คอลัมน์ประจำสัพเพฯ กอล์ฟ

เปิดเวทีทำการแสดง ณ บัดนี้

หลังจากเมืองไทยว่างเว้นรัฐบาลจากการเลือกตั้งมานานโข จะมากด้วยเหตุหรือผลอะไรก็ช่างเวลาที่หลายคนกำลังรอคอยก็มาถึง จากจำนวนประชากร 70 ล้านคนที่ประเทศเรามีอยู่กับความรู้เรื่องการบ้านการเมืองทีกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่ขณะนี้ “จะส่งผลอย่างไรกับตัวเขาเองและประเทศชาติ” เรื่องความบาดหมางทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมามันดูเหมือนแผลที่หายสนิทดีแล้ว แต่ความจริงแผลนอกอาจจะหายกลายเป็นเพียงรอยขีดข่วนเล็กๆที่หลายคนอยากลืม ภายในยังคงเป็นแผลที่กลัดหนองรอเพียงแค่ว่า “เจ้าของรอยแผลกินอะไรผิดสำแดง”เข้าไปเท่านั้นเอง

นักการเมืองกับการโกงกินชาติกินแผ่นดินกินหินกินทราย มันมีมานานกาลแต่เราก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ถึงแม้จะมีมาตราที่ถือว่าเป็นดาบอยู่ในมือจะฟันจะแทงย่อมได้ทุกเวลาขอเพียงมีข้อมูลที่พอเชื่อถือได้เท่านั้น สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงดาบที่มี “สนิม”กัดกินจนแยกไม่ออกว่าด้านไหนคือสันหรือฝั่งไหนคือคมดาบ ชักออกมาครั้งใดพวกนอกรีดนอกรอย “ฮากันกลิ้ง”แล้วยังไม่เคยใช้ ใครก็รู้สึก “กระจอก”กับเรื่องของคำว่า “แลงดาบ” ครูไก่เคยพบเคยเจอกับนักการเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยดำรงตำแหน่งใหญ่โตที่ได้เป็นรัฐบาล ในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้คนมากมายเข้ามาพบปะขอให้ช่วยเหลือเป็นประจำขนาด “พลขับ”ยังใหญ่โตคับที่คับทาง สุดท้ายเมื่อโดนกระชากลากเอาตำแหน่งออกไปใครที่เคยได้รับความช่วยเหลือในอดีตก็ต้อง “ร้อนๆหนาวๆ”เพราะบุญคุณต้องทดแทน

กลับมายังนักการเมืองในอดีตที่เคยรุ่งโรจน์พวกเขาจะนึกถึงประชาชนที่เลือกตนเองเข้ามาหรือเปล่าว่า “ความซื่อสัตย์”ในอดีตมันเจ็บปวดแค่ไหน แล้วตอนนี้คำสัญญาในอนาคตเข้ามากันอีกแล้ว บอกตรงๆเลยนะ “คงเหนื่อยกันอีกนาน” กับวงการและวงจรของนักการเมืองที่ถือเอาเรื่องแบบนี้เป็น “ของเล่น” จากคนที่เคยถูกถอดถอนโดยคณะของกองทัพที่อดรนทนไม่ไหวกับความเหลวแหลกของรัฐบาลที่ประชาชนเลือกกันเข้ามา ตอนนี้เห็นหน้าเห็นตาว่าจะมาอยู่ในกลุ่มการเมืองที่ดูท่าว่าจะมาแรงเอาเสียด้วย แค่นี้ก็พอจะมองเห็นกองฟืนที่เริ่มต้นเอามากองกันอีกรอบ ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็พวกนี้แหละมีทั้งฟืนราดน้ำมันแล้วจุดไฟวอดวายกันไม่รู้จักเท่าไหร่เป็นเท่าไหร่ ทั้งที่เห็นเป็นฟืนไฟที่เผาบ้านเผาเมืองกัน กับอีกเรื่องคือไฟแห่งความตระหนกตกใจกับนักท่องเที่ยวที่พากันหันเหเร่ไปเที่ยวที่อื่นกันหมด…หรือไฟแห่งความหวาดกลัวของประเทศกับการลงทุน

ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยเราจะลืมอะไรกันไปหมดสิ้น ขอบอกไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ ครูไก่ “ลืมยาก” แล้วไม่คิดจะลืมกับเรื่องราวที่ผ่านมา มีตึกรามบ้านช่องที่เคยใช้งานก็กลายเป็นซากที่รอการทำลาย…ซึ่งปัจจุบันซากเดิมก็ถูกทุบทิ้งไปแล้วกลายเป็นอาคารใหม่ที่สวยงาม ใครที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาก่อนกับประวัติและความเป็นมาก็คงเห็นความงดงามในปัจจุบันที่ดูดีมีสง่าราศีบนถนนพระราม 4

ก็อย่างที่เรารู้ๆกัน “ละคร”การเมืองกำลังเริ่มแล้ว…เราคนไทยจะทำอย่างไรกันดี…หน้าที่คือไปลงเลือกตั้งส่วนบ้านเมืองจะอยู่หรือจะพังก็ยังตอบอะไรไม่ได้ รอกันไปอีกไม่นาน ใครที่ออกมาเรียกร้องอยากจะเลือกตั้ง ถ้าบ้านเมืองพังพาบขึ้นมาอีกช่วยเสนอหน้ามาหน่อยนะครับ “ขอโทษ”ก็ยังดี

ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์