What Ever

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ

ถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ
ถูก ใกล้ ได้ความรู้

                เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้เปิดทดลองวิ่งเพิ่มอีกจำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24(N10) กับย่านอาคารธุรกิจขนาดใหญ่, สถานีรัชโยธิน(N11) ห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์ยอดนิยม, สถานีเสนานิคม(N12) ย่านชุมชนพักอาศัยเก่าแก่ดั้งเดิม และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยงานราชการด้านการเกษตรหลายหน่วยงาน

                ในฐานะที่ใช้ชีวิตอยู่ บนถนนพหลโยธิน ในช่วงลาดพร้าว เกษตร บางเขน มายาวนาน บอกได้เลยว่าช่วงนี้จะมีความสุขเป็นพิเศษ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ชาวพหลโยธินมีเวลาหายใจเว้นว่างจากการ ทุบๆ รื้อๆ ก่อสร้างช่วงสั้นๆ นับตั้งแต่สร้างสะพานข้ามแยกเกษตร-เสนา, ตัดถนนเกษตร-นวมินทร์, สร้างอุโมงลอดแยกเกษตร, สร้างอุโมงลอดแยกรัชโยธิน มาถึงตอนนี้ แม้ว่ารถไฟฟ้ายังสร้างไม่แล้วเสร็จตลอดทั้งสาย แต่สาธารณูปโภคด้านการเดินทางก็เกือบเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งรถไฟฟ้าที่รอมานาน ก็เปิดให้ใช้มาจนถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ที่สำคัญจากสถานี้ลาดพร้าวมา นั่งฟรีจนถึงปีใหม่โน่น ก็เลยถือโอกาสนี้แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ สถานีสุดท้ายปลายทาง ณ ขณะนี้

                นอกจาก สถานศึกษาขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยงานราชการด้านการเกษตรหลายหน่วยงานแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แต่เสน่ห์แรง ซ่อนอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถมไม่ต้องเข้าไปลึกลับซับซ้อน เพราะตั้งอยู่ใกล้ๆ ริมรั้วมหาวิทยาลัยด้านถนนพหลโยธิน แค่ลงจากสถานีรถไฟฟ้าก็สามารถเดินได้ถึงพิพิธภัณฑ์เลย ไม่ต้องต่อรถตะลัย(รถเมล์ภายในมหาวิทยาลัย) ไม่ต้องเรียกวินเรียกแกร็ป เพราะคิวรถทั้งหลายก็อยู่ใกล้ๆ หน้าพิพิธภัณฑ์นั่นแหละ พิพิธภัณฑ์ที่ว่าก็คือ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ”

                สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในกรมประมง ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน นับเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2483 เดิมเป็นส่วนหนึ่งของแผนกทดลองเพาะเลี้ยงเกษตรกลาง บางเขน เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ในระยะแรกมีตู้กระจกเลี้ยงปลาขนาดประมาณ ๑ ลูกบาศก์เมตร จำนวน ๒๐ ตู้ ในระยะแรกปลาที่นำมาแสดงเป็นปลาน้ำจืดที่นิยมเลี้ยงและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ

                ในปี พ.ศ.2516 กรมประมงได้มีความตกลงร่วมมือ ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลแคนาดา ในการจัดตั้งสถาบันประมงน้ำจืดแห่งชาติ ที่เกษตรกลาง บางเขน ซึ่งลงนามในสนธิสัญญากันในปี พ.ศ.2516 โครงการก่อสร้างสถานแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดแห่งใหม่ จึงได้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันประมงน้ำจืดแห่งชาติด้วย ภายหลังกรมประมงได้รับงบประมาณหมวดค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง เพื่อสร้างอาคารและห้องปฏิบัติการ ซึ่งตามข้อตกลงรัฐบาลแคนาดาจะจัดส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในสถานแสดงพันธุ์ปลามาให้ทั้งหมด

                สถานแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดแห่งใหม่ สร้าวเสร็จในปี พ.ศ.2521 เป็นอาคารคอนกรีต 3 ชั้น ซึ่งได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2521 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ เปิดสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ

                และใน พ.ศ. 2546 กรมประมงได้ปรับปรุงอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งก่อสร้างอาคารจัดแสดงพรรณไม้น้ำเพิ่มเติม เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้น้ำสวยงามและทำให้สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ เป็นหน่วยงานหนึ่งของกลุ่มวิจัยและพัฒนาสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                ส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเป็นอาคารสูง 3 ชั้น จัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดประมาณ 100 ชนิด ประกอบด้วยปลาท้องถิ่นของไทยชนิดที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ปลาหายาก ใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งปลาต่างประเทศบางชนิดด้วย ในพื้นที่จัดแสดงประกอบด้วยตู้ขนาดใหญ่มีความจุตั้งแต่ 1.5 – 24.0 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 33 ตู้ บ่อสัตว์น้ำที่สามารถสัมผัสได้ (touch pool) นอกจากนี้ยังมีแบบจำลองและโครงกระดูกของปลากระโห้ที่เป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และโครงกระดูกปลาบึกที่พบในแม่น้ำโขง มีน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 2.7 เมตร แบบจำลองปลากระเบน ซึ่งผู้เข้าชมสามารถดูข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับปลาชนิดต่างๆ ที่จัดแสดง ได้จากป้ายรายละเอียดด้านข้าง รวมถึงสามารถสแกน QR Code เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปลาชนิดนั้นๆ ได้อีกด้วย

                ส่วนแสดงพรรณไม้น้ำเป็นอาคารเรือนกระจก (greenhouse) ชั้นเดียว โดยจากอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ จะมีทางเดินเชื่อมต่อเพื่อนำไปชมพรรณไม้น้ำของไทย ซึ่งมีทั้งที่นำมาเพาะชำไว้ในตู้กระจก ใช้ประดับตู้ภายในอาคารพรรณไม้น้ำ และเป็นแปลงสาธิตการปลูกพรรณไม้น้ำรอบๆ อาคาร โดยชนิดของพรรณไม้น้ำที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นพรรณไม้น้ำชนิดที่ส่งออกของไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้เข้าชมสามารถดูข้อมูลพรรณไม้น้ำแต่ละชนิดได้จากป้ายด้านข้างเช่นเดียวกัน

                สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ เปิดให้เข้าเที่ยวชมวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดบริการวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่แค่ 20 บาท เด็ก-นักเรียน-นักศึกษาเพียง 10 บาทเท่านั้น ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ fisheries.go.th และ facebook.com/BkkAquariumcom/ และถ้าไม่รีบไปไหน เดินครบแล้ว ก็สามารถวนเก็บรายละเอียดอีกสักรอบก็ยังได้ พาเด็กๆ มาเที่ยวชม คุ้มไม่รู้จะคุ้มยังไง บอกเลย