ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ชนะบนเวทีระดับยูโรเปี้ยนทัวร์ในปี 2004

กระทั่งปัจจุบันที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ และกลุ่มสาวไทยที่ยกมาตรฐานนักกอล์ฟไทยขึ้นไปอีกระดับด้วยการตั้งเป้าชนะทัวร์ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง พีจีเอทัวร์ และ แอลพีจีเอทัวร์ นักกอล์ฟไทยบนเวทีระดับโลกวันนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้แล้ว นับเป็นดอกผลที่กำลังเบ่งบานหลังจากต้องช่วยกันพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลาย 10 ปี เรามาจับตาดูกันว่านักกอล์ฟไทยคนไหนบ้างที่จะสลับกันขึ้นมาสร้างความสุขในแฟนกอล์ฟไทยในแต่ละสัปดาห์ในปี 2016 นี้  ประวัติศาตร์หน้าใหม่กำลังจะถูกบันทึกขึ้นมา แต่จะเป็นนักกอล์ฟคนไหนคงต้องลุ้นกันต่อไป