Golf NEWS

‘ปริญดา’ แชมป์ไต้หวันแอลพีจีเอ

ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ เก็บเบอร์โหลุมสุดท้ายซึ่งเป็นเบอร์ดี้ที่หกของวัน จากที่ออกสตาร์ทตามหลังสองสโตรกแซงคว้าแชมป์แมทช์เปิดฤดูกาลไต้หวันแอลพีจีเอทัวร์ 2019 รายการฮิตาชิ เลดีส์ คลาสสิก นับเป็นการคว้าแชมป์รายการีที่หกในอาชีพของเธอ แต่เป็นชัยชนะนอกประเทศไทยเป็นรายการแรกในอาชีพ

นับเป็นการคว้าแชมป์ไต้หวันแอลพีจีเอทัวร์รายการแรกของ ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ นักกอล์ฟสาววัย 22 ปีซึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพิ่งชนะ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส โดยชัยชนะฮิตาชิ เลดีส์ คลาสสิก เธอรับเงินรางวัลไปครอง 2.5 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 2.57 ล้านบาท นับเงินเป็นรางวัลก้อนใหญ่ที่สุดในอาชีพของเธอด้วย

ปรินดา ทำสกอร์สามวันที่ โอเรียนท์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่คลับ เข้ามา 69, 69 และ 66 รวมสามวัน 12 อันเดอร์พาร์ 204 เฉือนชนะ กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล นักกอล์ฟสาวเพื่อนร่วมชาติเพียงสโตรกเดียวเท่านั้น

“โปรมายด์” กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล นั้นเล่นในรอบสุดท้ายโดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ก่อนจบรอบด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 ทว่าเธอพัตต์เบอร์ดี้บนกรีนหลุม 18 เพื่อจะยืดเกมไปถึงช่วงซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ ไม่ลง อย่างไรก็ตามสกอร์รวม 205 ทำให้เธอจบอันดับสองแต่เพียงผู้เดียว รับเงินรางวัลปลอบใจ 1,150,000 นิวไต้หวันดอลลาร์ หรือประมาณ 1,183,631 บาท

ส่วนนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำผลงานดีที่สุด เป็น ชาง หย่า-ชุน นักกอล์ฟสมัครเล่นสาวชาวไต้หวันวัย 18 ปี ที่จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสามวันขยับขึ้นมาจบอันดับสามแต่เพียงผู้เดียวด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206

ด้าน เฉิน ยู-จู นักกอล์ฟเจ้าถิ่นชาวไต้หวันที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำ จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 1 อันเดอร์พาร์ 71 จบอันดับสี่ร่วมกับ ชลดา ชยณรรย์ นักกอล์ฟสาวไทยอีกคนที่สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ โดยในรอบสุดท้าย ชลดา ตีเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69

อันดับหกตามเข้ามาเท่ากับ 5 คน ประกอบด้วย เจสสิกา เปง, วู เชีย-เยน และ ฮู ยู-ซัง จากไต้หวัน, ทิฟฟานี เฉิน จากฮ่องกง และ มามิโกะ ฮิกะ จากญี่ปุ่น

ตอนที่ผ่านหลุม 13 สามนักกอล์ฟไทย กานต์พนิตนันท์, ชลดา และ ปรินดา ต่างมีคนละ 10 อันเดอร์พาร์ เท่ากับ เฉิน ยู-จู แต่ ชลดา และ เฉิน ไปพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 15 ทำให้หมดลุ้นไปก่อน ขณะที่ กานต์พนิตนันท์ ได้เบอร์ดี้ที่หลุม 14 ขึ้นนำไปบนคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 11 อันเดอร์พาร์

นั่นส่งผลให้ ปรินดา ซึ่งเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 15 ได้นั้นต้องการเบอร์ดี้บนกรีนหลุมสุดท้ายเพื่อจะคว้าชัยชนะรายการนี้ไปครอง และ ปรินดา ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเธอตีช็อตแอพโพรชขึ้นไปเหลือระยะพัตต์เบอร์ดี้ประมาณ 7 ฟุต และเธอขึ้นไปเก็บเบอร์ดี้สำเร็จ

ปรินดา ที่ในรอบสุดท้ายเก็บเข้ามา 6 เบอร์ดี้ เปิดเผยว่า “ฉันสามารถทำเบอร์ดี้ที่หลุมเหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ฉันตั้งไว้อยู่แล้ว ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก ฉันไม่ได้เช็คที่ลีดเดอร์บอร์ดเลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร จนกระทั่งหลุมสุดท้ายที่ฉันรู้ว่ามีโอกาสที่จะชนะได้ต้องเบอร์ดี้ให้ได้ แล้วฉันก็ทำสำเร็จ เป็นรอบที่ฉันมีความสุขจริงๆ”

นักกอล์ฟสาวจากประเทศไทยที่ในรอบสุดท้ายทำไปทั้งหมด 29 พัตต์ กล่าวต่ออีกว่า “เมื่อปีที่แล้วฉันทำผลงานได้ไม่ดี เพราะเป็นงานยากมากหากสนามนี้มีลม แต่ฉันก็ประหลาดใจเหมือนกันว่าทำไม 2-3 วันนี้จึงไม่มีลม ดังนั้น ฉันจึงพยายามเปิดโอกาสให้กับตัวเองด้วยการตีเหล็กขึ้นไปออนให้มากที่สุด และพัตเตอร์ก็ทำงานได้ดี”

ทางด้าน ชาง หย่า-ชุน นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 18 ปี ยังเล่นได้อย่างแน่นอน และเป็นอีกรอบที่เธอกลับขึ้นคลับเฮ้าส์โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ในรอบสุดท้ายทีช็อตของเธอพลาดแฟร์เวย์เพียงหลุมเดียวเท่านั้น และมีโอกาสขึ้นไปพัตต์เบอร์ดี้ถึง 17 จากทั้งหมด 18 หลุม

“ฉันพยายามเล่นอย่างมีสมาธิที่สุด และเป็นรอบที่ฉันพอใจ” ชาง กล่าว “พัตเตอร์ก็ทำได้ดี แต่มีหลายครั้งที่ฉันพัตต์ไม่ลง อย่างที่หลุม 10 ซึ่งฉันสามารถทำสองออนได้ แต่กลับไม่สามารถทำสกอร์ได้ แต่ฉันคิดว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์ในรอบสุดท้ายได้เป็นอย่างดี”

นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวไต้หวันที่ในรอบสุดท้ายทำไป 35 พัตต์ยังกล่าวต่อว่า “ในช่วงเก้าหลุมหลังฉันพัตต์พลาดเยอะมาก โดยเฉพาะโบกี้ที่หลุม 15 ที่ทำให้ทุกอย่างจบลง ตอนนั้นมันทำให้ฉันตามหลัง 2 สโตรก และฉันรู้ว่าโอกาสหมดแล้ว ในวันที่ทุกคนทำสกอร์ต่ำได้ แต่ฉันกลับไม่สามารถทำได้”

สำหรับ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ แชมป์รายการนี้ 4 สมัยจากประเทศไทย ในรอบสุดท้ายตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสามวันจบอันดับสิบสามร่วมด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ เจิ้ง ยานี ขวัญใจแฟนกอล์ฟเจ้าถิ่นมีปัญหากับเกมพัตต์ในรอบสุดท้าย ก่อนจบรอบ อีเวนพาร์ 72 รวมสามวัน 1 อันเดอร์พาร์ จบอันดับยี่สิบสองร่วม