Golf NEWS

ชอฟเฟเล ซิวแชมป์เปิดซีซั่น

“ชอฟเฟเล” ซิวแชมป์เปิดซีซั่น
ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์

ซานเดอร์ ชอฟเฟเล โปรอเมริกันหวดวันเดียว 2 อีเกิ้ลก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 11 อันเดอร์พาร์ 62 รวมสี่วันเฉือนชนะ แกรี วูดแลนด์ 1 สโตรก คว้าแชมป์แรกของปีไปครอง ในศึกพีจีเอทัวร์รายการทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ ชิงเงินรางวัลรวม 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 208 ล้านบาท ณ สนาม แพลนเตชัน คอร์ส แอต คาปาลัว เกาะเมาวี มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา

ซานเดอร์ ชอฟเฟเล ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการมีสกอร์ตามหลัง แกรี วูดแลนด์ ที่นำการแข่งขันอยู่ถึง 5 สโตรก แถมสตาร์ทหลุมแรกที่สนามพาร์ 73 แพลนเตชัน คอร์ส แอต คาปาลัว ในฮาวาย ด้วยการเสียโบกี้อีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม การเล่นห้าหลุมถัดจากนั้นเขาสามารถเก็บมาได้ถึง 4 เบอร์ดี้ ก่อนที่จะชิพอินอีเกิ้ลแรกของวันได้ที่หลุม 9

หลังจากนั้นไปได้อีเกิ้ลระยะ 107 หลาจากแฟร์เวย์ที่หลุม 12 ตามด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 12, หลุม 14 และ หลุม 15 และปิดท้ายวันด้วยการทำสองเบอร์ดี้ติดต่อกัน ก่อนจะเฉือนชนะ วูดแลนด์ เพื่อนร่วมชาติอเมริกันที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายนำหน้า รอรี แม็คอิลรอย แชมป์เมเจอร์ 4 รายการ 3 สโตรก ไปหวุดหวิดเพียงสโตรกเดียวเท่านั้น

“ด้วยความสัตย์จริง มันเป็นวันที่บ้าเอามากๆ” ซานเดอร์ ชอฟเฟเล กล่าวถึงการเล่นในรอบสุดท้ายที่เขาหวดเข้ามา 11 อันเดอร์พาร์ 62 ก่อนทำสกอร์รวมสี่วัน 23 อันเดอร์พาร์ 269

ด้าน วูดแลนด์ ที่จบวันด้วยการทำไป 5 เบอร์ดี้ จบรอบด้วยสกอร์ 68 รวมสี่วัน 22 อันเดอร์พาร์ 270 พ่ายไปเพียงแต้มเดียว

ส่วน รอรี แม็คอิลรอย นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือที่เพิ่งลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ เปิดโอกาสให้เฉพาะนักกอล์ฟที่ได้แชมป์จากฤดูกาลที่ผ่านมาลงเล่นเท่านั้น ซึ่ง แม็คอิลรอย แทบไม่มีลุ้นเลยในการเล่นรอบสุดท้ายของเขา

แม็คอิลรอย จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาเพียง 1 อันเดอร์พาร์ 72 ส่งผลให้เขาจบการแข่งขันในอันดับที่สี่ร่วมแพ้ผู้ชนะของรายการนี้ไปถึง 8 สโตรก โดย แม็คอิลรอย ทำสกอร์รวม 277 เท่ากับ ดัสติน จอห์นสัน จากสหรัฐอเมริกา และ มาร์ค ลีชแมน โปรจากออสเตรเลีย

จัสติน โธมัส นักกอล์ฟอเมริกันอีกคนทำสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 65 รวมสี่วันจบอันดับสามแต่เพียงผู้เดียวด้วยสกอร์รวม 274

การแข่งขันในรอบสุดท้ายได้รับการคาดหมายว่าน่าจะเป็นการดวลกันระหว่าง วูดแลนด์ และ แม็คอิลรอย ซึ่งเล่นร่วมกันในก๊วนสุดท้าย ทว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้น แต่เป็นหนังชีวิตของ ชอฟเฟเล ที่ถูกฉายขึ้นมาทดแทน

ชอฟเฟเล นักกอล์ฟอเมริกันวัย 25 ปียอมรับว่า หลังจากที่ได้เบอร์ดี้ที่หลุม 3, หลุม 5, หลุม 6 และ หลุม 7 แล้ว เขาก็ยังไม่ได้สนใจอะไรบนลีดเดอร์บอร์ดมากนัก เนื่องจากตอนออกสตาร์ทตามหลังผู้นำมากเกินไป

แต่การชิพอินอีเกิ้ลที่หลุม 9 ลงไปนั้นทำให้อันดับของ ชอฟเฟเล ขยับขึ้นไปอยู่อันดับสองโดยมีคะแนนตามหลังผู้นำเพียงสโตรกเดียวเท่านั้น

กระนั้นก็ตาม วูดแลนด์ มาได้เบอร์ดี้ที่สองของวันที่หลุม 9 ที่ส่งผลให้สกอร์รวมขยับหนีออกไปเป็นสองสโตรก และเริ่มหายใจสะดวกมากขึ้นหลังจากที่ วูดแลนด์ มาพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 30 ฟุตลงไปอีกบนกรีนหลุม 11 พาร์ 3

แต่ ชอฟเฟเล ก็กระโดดขึ้นมาอีกครั้งด้วยอีเกิ้ลจากกลางแฟร์เวย์ที่หลุม 12 และขยับขึ้นมานำร่วมด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 14 ก่อนจะขึ้นนำการแข่งขันเป็นครั้งแรกจากการได้เบอร์ดี้ที่หลุม 15

หลังจากนั้น วูดแลนด์ ตามมาได้เบอร์ดี้ที่หลุม 15 ด้วย แต่ ชอฟเฟเล ก็หนีออกไปอีกด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 17 ซึ่งเขาตีช็อตสองขึ้นไปออนห่างธงระยะประมาณ 9 ฟุต ก่อนจะขึ้นไปทำเบอร์ดี้ได้เป็นเบอร์ดี้แรกของวันในหลุมที่ยากที่สุดของสนาม

“ผมรู้ดีว่าการต่อสู้เพื่อทำเบอร์ดี้กำลังจะเกิดขึ้น” ชอฟเฟเล กล่าว “พวกเราได้แต่ก้มหน้าก้มทตาและพยายามเก็บเบอร์ดี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

วูดแลนด์ โต้กลับด้วยเบอร์ดี้ระยะ 11 ฟุตบนกรีนหลุม 17 แต่ ชอฟเฟเล ก็ยังมาได้เบอร์ดี้ที่หลุม 18 พาร์ 5 จากการทำสองออนและขึ้นไปทำสองพัตต์จากระยะ 12 ฟุต ขณะที่ วูดแลนด์ พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 10 ฟุต ที่หลุม 18 เพื่อยืดออกไปถึงช่วงเพลย์ออฟไม่ลง

“แน่นอนที่สุดว่าเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม” วูดแลนด์ กล่าว โดยสถิติของเขาที่ลงเล่นพีจีเอทัวร์ในฐานะผู้นำก่อนเข้ารอบสุดท้าย 7 ครั้งในรายการแบบสโตรกเพลย์ เขายังไม่สามารถจบการแข่งขันในฐานะผู้ชนะแม้แต่ครั้งเดียว

“เป้าหมายของผมในรอบสุดท้ายคือการเก็บเบอร์ดี้ที่หลุมพาร์ 5 และหาเพิ่มอีกสัก 2-3 เบอร์ดี้แล้วมาดูจะจะเป็นอย่างไร” ชอฟเฟเล กล่าว “แน่นอนว่าผมต้องการเบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้าย แต่ผมก็เล่นได้ยอดเยี่ยมแต่ต้องจบด้วยความน่าผิดหวัง แต่ ซานเดอร์ ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ต้องคารวะเขาเลย”

ชอฟเฟเล รุ๊คกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ของพีจีเอทัวร์ เมื่อปี 2017 ชนะการแข่งขันไปแล้ว 4 รายการ ซึ่งทุกรายการนั้นเป็นการไล่แซงกลับมาชนะทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการไล่แซงจนชนะเพลย์ออฟในเวิลด์กอล์ฟแชมเปียนชิพ รายการเอชเอสบีซี แชมเปียนส์ ที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาด้วย

สรุปผลทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ (สนามพาร์ 73)
269 ซานเดอร์ ชอฟเฟเล (สหรัฐฯ) 72-67-68-62
270 แกรี วูดแลนด์ (สหรัฐฯ) 67-67-68-68
274 จัสติน โธมัส (สหรัฐฯ) 67-72-70-65
277 ดัสจิน จอห์นสัน (สหรัฐฯ) 67-74-69-67
277 มาร์ค ลีชแมน (ออสเตรเลีย) 68-70-68-71
277 รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 69-68-68-72
278 ไบรสัน เดอแชมโบ (สหรัฐฯ) 69-68-70-71
279 เวบบ์ ซิมป์สัน (สหรัฐฯ) 70-72-72-65
279 จอน ราห์ม (สเปน) 70-71-69-69
279 แพทตัน คิซไซร์ (สหรัฐฯ) 69-71-71-68
280 คาเมรอน แชมป์ (สหรัฐฯ) 71-68-74-67
280 เควิน ทเวย์ (สหรัฐฯ) 66-71-72-71
281 เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย) 69-71-75-66
282 ชาร์ลส์ ฮาเวลล์ (สหรัฐฯ) 74-70-69-69
282 แอนดรูว์ พัทนัม (สหรัฐฯ) 69-73-70-70
283 ทรอย เมอร์ริทท์ (สหรัฐฯ) 73-71-69-70
283 พอล เคซีย์ (อังกฤษ) 73-71-68-71
284 เอียน พอลเตอร์ (อังกฤษ) 71-69-73-71