ทีมไทยสู้สุดมันส์ คว้าแชมป์ อมตะ เฟรนด์ชิพ คัพ 2018
ทีมไทยสู้ทีมญี่ปุ่นสุดมันส์ ก่อนคว้าแชมป์ไปในคู่สุดท้ายของการแข่งขัน ด้วยคะแนนรวม 15 ต่อ 13 คะแนน ในการแข่งขัน “อมตะ เฟรนด์ชิพ คัพ 2018 พรีเซนเต็ด บาย โตโยต้า” ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ (พาร์ 72) จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561
ศึกดวลวงสวิงประเภททีมผสมรูปแบบแมทช์เพลย์ ระหว่างทีมไทยและทีมญี่ปุ่น “อมตะ เฟรนด์ชิพ คัพ 2018 พรีเซนเต็ด บาย โตโยต้า” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ (พาร์ 72) จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม นี้ นักกอล์ฟชายตีระยะ 7,328 หลา นักกอล์ฟหญิงตีระยะ 6,469 หลา โดยผู้เล่นในทีมประกอบด้วยนักกอล์ฟอาชีพและนักกอล์ฟสมัครเล่นชาย-หญิง ฝั่งละ 12 คน ดวลกัน 3 วัน รวม 28 แมทช์ สองวันแรก แข่งขันแบบโฟร์ซัมส์ 4 คู่ในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายแข่งแบบโฟร์บอล 4 คู่ ขณะที่วันสุดท้าย เป็นการแข่งขันแบบซิงเกิ้ลแมทช์ 12 คู่ ซึ่งคู่ที่ชนะจะได้ 1 แต้ม เสมอได้ 0.5 แต้ม แพ้ไม่ได้แต้ม
ในวันที่หนึ่งและวันที่สองของการแข่งขันต้องเริ่มลุ้นกันจากการเลือกผู้เล่นของสองกัปตันทีม ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ของไทย เพราะจากการเตรียมตัวและฝึกซ้อมก็ยังมีบางส่วนที่ต้องปรับเข้าหากัน อย่างเช่นลูกกอล์ฟ เพราะน้ำหนักลูกไม่เท่ากัน เวลาในการเล่นโฟว์ซัมส์อาจจะส่งผลได้บ้างแต่ปรากฏว่าในการแข่งโฟว์ซัมส์ทั้ง 8 แมทช์ ทีมไทยสามารถทำผลงานได้ดี คว้าคะแนนมาได้ 5.5 คะแนน และในการเล่นโฟว์บอลทั้ง 8 แมทช์ก็สามารถคว้ามาได้ 4.5 คะแนน
โดยคู่ที่เหล่าผู้ชมติดตามกันเป็นพิเศษในการเล่นโฟว์บอล ก็ต้องยกให้การจับคู่กันของสองปืนใหญ่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ คู่กับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ทางญี่ปุ่นได้ส่ง ซาโตชิ โคไดระ คู่กับ นาซะ ฮาตาโอกะ มาประชันสวิงในแมทช์นี้ และการแข่งขันก็สู้กันอย่างสนุกสนาน ทีมไทยขึ้นนำไปก่อน 2 up แล้วทีมญี่ปุ่นก็มาตามปลดจนกลับมาสแควร์กันอีกครั้งที่หลุม 10 ทีมไทยก็ได้เร่งเครื่องและขึ้นนำที่หลุม 12 และสามารถรักษาเกมส์การเล่นไว้ได้ จนทีมไทยสามารถคว้าชัยไปในหลุมที่ 17 ด้วยสกอร์ 2&1
หลังจากจบวันที่สองของการแข่งขันทีมไทยขึ้นนำทีมญี่ปุ่นอยู่ 10 ต่อ 6 คะแนน และในวันนี้จะเป็นการแข่งขันแบบแมตช์เพลย์ประกบคู่จำนวน 12 แมตช์ ซึ่งทีมไทยต้องการอีกเพียง 4.5 คะแนนเพื่อคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้
“ถึงแม้ทีมไทยเราจะได้เปรียบเพราะมีคะแนนนำอยู่ถึง 4 คะแนน แต่ก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เพราะทางทีมญี่ปุ่นผู้เล่นแต่ละคนสามารถเล่นแมตช์เพลย์ได้ดี และที่สำคัญผู้เล่นของญี่ปุ่นนั้นพัตต์กันดีมาก” โปรบุญชู เรืองกิจ กัปตันทีมฝ่ายชายกล่าว กล่าว
และในวันนี้ รอบสุดท้ายของการแข่งขันทีมญี่ปุ่น เล่นแมตช์เพลย์แบบประกบคู่ได้ดีมาก คู่แรก สดมภ์ แก้วกาญจน พ่ายกับ ยูโตะ กัตซูรากาว่า ไป 1 up, คู่ที่สอง อาฒยา ฐิติกุล ชนะ ยูริ โยชิดะ 1 up, คู่ที่สาม อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ชนะ โกได อิชิฮาระ 1 up, คู่ที่สี่ ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ พ่ายกับ เอริกะ ฮาระ ไป 1 up, คู่ที่ห้า พรหม มีสวัสดิ์ เสมอกับ เรียวโกะ โตกิมัตซึ, คู่ที่หก ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ชนะซากูระ โกวาอิ 1 up, คู่ที่เจ็ด ธงชัย ใจดี พ่ายกับ มาซาฮิโร คาวามูระ ไป 3&2, คู่ที่แปด พรอนงค์ เพชรล้ำ พ่ายกับ ฟูมิกะ คาวากิชิ ไป 5&3, คู่ที่เก้า ประหยัด มากแสง เสมอกับ ฮิเดโตะ ทานิฮาระ ทำให้ทีมญี่ปุ่นมีคะแนนไล่ตามทีมไทยมาเป็น 14 ต่อ 11 คะแนน และในสามคู่ที่เหลือทีมญี่ปุ่นกำลังได้เปรียบอยู่
ซึ่งสามคู่ที่เหลือกำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนาน เริ่มจากคู่โปรโม โมรียา จุฑานุกาล ได้พัตต์เบอร์ดี้ที่หลุม 18 ซึ่งถ้าพัตต์ลงจะทำให้ได้ครึ่งคะแนน และเพียงพอจะทำให้ทีมได้แชมป์ แต่พัตต์เบอร์ดี้พลาดไปนิดเดียว ทำให้จบด้วยพาร์เสมอกัน ส่งผลให้ โมรียา พ่ายกับ มามิ ฟูกูดะ ไป 1up ส่วนทางด้านโปรเม เอรียา จุฑานุกาล พ่ายให้กับ นาซะ นาตาโอกะ ที่หลุม 17 ด้วยคะแนน 3&1 ส่งผลให้คะแนนรวมเป็น 14 ต่อ 13 คะแนน
และในคู่สุดท้ายที่ต้องดวลกันถึงหลุม 18 โดย โปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ พบกับ ซาโตชิ โกไดระ ซึ่งหลังจบหลุม 17 เสมอกันอยู่ ทีมญี่ปุ่นพยายามทำคะแนน แต่ผลปรากฏว่า โปรอาร์ม ชิพเข้ามาได้ใกล้กว่า ซาโตชิ ต่อมา ซาโตชิได้พัตต์เบอร์ดี้ออกไปก่อนแต่ไม่ลง โปรอาร์ม โชว์ความนิ่งพัตต์ไม่พลาด ทำให้คว้าได้ 1 แต้ม ส่งผลให้ทีมไทยชนะทีมญี่ปุ่นไป 15 ต่อ 13 คะแนน คว้าแชมป์อมตะ เฟรนด์ชิพ คัพ 2018 ไปครองได้สำเร็จ โดยทีมผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 7 แสนเหรียญสหรัฐฯ (22.4 ล้านบาท) ส่วนทีมรองแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (16 ล้านบาท)
บุญชู เรืองกิจ และวิรดา โกมุทบุตร สองกัปตันทีมไทยกล่าวหลังทีมคว้าแชมป์ว่า “ดีใจและขอบคุณลูกทีมทุกคนที่ช่วยกันทำให้เราเก็บถ้วยไว้ในบ้านได้ ไม่คิดว่าจะสูสีขนาดนี้ ตอนแรกคาดไว้ว่าเราเหนือกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทีมญี่ปุ่นพัตต์ดีทุกคน เป็นแมทช์ที่สนุกมาก หวังว่าปีหน้าจะได้เล่นกันอีก”
“โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ ผู้ทำคะแนนช่วยทีมคว้าแชมป์ เผยว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่เดินขึ้นกรีนหลุมสุดท้ายแล้ว พัตต์สุดท้ายทั้งลุ้นและตื่นเต้นมากกว่าตอนพัตต์ให้ตัวเองได้แชมป์เสียอีก วันนี้เราทั้งคู่ไม่ได้โชว์ฟอร์มเก่งของแต่ละคนเลย พอมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าทีมเราจะชนะได้มากกว่านี้ แต่กลับเป็นสูสีเล่นแมทช์เพลย์ เกมพลิกตลอดเวลา และทุกคนก็ทำเต็มที่แล้ว ขอบคุณแฟนกอล์ฟที่เข้ามาเชียร์พวกเราด้วยครับ”
“โปรแจ๊ซ” อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ผู้เล่นทีมไทยที่ทำได้มากที่สุด 4 คะแนน เปิดใจว่า “กัปตันทีมบอกพวกเราว่าก๊วนแรกๆ ต้องการคะแนนมากๆ เพื่อจะได้ไม่กดดัน ช่วงแรกๆ อิชิฮาร่าเขาตีดีมาก แต่หลุม 13 และ 14 ผมก็พลิกขึ้นมานำได้ ดีใจมากที่ทำ 4 แต้มให้ตัวเองและทีมได้ เรามาเล่นในนามทีมชาติก็สู้สุดตัว เวลาเล่นคู่กับใครจะตีดีตีเสียก็ไม่ต้องมาขอโทษกัน หลังจากนี้ฝากเชียร์ทุกคนต่อด้วยนะครับ”
ทางด้าน โจ โอซากิ และมิโฮ โคกะ สองกัปตันทีมญี่ปุ่นกล่าวว่า “ดีใจที่ทีมญี่ปุ่นได้มีโอกาสเล่นรายการนี้ สภาพสนามดีมากๆ การจัดก็โอเค หวังว่าปีหน้าพวกเราจะได้กลับมาเล่นอีก”
เอริกะ ฮาระ สวิงสาวทีมญี่ปุ่นที่โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในครั้งนี้ เธอสามารถคว้า 4 คะแนนให้กับทีม เริ่มจากการแข่งขัน โฟว์ซัมส์และโฟว์บอลในวันแรก ซึ่งเธอได้จับคู่กับ เรียวโกะ โทกิมัตซึ พบกับ ประหยัด มากแสง และโมรียา จุฑานุกาล (โฟว์ซัมส์), พรหม มีสวัสดิ์ และ ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ (โฟว์บอล) และในวันที่สองเธอลงเล่น โฟว์ซัมส์อีกครั้ง โดยจับคู่กับ มาซาฮิโร คาวามูระ พบกับ ธงชัย ใจดี และธิฎาภา สุวัณณปุระ และวันสุดท้ายที่ลงเล่นซิงเกิ้ลแมตช์เพลย์ โดยพบกับ ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ โดยเธอสามารถคว้าชัยชนะได้ทุกแมทช์ที่ลงเล่น