รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ กอบัวแก้ว
รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ กอบัวแก้ว
ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
“ศีล สมาธิ ปัญญา แก้ปัญหาได้”
ครูข้ามสมัย : ผมนับว่าเป็นครูธรรมดาๆ คนหนึ่ง พอจบปริญญาตรีวิทยาลัยครูพระนคร ก็ได้ไปทำงานหน้าห้องรัฐมนตรีฯ อยู่ระยะหนึ่ง จนเมื่อจบปริญญาโท จาก มศว. แล้วมาทำงานที่สวนสุนันทา ก็เห็นว่า รุ่นพี่ที่นี่เรียนหนังสือกันเยอะมาก จึงสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยฯ และเรียนจนได้รับปริญญาตรีมาอีกใบ
เรียนเพื่อหาคำตอบ : เหตุผลที่ผมไปเรียนมหาวิทยาลัยสุโขทัยฯ เพราะที่สวนสุนันทามีเด็กมาเรียนภาคค่ำกันค่อนข้างมาก ผมก็ถามว่าทำไมมาเรียนที่นี่กันเยอะ เพราะทางเลือกอื่นๆ ก็น่าจะมีอีกหลายแห่ง เด็กก็ตอบว่า ลองไปเรียนที่อื่นมาบ้างแล้ว แต่เรียนไม่จบสักที จนผมเกิดความสงสัย อยากจะพิสูจน์คำพูดนั้นด้วยตัวเอง เลยไปสมัครเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ เมื่อปี 2542 เป็นรุ่นแรกของ ม.สุโขทัยฯ ผมใช้เวลา 2 ปีก็เรียนจบ
ได้คำตอบ : พอเข้าไปเรียนเอง เลยได้รู้ว่า สาเหตุหลักที่เด็กเรียนแล้วไม่จบ คือ อ่านหนังสือไม่เป็น ถึงแม้จะอ่านกันเยอะก็จริง แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ได้รับข้อมูลสำคัญก็ไม่เกิดประโยชน์ อ่านแล้วต้องรู้ว่า คนเขียนเขาสื่ออะไร ต้องการบอกอะไร ไม่ใช่อ่านจนจบแล้วยังไม่รู้เลยว่า ที่อ่านไปแล้วนั้นคืออะไร
ได้ทุนเรียนต่อ : พอเรียนจบ ม.สุโขทัยฯ ก็เขียนผลงานทางวิชาการ เพื่อตำแหน่ง ผศ. ตอนนั้นอายุราชการยังเหลืออีกเยอะ ก็เรียนภาษาอังกฤษ เรียนโน่นเรียนนี่ไปเรื่อยๆ แล้วก็ลองขอทุนจาก กรมการฝึกหัดครู ในช่วงเปลี่ยนถ่ายองค์กรมาเป็นราชภัฏ พอได้ทุนมาก็ไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่ Technological University of the Philippines เป็น Ph.D (Technology Management) ผมทำวิจัย เกี่ยวกับ Technology Acessment Model ที่ใช้ในโรงงาน หรือที่ไหนก็ได้ เพื่อพัฒนารูปแบบออกมา อาจเป็นเพราะเมื่อเราได้รับทุนไปเรียนต่างประเทศ เราโฟกัสแค่เรื่องเรียนอยู่อย่างเดียว ไม่มีกิจกรรมอื่นๆ มารบกวน ใช้เวลาเรียนราวสามปีครึ่ง นับว่าเร็วพอสมควร เรียนจบเมื่ออายุ 38 กลับมาทำงานทางด้านบริหารอีกหลายตำแหน่ง และใช้เวลาอีก 16 ปี กว่าจะได้ ตำแหน่ง รศ.
ได้มากกว่าความรู้ที่เรียน : สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือ วิธีคิด ระบบ คอนเท็นต์ และ การนำความรู้นั้น กลับมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ เกิดมรรคผล ซึ่งสำคัญกว่าความรู้ที่ได้จากการเรียนในตำราอีกมากมาย
สูตรสำเร็จ ของคนประสบความสำเร็จ : ต้องมองได้ไกลกว่า ต้องคิดได้ยาวกว่า วางเป้าหมายได้ชัดเจนกว่า วางแผนได้ดีกว่า ใครที่ทำเช่นนี้ได้ ย่อมได้เปรียบ แต่ชีวิตจริงชีวิตนั้น คนเรามักจะคิดเป็นท่อนๆ วิสัยทัศน์ก็ย่อมจะมาเป็นท่อนๆ ด้วยเช่นกัน เราจึงต้องค่อยๆ ทำทุกอย่าง แบบทีละขั้นๆ ไปเรื่อยๆ แต่หากใครคิด ใครทำได้ยาวกว่า ก็จะประสบความสำเร็จมากกว่า
ชอบคิดเป็นระบบ : แรกเริ่มผมเลือกเรียนครูไว้ก่อน แล้วก็เลือกมาทางอุตสาหกรรม แนวช่าง ปริญญาโท อุตสาหกรรมศึกษา เป็นขั้นเป็นตอน และเมื่อผมมีงานวิจัย ก็ไม่เน้นเพื่อหาสิ่งประดิษฐ์ แต่เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ยกระดับให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เพราะเป็นปรัชญาของมหาวิทยาลัย เป็นการช่วยเหลือสังคม มากกว่าแนวอุตสาหกรรม
ทำงานหลากหลาย : ผมทำหน้าที่ตั้งแต่เป็นอาจารย์ เป็นผู้บริหาร เป็นคณบดี เป็นรองอธิการฯ งานบริหารในมหาวิทยาลัย แตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นการทำงานแบบมีวาระ ภายใน 4 ปี เต็มที่ 2 วาระก็ 8 ปี ดังนั้นต้องรีบสร้างผลงาน ถ้าเราทำงานเดิมๆ ไอเดียก็อาจจะหมดไป หมดความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นจึงต้องพักฟื้น ทำงานใหม่ๆ บ้าง เพื่อจะได้มีไอเดียแปลกใหม่เกิดขึ้น
ถนัดทำกิจกรรม : ผมขาดในเรื่อง ดนตรี กีฬา แต่ถนัดในเรื่องการทำกิจกรรมมากกว่าการเล่นกีฬา ชอบเป็นผู้นำในกิจกรรมต่างๆ ที่ทำเพื่อคนอื่น เมื่อเด็กๆ ก็เป็นหัวหน้าห้อง ตอนเรียนปริญญา ก็เป็นผู้กล่าวนำปฏิญาณตนในพิธีพระราชทานปริญญา
ชอบดูกีฬา : ผมติดตามชม ตามเชียร์ หลายประเภท อย่างฟุตบอลในบ้านเราก็เป็นแฟนอยู่หลายทีม ขึ้นอยู่กับผลงานและความประพฤติของนักเตะ ช่วงไหนเชียร์ทีมไหนก็จะไปซื้อเสื้อทีมมาเป็นที่ระลึก วอลเลย์บอลหญิงก็ตามดูตลอด เพราะผมก็เคยช่วยงานกับสมาคมวอลเลย์บอลอยู่ระยะหนึ่ง ทำให้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องกีฬาอย่างใกล้ชิดพอสมควร กอล์ฟ ถึงแม้จะไม่ถนัด แต่ก็เข้าใจและสนุกไปกับการเกมการเล่น
โรงเรียนสาธิตฯ : ผมทำหน้าที่เป็นรองอธิการฯ มาพักนึง จนกระทั่งได้รับมอบหมายให้มาดูแลโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีเด็กนักเรียนประมาณ 1,500 คน ตั้งแต่ ป.1- ป.6 ถึงแม้ผมจะไม่เคยบริหารโรงเรียนมาก่อน แต่เราทุกคนก็เคยเป็นนักเรียนมาแล้ว ลูกเราก็เป็นนักเรียน ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้มองเห็นว่า ยังมีช่องว่างที่จะต้องพัฒนาให้ทันยุค ทันสมัย อีกมากมายมหาศาล
เข้าใจผู้ปกครอง : เราไม่บริหารแบบโรงเรียนอยากให้เด็กเป็นอะไร แต่บริหารแบบผู้ปกครองอยากให้ลูกเป็น แค่ใช้มุมของพ่อแม่ คิดว่าเขาต้องการอะไรบ้าง ต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี รู้หน้าที่ รู้เรื่องการเรียน การเข้าสังคม ทักษะการใช้ชีวิต ฯลฯ
ความสมดุล : เมื่อเราถอดหัวใจตรงนี้ออกมา แล้วดูว่าจะจัดอะไรเพื่อทำให้เกิดความสมดุลทางการศึกษา กับความสมดุลในการใช้ชีวิต มีทั้งการเรียน กีฬา การเข้าสังคม การคบเพื่อน แม้กระทั่งการเข้าถึงธรรมะ จะจัดอย่างไรให้สมดุล ไม่ใช่เอาลูกเข้าไปเรียนแล้วแข่งขันกันแค่เรื่องวิชาการ แต่ลูกขาดอย่างอื่น
ปัญหาเกิดจากความไม่สมบูรณ์ : คนที่สมบูรณ์อาจจะไม่เจอกับปัญหา หรือไม่ค่อยสร้างปัญหา แต่ทุกปัญหาสังคม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก คนที่ขาด ดังนั้นเราต้องร่วมมือช่วยดูแลสังคมกันตั้งแต่เบื้องล่าง กฎหมาย กฎระเบียบ แก้ไขได้ ทุกอย่างต้องตั้งต้นจากชีวิตจริงก่อน แล้วค่อยไปปรับให้สอดคล้อง การบริหารโรงเรียนก็เช่นกัน
ทักษะเพื่อชีวิตจริง : ทักษะชีวิตอะไรที่ผมเคยขาดไป ก็จะจัดให้กับลูกๆ ให้กับนักเรียนอย่างเต็มที่ ทั้งดนตรี และกีฬา เพราะปริญญาใช้สมัครงานแค่เพียงครั้งเดียว แต่ความเป็นเพื่อน ความสัมพันธ์ คอนเน็คชั่น ใช้ได้ตลอดกาล เราจึงคิดว่าจะจัดกิจกรรมอย่างไร โดยวิชาการไม่เสีย ทั้งนี้ก็ได้มาจาก การฟัง การพูดคุย สืบค้น ดูว่าอะไรที่จัดการเรียนการสอนแล้วเป็นทักษะที่จะได้ใช้จริงในชีวิต สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต เราก็จะสอนเรื่องนั้น เช่น ม.4 เรียนฟิตเนส ม.5 เรียนกอล์ฟ และ ม.6 เรียนลีลาศ เมื่อทักษะเหล่านี้เกิดขึ้นจากชีวิตจริง เด็กที่เติบโตขึ้นไปก็จะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยเหลือเขาได้
กอล์ฟ : เราทำให้เด็กได้เรียนรู้กีฬาใหม่ๆ ผู้ปกครองก็เห็นชอบด้วย เป็นกีฬาที่สามารถจะนำไปต่อยอดในอนาคตได้ ทั้งในเรื่องความเป็นกีฬาสากล เป็นกิจกรรมในการเข้าสังคมอีกด้วย โดยมี ผศ.สุวิทย์ สว่างโรจน์ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งท่านได้ไปอบรมเรื่องการสอนกอล์ฟโดยตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา
พัฒนา ปรับปรุง : เรื่องแรกที่ทำคือการพัฒนาครูอาจารย์ เพราะเราคงพัฒนานักเรียนโดยตรงไม่ได้ ต้องทำผ่านบุคลากรของเรา ปรับระบบการเรียนการสอน ปรับระบบวิชาครู ให้ได้หยิบเอามาใช้ใหม่
ทำกิจกรรมมากขึ้น : เดิมอาจจะเคยเห็นว่า ครูเป็นผู้บอกข้อมูลทั้งหมด แต่เราจะต้องจัดกิจกรรม ที่ทำให้เด็กตื่นเต้น มีความกระตือรือร้น เรียนแล้วมีความสุข ไม่เรียนอยู่แค่ในห้อง หรือเขียนบนกระดาน เราได้นำเครื่องมือทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเครื่องมือวัดระยะ วัดมุม วัดระดับ ต้องทำให้เด็กมีทักษะ ใช้เครื่องมือต่างๆ ให้ได้ เป็นการเปลี่ยนมิติการเรียน หรือที่เรียกว่า Active Learning ทุกๆ วิชาปรับเปลี่ยนใหม่หมด มี Road Map ทางการศึกษา
นักกีฬา : ผมบอกลูกๆ ว่า ทุกวันนี้ นักเรียน เรียนแค่ไม่กี่เดือนก็สอบ ตั้งใจอ่านหนังสือก็ผ่านได้ไม่ยาก ขณะการเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม ต้องมีทั้งความพยายาม ความอดทน มุมานะ อาจจะยากยิ่งกว่าการเรียนในสาขาวิชาที่ว่ายากด้วยซ้ำไป ซึ่งคนเหล่านี้เราสมควรจะให้โอกาสกับเขา โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษา แต่ถ้าให้เขาเรียนแบบปกติก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมามากแล้ว ความสามารถเขามี แต่อาจจะไม่เหมาะกับการเรียนปกติเราต้องจัดโปรแกรมพิเศษ ให้เขารู้ในสิ่งที่ควรรู้ จัดตารางให้เหมาะกับกิจกรรมการฝึกซ้อมของเขา มีติวเตอร์พิเศษให้ ซึ่งจะช่วยทำให้เขาประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องกีฬาและการศึกษา อย่างในอดีตสวนสุนันทาเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูหญิง มีชื่อเสียงในเรื่องที่เกี่ยวกับกุลสตรี เราจึงไม่เคยได้ยินว่าจะมีกีฬาประเภทไหนที่โดดเด่น จนเมื่อราวปี 2555 มีกีฬามหาวิทยาลัย เราเปิดรับให้ทุนเด็กที่มีทักษะทางด้านวอลเลย์บอล และเริ่มสร้างผลงานมาตั้งแต่นั้น
โครงการระยะยาว : นักกีฬาของประเทศเราฝีมือสู้เขาได้ แต่จะเป็นรองในเรื่องสรีระร่างกาย บ้านเรายังใช้วิธีการจับตัวนักกีฬาที่มีแวว มีผลงานมาเป็นผู้เล่น แต่เรายังไม่เคยลงมือสร้างกันอย่างจริงจัง ผมคิดถึงขนาดว่า เราต้องดูแลอนาคตนักกีฬาตั้งแต่ก่อนเกิดด้วยซ้ำ แล้วก็ต้องเตรียมสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เป็นโครงการต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อสอดคล้องกับสาขาอาชีพของเขาอีกด้วย อาจจะฝันไกลไปสักหน่อย แต่ก็อยากให้ระบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย
ชัยชนะที่สำคัญที่สุด : ผมสอนลูกเสมอว่า เอาชนะอย่างอื่นนั้นง่ายมาก ไม่ว่าจะเรื่องกีฬา หรือจะเป็นเรื่องงาน แต่การเอาชนะใจตัวเองนั้นยากที่สุด และเมื่อใดที่เอาชนะใจตัวเองได้ ชีวิตจะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
ความสนใจพิเศษ : ผมชอบอ่าน ชอบสืบค้น อะไรที่เป็นความรู้ใหม่ของเรา สนใจเป็นเรื่องๆ เป็นช่วงๆ อย่างหลังๆ มานี้ สนใจเรื่องการบิน เรื่องการสร้างเครื่องบินเล็ก รายละเอียดเกี่ยวกับการบิน ซึ่งเมื่อสมัยที่จบปริญญาเอกใหม่ๆ ก่อนที่จะเป็นคณบดีครั้งแรก เคยแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยไว้ว่า จะสร้างบัณฑิตช่างซ่อมเครื่องบิน ตั้งแต่เมื่อปี 2548 เพราะผมได้สั่งสมความรู้สึกมาตั้งแต่เมื่อครั้งได้เดินทางไปอเมริกาในช่วงเรียนที่ปริญญาเอก แล้วมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินขนาดเล็กขนาดสามสิบที่นั่ง เพื่อต่อเครื่องไปมหาวิทยาลัยโอเรกอน และเกิดความคิดว่าประเทศใหญ่ๆ ขนาดนั้น เขายังมีเครื่องบินแบบนี้ ทำไมบ้านเราไม่มีบ้าง ซึ่งก็เพิ่งจะมีเข้ามาบินระยะสั้นในช่วงหลังๆ นี้เอง และในตลาดก็ผลิตเครื่องบินขนาดเล็กออกมาหลากหลายรูปแบบ แต่ในบ้านเราไม่มีเลย ที่มี ก็อยู่ในขั้นตอนของการวิจัย ซึ่งหากเราซื้อเทคโนโลยีการผลิตมาเลย ก็จะทำได้เร็วกว่า และเกิดการเรียนรู้ในเรื่องการบินได้เช่นกัน ในอนาคตผมยังชื่อว่า สักวันคนไทยเราอาจจะใช้เครื่องบินเล็กไปตีกอล์ฟมากขึ้นก็เป็นได้ คงต้องพึ่งพาความร่วมมือกันทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างจริงจังในการพัฒนาธุรกิจนี้
โชเชี่ยลมีเดีย : หากรู้จักใช้ในมุมที่ดีมีประโยชน์ ก็มีผลในเชิงบวกกับชีวิตผมมาก เพราะทำให้เกิดความรู้ เราอยากรู้เรื่องอะไรก็สืบค้นได้ง่ายๆ อย่างเช่น ในอดีต เรารู้แค่ว่าเมื่อปวดหัว กินยาแล้วหาย แต่ไม่รู้ว่า เพราะอะไร กลไกการรักษาคืออะไร แต่สมัยนี้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดก็สามารถหาคำตอบแบบเจาะลึก แบบที่เราเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะได้รู้ลึกซึ้งถึงขนาดนั้น รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย หากมีข้อสงสัยก็หาคำตอบได้ไม่ยาก เหมือนกับเรื่องราวเกี่ยวกับการบินที่ผมก็ให้ความสนใจเช่นกัน
สุขภาพ : ผมเชื่อว่าถ้าทำให้จิตแจ่มใจ และร่างกายสมบูรณ์ ชีวิตเราก็จะอยู่ดีมีสุข ผมวิ่งกับเครื่องออกกำลังกายที่บ้าน ถึงแม้บางวันจะรู้สึกเหนื่อย แต่เพื่อสุขภาพก็พยายามทำให้ได้เกือบทุกวัน พอเหงื่อท่วมตัวเมื่อไหร่ จะรู้สดชื่น ได้ความโล่งใจและสบายตัว ทำให้นอนหลับสนิท
คติชีวิต : ผมเองก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่ปฏิบัติอยู่นี้ ถูกหรือผิด แต่มีความเชื่อส่วนตัวว่า ศีล สมาธิ ปัญญา แก้ปัญหาได้ เมื่อเราคิดดี พูดดี ทำดี คิดแต่เรื่องดีๆ อะไรที่มันไม่ดีอย่าไปคิด เพราะเวลาทำงานทุกคนต้องเจอกับความเครียดกันอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อแก้ไขได้แล้ว ก็ต้องรู้จักข้ามไปบ้าง อย่าเอามาติดค้างคาใจ อย่าเอามาเครียดแค้น เราต้องปล่อยไป ไม่เก็บไว้ให้รกสมอง ถ้าเรามีศีลแล้ว สมาธิก็จะเกิดตามมา และปัญญาก็จะมีไปด้วย ช่วยให้เราคิดออกทุกเรื่องครับ