Sport for Life

หมดตัว

                ควันหลงของกีฬาเทนนิสในซีเกมส์ครั้งนี้ มันทำให้ครูไก่พอจะมองกีฬาตัวนี้ว่ากำลังจะเข้ายุคเงียบงันอีกรอบหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือพูดง่ายๆก็คือ “กีฬานี้ไม่ตอบโจทย์ในการเล่นอาชีพ” นั่นคงเป็นเพราะเราไม่สามารถสร้างนักกีฬาที่มีดีให้เข้าไปแข่งในระดับอาชีพได้เลย ขนาดต้องเอา “แทมมี่”มาเล่นถึงสองประเภทแบบนี้จะเรียกว่าอะไร ในขณะที่วงการเทนนิสโลกเขาไปกันถึงไหนแต่เรากลับทำงานกันไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นโยบายที่ออกมามันช่างเลื่อมใสถึงขนาดน้ำตาซึมในนโยบายก็มันสวยงามยามอยู่ในที่ประชุม แต่พอลงมือทำงานมันก็จบสนิท ศิษย์มืดมน มันไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน พูดตรงๆนะเด็กเราเก่งก็มีอยู่โขแต่พอโตขึ้นหายไปไหนกันหมด

                เรื่องของทีมชาติชุดนี้ครูไก่ก็รู้จักกันมาแทบจะทุกคนที่เป็นพี่ใหญ่ที่นำทีมมาโดย “แทมมารีน” หรือแม้คู่แฝด “ต้น-ต้อง”ซึ่งคราวนี้ส่งมาคนเดียว ส่วนอีกคนป่วยเจ็บซะก็ไม่ว่ากัน ผลงานที่ออกมาถึงแม้จะพลาดเหรียญทองไปทุกประเภทแต่กับเหรียญเงินในตำแหน่งที่ได้มามันก็โอเคนะเมื่อเทียบกับมือที่เราส่งไปในครั้งกระนี้ เหตุที่ต้องใช้รุ่นใหญ่เข้าไปฟาดฟันกันกับเขา นั่นคงเป็นเพราะเราไม่มีตัวจะไปเล่นถึงได้เห็นทีมชุดใหญ่ที่รับใช้ชาติมาเป็นเวลานานนับสิบๆปี ก็พี่เทมมี่ปาเข้าไป 42 ขวบปีแล้วแบบนี้มันบ่งบอกอะไรได้บ้าง…

                สิ่งที่ซีเกมส์ครั้งนี้กับ “ลอนเทนนิสสมาคม” จะต้องกลับมาทบทวนกันให้มันจริงจริงกันเสียทีว่า “นโยบาย”ที่เป็นเพียงลมปากที่พูดแล้วก็ปฏิบัติไม่ได้ที่มันมีมาทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าใครจะมาดูแลเพราะในช่วง 10 กว่าปีมานี่นักเทนนิสมือดีแทบจะไม่มีมาให้เห็นกันบ้างเลย แล้วแบบนี้จะไม่อายกันบ้างเลยรึ หรือจะเอาแค่เกาะความสว่างของผลเมื่อครั้งที่ “ภราดร”เคยเกิดขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ ครั้งนั้นกระแสมันมาเต็มๆแต่ล่อนเองก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันต่อเนื่อง ช่วงนั้นบอกได้เลยสนามเทนนิสนี่แทบจะไม่มีที่เล่นนั่นเพราะมันถูกจองไว้เต็มหมด พอหมดโปรโมชั่นมันก็เป็นแบบนี้เอาของเก่ามาใช้งานมันไม่ไหวหนาครับ ช่วงที่ดีก็ไม่คิดอ่านอะไรให้เกิดประโยชน์กับอนาคต ตอนนี้เป็นไงเหมือนเดิมคือ “วืดทุกประเภท”ที่ลงแข่ง…

                แล้วยิ่งตอนนี้สภาวะของชาติเรามันสลัวๆหน้าไม่ว่าจะสายไหน เงินทองไม่ค่อยจะมีจับจ่ายใช้สอยกัน แล้วจะเอากันอีแบบไหนในอีกสองปีข้างหน้าถ้าอยากจะให้กีฬาเป็นสิ่งจรรโลงใจของผู้คน พวกที่ดีแต่นโยบายขอทีนะอย่ามาวุ่นวายกันในสังคมกีฬาเขาเลย ปล่อยให้คนที่เขาทำด้วยใจรักดีกว่า ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่กีดกันอะไรหรอกนะแต่เป็นเพราะว่า “สงสาร”พ่อแม่เขาที่พยายามผลักดันลูกๆให้เล่นกีฬา แต่พอมาเจอทางตันแบบนี้ก็จอด ถ้าใครเก่งอะไรก็ไปทำแบบนั้นจะดีกว่าเพราะว่าเราจะหมดตัวกันอย่างที่เห็น…ทั้งผู้เล่นและเงินทองหมดจริงๆ 

ครูไก่