อมยิ้มริมกรีน

การเดินทางของกอล์ฟไทม์

การเดินทางของกอล์ฟไทม์
และยันต์ศักดิ์สิทธิ์ สู่โลกใหม่

มาดามแจ๋ว บอกกับผมว่า ปีนี้ กอล์ฟไทม์ ก้าวสู่ปีที่ 28 นะพี่ยอด เป็นหนังสือพิมพ์สื่อหัวกอล์ฟหัวเดียวที่คงอยู่

ผมเลยบอกกับเธอว่า.. ฮึดไปเลยนะ ฮึดไปสร้างประวัติศาสตร์ ทำหนังสือหัวนี้มาใกล้ถึงสามทศวรรษ

แจ๋ว เก่งมากๆ นะเนี่ย เก่งยิ่งกว่าคนจบปริญญาเอกสื่อสารมวลชน หรือ ได้Phd. บริหารจัดการองค์กร เพราะสื่อสิ่งตีพิมพ์ทั่วโลกประดามี รวมถึงเมืองไทยด้วย มีแต่จะปิดตัว ปิดตำนาน เพราะหมดเส้นทางให้เดินต่อ

เรามาถึงจุด the end of the world ของโลกสื่อสิ่งตีพิมพ์แล้ว
แต่ กอล์ฟไทม์ กลับยังฉลุย ไม่กระทบกระเทือน เยี่ยมจริงๆ ไม่รู้ทำได้ไง

หากบางที อาจมาจาก การเริ่มต้นรากฐานแต่แรก นั่นคือ มาดามแจ๋ว มีเป้ากระสงค์แต่แรกแล้วว่า หนังสือพิมพ์ กอล์ฟไทม์ ไม่ได้มีเน้นถึงยอดจำหน่าย ไม่ได้ทำไว้ขาย แต่แจกฟรีให้กับ คนในวงการกอล์ฟ ได้หยิบจับอ่าน มีให้เห็น ตามคลับเฮาส์ สนามกอล์ฟทั่วประเทศ, สนามไดรวิง เรนจ์ ใหญ่ๆ และสถานที่อื่นๆ ที่เป็นที่ชุมนุมของคนวงการกอล์ฟ

เมื่อสามสิบปีก่อน ทุกคนในวงการสื่อสิ่งตีพิมพ์ (รวมทั้งผมด้วย) ต่างบอกมาดามแจ๋วว่า ทำหนังสือพิมพ์แจกฟรี มีที่ไหน ขายถูกขายแพง ไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ต้องขาย เพราะหนังสือแจกฟรี ไม่มีแวลู สปอนเซอร์ก็ไม่ให้งบ ระบบเอเจนซี่โฆษณาไม่พิจารณาแพลนให้ ก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊งนา

ถึงวันนี้เป็นไง ใครต่อใครที่บอกว่า มาดามแจ๋ว ไปไม่รอดแน่ ต่างล้มหลายไปจากวงการสิ่งตีพิมพ์ เอเจนซี่โฆษณาเยอะแยะก็ปิดกิจการ ขณะที่มาดามแจ๋วยังยิ้มร่า อวดว่า ปีโน้น กอล์ฟไทม์ อายุสามทศวรรษนะ

ด้วยวิถีโลกใหม่ โลกแห่งเทคโนโลยี่ดิจิตอล โลก AI. Artificial Intelligent ปัญญาประดิษฐ์ ที่สร้างปรากฏการณ์ disruption กลืนกินแบบทำลาย สิ่งที่มีอยู่ในวิถีโลกเก่าที่ตามยุคไม่ทัน ก็จบไปมากมาย

แนวคิด ของมาดามแจ๋ว ที่ทำ กอล์ฟไทม์ ทำหนังสือพิมพ์ไว้แจก เอา อิมเมจ ภาพลักษณ์ คนในวงการกอล์ฟ ไม่มีใครไม่รู้จัก หยิบจับอ่านก็ดังรู้จักกันแล้ว รู้สึกดีๆ

ตรงนั้นต่างหากที่เป็น มูลค่าแวลู ของกอล์ฟไทม์ ที่มาดามแจ๋ว เอาไปใช้ต่อยอด ทำธุรกิจ กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกมกอล์ฟ มีสปอนเซอร์ที่เกื้อกูลมายาวนาน เป็นโยงใยผูกพันช่วยเหลือ ก็ล้วน เป็น directly อันอยู่เหนือ กฎกติกาแห่งการโฆษณาผ่านเอเจนซี่

เธอก็เชื่อมั่นของเธออย่างนี้ ก้มหน้าก้มตาทำงาน ดูแลรักษากอล์ฟไทม์ให้คงอยู่ ที่หลายต่อหลายครั้ง ก็มีที่เลือดกบปาก ก็กลืนเลือดขมไว้คนเดียว สู้ต่อไป ทีละทศวรรษๆ จนเงยหน้า..อ้าว คนอื่นพ่ายไปกันหมดแล้ว แต่ฉันจะไปหลักกิเมตรที่สามสิบปีของกอล์ฟไทม์

ท่านผู้อ่าน แฟนานุแฟน ของกอล์ฟไทม์ ที่เดินตามทางนี้มาด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชนเมื่อยี่สิบปีก่อน สนิทเสมือนดังญาติ ถึงวันนี้ ลูกๆ โตเป็นหนุ่มเป็นสาว หลายคนมีหลานปู่หลายตาย่ายาย ให้อุ้มแล้ว คงทราบดี พี่แจ๋ว จารย์หรั่ง อย่างไรก็อย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยน

เจอหน้า ก็ฝากยินดี ชมเธอหน่อยละครับ..เป็นกำลังใจกันครับ
คงไม่ช้าเกินไปที่จะกล่าวถึง วิถีแห่งปีใหม่ อีกครั้งหนึ่งบนเส้นทางชีวิตนะครับ

คนหนุ่มสาว เขาก็ก้าวขึ้นมาสู่ความเป็นผู้ใหญ่ เงยหน้าไปสู่จุดพีค จุดความสำเร็จสูงสุดในชีวิตเบื้องหน้าให้ไต่เต้า

คนวัยห้าสิบอัพ จนถึงหกสิบวัยเกษียณ ก็ผ่านจุดพีคแห่งตนแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ไม่ควรตะกายอะไรแล้วอย่างยิ่ง แต่ค่อยๆ กระเถิด ลงทางลาดไปเรื่อยๆ อย่างรอบคอบระมัดระวัง เพื่อให้ถึงปลายทาง landing จบเที่ยวบินสุดท้ายของตัวเอง อย่างราบรื่น นิ่มนวลที่สุด โดยไม่เป็นภาระต่อลูกหลาน

ยิ่งมองไกลๆ ให้เห็นสัจธรรมตามแต่ละทศวรรษที่เราผ่านไปแล้ว และเดินหน้าไป รับรู้ในสิ่งที่เราต้องพบ เราก็จะไม่ประมาทกับชีวิต ไม่ว่าเรื่องใดๆ ครับ

โลกนับแต่นี้ เป็นโลกยุคใหม่ จะมีสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงมากมาย คอมพิวเตอร์จะพัฒนาไปไกลลิบ มาแทนที่ การทำงานของมนุษย์แทบทุกอาชีพ

บริษัทยักษ์ใหญ่ สถาบันองค์กรขนาดใหญ่ อาชีพมากมายเป็นพันๆอาชีพ คนเป็นแสนเป็นล้าน ที่อยู่ในช่วงฟันเฟืองแห่งการเปลี่ยนโลก จะพบวิกฤติดังถูกเฟืองบดขบ หนีไม่พ้นกับการตกงาน ว่างงาน งานหายาก

ไร้งาน ก็ไร้เงิน อันเป็นไปได้ว่า ยุคแห่งวิกฤติเศรษฐกิจ ย่อมมาถึงในรูปแบบ..เปลี่ยนโลก
ผมนึกถึงวลี 2 วลี ที่เราพบกันบ่อยมากๆ จนมองผ่าน

แต่กลับเป็นคำสอนใจที่ดีมาก ถือว่าเป็น ยันต์แห่งการประคองตัวให้ กระทบกระเทือนน้อยที่สุด จากวิกฤติโลกยุคใหม่มาถึง แล้วสรรพสิ่งรอบตัวถูกกลืนกิน ปรับไม่ทัน

วลีแรกคือ “อย่าประมาท” ไม่ได้หมายถึง อย่าขับรถประมาท แต่อย่า ประมาทกับชีวิต

จะทำอะไร ต้องคิดอย่างรอบคอบ สองสามตลบ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยพิจารณาสิ่งที่เราต้องพบในวันพรุ่งนี้ จากกการกระทำของวันนี้ อย่าให้เดือดร้อน ให้เย็นให้นิ่งที่สุด ด้วย องศาแห่งความเดือดร้อนในเบื้องหน้า จะรุนแรงมากยิ่งกว่าที่เคยร้อนในอดีต ด้วยปัจจัยที่ยากกว่า

..บางที คิดหลายๆ ตลบ จะทำให้เรา หลุดพ้น ในหลายพันธนาการชีวิต..ไม่ทำอะไรเลย ให้มันผ่านไป เพื่อรักษาความปรกติสุขเย็นๆ ของชีวิตให้คงสภาพที่สุด

แทบจะว่างเปล่า เพื่อ เบาบาง ไม่หนัก ไม่แบก ..นี่แก่นแห่งเซนเลยนะ
คำสอนนี้ จะสอดคล้องกับคำสอนที่สองคือ..อย่าเป็นหนี้

พูดง่ายนะครับ แต่ปฏิบัติยาก ด้วยมนุษย์เรา มีแรงกระหายแห่งโลภะ ความอยากได้ใคร่มี อันเป็นกิเลสพอก จะห้ามกันได้อย่างไร

คิดแค่ว่า นับแต่นี้ ต้นทุนยังหายาก ยังมีดอกเบี้ยมาพอก

ถ้าสร้างหนี้ ไม่ว่าเรื่องๆ ก็คือการพอกโปะพันธนาการให้เรา อยู่ลำบาก หายใจลำบากหนักเข้าไปอีก

เยอะเลยครับที่ ความอยากได้ใคร่มี ดิ้นรนให้ได้มาด้วยการสร้างหนี้ ผ่อนจ่ายทบดอกเบี้ยก็ไม่ครั่น

แต่พอได้มาแล้ว..ก็จะรู้สึกหมดอยาก so what? แล้วไง? แล้วอะไรต่ออีกละ ตะกายโลภะไปอีกไม่จบ

ผมรู้สึกกับตัวเองเลย ยกเป็น ตัวอย่างของจริง ได้เลยครับ

ผมเป็นคนชอบรถยนต์..หากอยากได้ ก็จะดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา ดิ้นเร่าๆ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องคาถา พอได้มาก็พึงใจ กูเก่ง กูทำได้ ประการหนึ่ง กับมีสมบัติที่ชอบประการหนึ่ง

ที่สุด มันก็พียงสมบัติที่ กองไว้ คลุมไว้ ใต้ถุน ใต้ชายคาบ้าน นานๆก็เอามาขับ
ยิ่งมีอายุมากขึ้น ยิ่งแย่เลย เพราะรถเก่า มันขับเหนื่อย เหยียบครัชเข้าเกียร์

ไม่กี่ปีมานี้ ผมก็ยังไม่วายฝันว่า อยากมีรถป้ายแดงอีกสักคัน เป็นคันสุดท้ายละ เป็นรถ e-car พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ รออีกสองสามปี ให้รัฐบาลลดภาษี ค่อยหาว่ายี่ห้อใด

คิดอยากนะครับ..โดยลืมไปว่า ตัวเองถึงตอนนั้น อายุก็แทบแตะที่เลขเจ็ดสิบแล้ว

ผมจะมีปัญญาขับรถเองได้อีกสักกี่ปี เมื่อถึงวัยนั้น..มันไม่ เมคเซนส์ เลยที่จะคิดหาหนี้มาพอกเช่นนั้น

ผมมาเห็นสัจธรรมง่ายๆอีกข้อ ก็จากเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน อายุเท่ากับ คือหกสิบกลางๆ

มันเลี้ยงปลาคาร์ป มาสี่ปี จากตัวเล็กเป็นตัวใหญ่ มี5ตัว อยากขยายบ่อปลา เพิ่มปลา ทำให้สวย ทำให้งาม

เพื่อนผู้เชี่ยวชาญเพราะเลี้ยงมาเยอะ มานาน ก็ให้คำแนะนำได้ทุกกระบวน…ล้วนเป็นเงินทั้งสิ้น ลงทุนเป็นหลายแสน

มีวลีหนึ่งที่ทำให้ผมเห็นสัจธรรมคือ..ทุกวันนี้ กูต้องดูแลละเอียด ปลาถึงแข็งแรงสวยงามดังที่เห็น ทุกสองวันต้องไปล้วงเปิดล้างถังกรองน้ำ ที่มีขี้ปลาพอกหนา ไปเทใส่ต้นไม้เป็นปุ๋ย ต้องทำตลอดให้เป็นวินัย ถ้าไม่อยู่ก็ต้องจ้างใครมาทำให้ เดี๋ยวปลาไม่สบาย

มันอาจแฮปปี้ที่ได้ทำ เพราะมันหลงปลา แต่ผมเห็นว่า แล้วมึงเหนื่อยไปทำไม หาภาระพอกใส่ตัวแท้ๆ ซึ่งนี่ก็ป็นหนี้ชนิดหนึ่ง แทนที่จะปล่อยตัวเองให้เบาๆ สบายๆ ในวัยนี้

พาลคิดถึงตัวเอง ก็พอกหนี้เช่นกัน..กับเรื่องตัวเองหลงคือ หลงรถ

พลันคิดตก เลยครับ ตัดกิเลิศได้ เลิกอยาก เอาเวลามาดูคันเรโทร ที่มันอยู่กับเรามายาวนานให้มันดูดี ดีกว่า

ที่สุด ก็พบสัจธรรมว่า..เราก่อหนี้ เพราะเราอยาก แต่ความอยากนั้นก็แค่อุปทานจริงๆ

พระท่านสอนมานานแล้วในวลีสองวลีนี้ แต่เราไม่เข้าใจ ไม่สน เพราะพระก็ท่องมาจากตำราพระพุทธเจ้า ไม่ได้รู้เองหรอก

แต่ตัวอย่างง่ายๆ กับตัวเอง มองไปในอนาคตว่า อย่าประมาทกับชีวิต อย่าไปแบกอะไรเลย ในยุคที่โลกเปลี่ยน มันจะสาหัสกว่าที่เคยเป็นมา.

ทำให้เห็นสัจธรรม ดังที่เขียนให้ท่านผู้อ่าน ได้คิด ในการเดินทางก้าวต้นๆ ของปีใหม่ 2562 นี่แหละครับ

คำอวยพร ขอให้มีความสุขสมปรารถนาในทุกสิ่ง ขอให้มีชีวิตที่เรืองรองกว่าปีที่ผ่านๆ มา ขอให้มีแต่โลกงดงามรอรับ ตื่นมาก็สดใส นอนหลับก็แสนสุข นั่นคือ การให้กำลังใจกันครับ เป็นจารีตปฏิบัติกันมาตลอด

แต่อยากให้ พลันกระจ่าง กับ สองวลี ”อย่าประมาทกับชีวิต” กับ “อย่าก่อหนี้” เอาไว้ในการก้าวสู่วิถีโลกใหม่

ด้วยเป็น ยันต์ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต ให้ปฏิบัติ เห็นผลยิ่งกว่าคำอวยพรอีกครับ

ยอดทอง