อิตาลี เฮ เจ้าภาพ ไรเดอร์คัพ 2022

อิตาลี เฮ เจ้าภาพ ไรเดอร์คัพ 2022

สมาคมกอล์ฟอิตาเลียนเชื่อว่า การที่อิตาลีได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพ ระหว่าง ยุโรป กับ สหรัฐอเมริกา ในปี 2022 จะเป็นการปฏิวัติวงการกอลืฟในประเทศที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลเป็นอันดับหนึ่ง

นักกอล์ฟชั้นนำของโลกบางคนซึ่งรวมถึง จัสติน โรส เป็นกลุ่มแรกๆที่ออกมาแสดงความยินดีที่ โรม เมืองหลวงของอิตาลีได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพ ในปี 2022 นับเป้ฯเพียงเมืองที่สามในทวีปยุโรปที่ไม่ได้อยูาในสหราชอาณาจักร และได้เป็นเจ้าภาพรายการนี้

โรม นั้นยื่นข้อเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพ ครั้งที่ 44 แข่งกับ ออสเตรีย, เยอรมนี และ สเปน ซึ่งสุดท้ายแล้วคณะกรรมการตัดสินใจเลือกสนาม มาร์โก ซิโมเน่ คลับ ที่อยู่ห่างจากกรุงโรม 17 กิโลเมตร และสามารถมองเห็น เซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา ในมุมเบิร์ด อาย วิว จากแท่นทีออฟหลุม 17 ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

คณะกรรมการไรเดอร์คัพได้ประกาศรายชื่อเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2022 ในเช้าวันเดียวกับที่ คณะกรรมการโอลิมปิคอิตาเลียน เปิดเผยภาพสัญลักษณ์ที่กรุงโรมจะใช้ยื่นข้อเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อนในปี 2024

“เราเป็นประเทศที่มีประชากร 60 ล้านคน และมีนักกอล์ฟอยู่เพียง 100,000 คนเท่านั้น” มาร์โก ดูรานเต้ ผู้ประสานงานในการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพไรเดอร์คัพของโรมกล่าว

“นี่เป็นแนวโน้มที่ดีมากที่เราสามารถสามารถขยายความนิยมของเกมกอล์ฟในประเทศของเรา การได้เป็นเจ้าภาพไรเดอร์คัพนั้นจะเป็นแรงกระตุ้นให้วงการกอล์ฟของเราเดินหน้าต่อไป รวมถึงเพิ่มการมีส่วนร่วมของคนในสังคมกับกีฬานี้ด้วย”

ดูรานเต้ กล่าวเสริมว่า “การพัฒนาวงการกอล์ฟในประเทศอิตาลีนั้นเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอที่เรายื่นเข้าไปขอเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ด้วย เราต้องการสร้างไดร์ฟวิงเรนจ์เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้นักกอลืฟได้มีโอกาสมากขึ้น  มีการแนะนำกีฬากอล์ฟเข้าไปในโรงเรียน เราได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีศึกษาเรียบร้อยแล้วถึงโปรแกรมกอล์ฟในโรงเรียน”

ความตื่นตัวเกี่ยวกับวงการกอล์ฟของชาวอิตาเลียนนั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 ตอนที่ คอสแตนติโน ร็อคค่า เป็นนักกอล์ฟอิตาเลียนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดทีมรวมดารายุโรปเล่นไรเดอร์คัพที่เบลฟรีย์ ประเทศอังกฤษ

การแข่งขันที่เบลฟรีย์ในครั้งนั้นทีมสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ชนะ แต่ ร็อคค่า ก็อยู่ในทีมรวมดารายุโรปชุดคว้าชัยชนะในปี 1995 และ 1997 และที่โด่งดังที่สุดคือตอนที่เขาเป็นฝ่ายอัด ไทเกอร์ วู้ดส์ 4 และ 2 ในการเล่นวันสุดท้ายแบบซิงเกิ้ลที่วัลเดอร์ราม่า ประเทศสเปน

จากนั้นเป็นต้นมาก็เป็นคิวของสองพี่น้อง เอดัวร์โด และ ฟรานเชสโก มอลินารี ที่ได้ชูธงอิตาลีเข้าสู่ทีมรวมดารายุโรป ที่คว้าชัยชนะแบบเฉียดฉิวที่ เซลติก ไมเนอร์ เมื่อปี 2010

ฟรานเชสโก ก็โชว์ผลงานได้เยี่ยมเหมือน คอสแตนติโน ร็อคค่า ด้วยการแบ่งครึ่งแต้มจาก ไทเกอร์ วู้ดส์ ในการแข่งขันแบบซิงเกิ้ลวุดสุดท้าย ซึ่งเป็นแต้มสำคัญช่วยให้ ยุโรป ไล่แซงกลับมาชนะในการแข่งขันเมื่อปี 2012

ฟรานเชสโก กล่าวว่า “คนอิตาเลียนเริ่มหันมาสนใจกีฬากอล์ฟในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง และพวกเรานับว่าโชคดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ การได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพนั้นจะเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับวงการกอล์ฟอิตาเลียน”

ส่วน เอดัวร์โด กล่าวขอบคุณยอดนักกอล์ฟหลายๆคนที่สนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพไรเดอร์คัพของกรุงโรม ในปี 2022 โดยเขาโพสต์ทวิตเตอร์ว่า “ขอบคุณ จัสติน โรส ที่ให้การสนับสนุน โรม ในการเป็นเจ้าภาพไรเดอร์คัพ 2022 ตอนนี้พวกเรารอคอยที่จะเห็นคุณมาเล่นที่นี่”

ทางด้าน มาร์โก เคาสเลอร์ ประธานยื่นขอเสนอขอเป็นเจ้าภาพของ เยอรมนี ยอมรับว่าผิดหวังที่ไม่สามารถโน้มน้าวใจคณะกรรมการจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกันท เพราะการยื่นข้อเสนอขอเป้นเจ้าภาพในปี 2018 เยอรมนี ก็แพ้ให้กับ ฝรั่งเศส

สำหรับสนามมาร์โก ซิโมเน่ คลับ นั้น ก่อตั้งโดย ลอร่า เบียจิอ็อตติ แฟชั่นดีไซเนอร์ ชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันเธอและครอบครัวก็ยังคงเป็นเจ้าของสนามแห่งนี้อยู่  และเมื่อปี 1994 ก็ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน อิตาเลียน โอเพ่น

คณะกรรมการจัดการแข่งขันของโรมยังมีเวลาอีก 7 ปีสำหรับการเตรียมสนาม และเปลี่ยนแปลงในจุดที่จำเป็นเพื่อรับมือกับนักกอล์ฟชั้นนำของโลก ซึ่ว ดูรานเต้ กล่าวว่า “นี่เป็นสนามที่นี่ แต่เราก็พร้อมตอบคำถามและทำตามการร้องขอจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันไรเดอร์คัพ”

การแข่งขันกอล์ฟประเภททีม ไรเดอร์คัพ ระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ ยุโรป ครั้งต่อไปจะแข่งขันมรา ฮาเซลไทน์ เนชั่นแนล ในมินเนโซต้า ในปี 2016 ขณะที่ ฝรั่งเศส จะเป็นเจ้าภาพในปี 2018 ตามด้วยสหรัฐอเมริกาที่จะใช้สนามวิสลิง สเตรทส์ ในวิสคอนซิ่น เป็นเจ้าภาพไรเดอร์คัพ 2020 และจะกลับไปที่ยุโรปอีกครั้งในปี 2022 ที่กรุงโรม

ทีมรวมดารายุโรป นั้นโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงหลัง โดยเฉพาะชัยชนะ 6 ครั้งในการแข่งขัน 7 ครั้งหลังสุด ซึ่งรวมถึงชัยชนะ 16.5-11.5 ที่เกลนอีเกิ้ลส์ ประเทศสก็อตแลนด์ ครั้งหลังสุดเมื่อปี 2014 ด้วย.

แมทช์ ตามด้วยวันที่สองแบบโฟว์ซัมส์ 6 แมทช์ และปิดท้ายวันที่สามเป็นแบบซิงเกิ้ล 12 แมทช์

ทีมชนะจะได้เงินรางวัล 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปแบ่งกัน ส่วนทีมแพ้จะไปเงินรางวัลปลอบใจ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ