อมยิ้มริมกรีน

เมื่อ 13 หมูป่าออกจากถ้ำได้แล้ว..จะมีอะไรต่อ?

เมื่อ 13 หมูป่าออกจากถ้ำได้แล้ว..จะมีอะไรต่อ?

ปฏิบัติการ กู้ชีพ 13 หมูป่าอะคาเดมี ที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ที่ดำเนินมากว่าครึ่งเดือน ได้ประสบผลสำเร็จลุล่วงด้วยดีนะครับ คือ ทั้งเด็ก12คนและโค้ช1คน อยู่รอดปลอดภัย ลำเลียงออกมาได้
ภารกิจนี้ถือว่าเป็น The Great Rescue ที่ยิ่งใหญ่และยากยิ่งที่สุดในโลก ที่ทั้งโลกจับตามอง ยิ่งกว่าการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ที่เริ่มพร้อมๆกันเสียอีก

มีเรื่องราวหลายหลาก สุดดรามาเกิดขึ้น ด้วยโลกยุคนี้ เป็นยุคดิจิตอล การสื่อสารเร็วมากจริงๆ ทั้งการรายงานข่าวของสื่อในภาคสนามและในสตูดิโอสถานี ในแง่มุมต่างๆ

การวิพากษ์วิจาร์ณมากมายหลากหลาย ของโลกโซเชียล ที่ยุคนี้ในมีโทรศัพท์มือถือก็ทำได้ จึงมีทั้งกระพี้ไร้สาระ ให้อ่านหน้าจอเยอะแยะ ที่คนเสพข่าวเราท่าน ต้องกรอง อะไรขยะ อะไรสาระ

การอยู่รอดปลอดภัยของ 13 หมูป่าอะคาเดมี คือ บทสรุป ปิดฉากม่าน ปฏิบัติการ The Great Rescue แห่งถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน แต่ชีวิตหลังจากนี้ของพวกเขา ยังต้องดำเนินต่อไปมิใช่หรือ?

ชีวิตนับจากนี้ของพวกเขา จะเป็นอย่างไร? นับว่า น่าสนใจยิ่ง

สิ่งที่น่าหวาดหวั่นคือ พวกเขาจะสูญเสีย การมีชีวิตแบบกลุ่มเด็กชายชาวบ้าน ที่มีความสุขกับชีวิตธรรมดาสามัญ รักท้องถิ่น รักเพื่อนพ้อง รักฟุตบอล ชีวิตเรียบง่ายสบายๆ เพราะพวกเขาได้กลายเป็น “คนดัง”ระดับโลกไปแล้ว ต่อไปก็จะมี สื่อ มีใครต่อใคร มามะรุมมะตุ้ม ยกย่องเป็นคนสำคัญ เป็นวีรบุรุษ โลกยุคใหม่ ..การขอมีส่วนร่วมกับ 13 หมูป่าอะคาเดมี ที่สร้างกระแสกระเดื่องโลก ในทุกสื่อ คือ การทำการตลาด marketing เกาะกระแส สร้างผลประโยชน์ ไม่ว่าตัวบุคคล องค์กร เอกชน

“ตัวอย่าง”มีมาแล้ว ที่ ความดังกลายเป็นทุกขลาภ คือชาวเหมืองชิลี33 คนที่ติดอยู่ในโพรงใต้ดินลึก2300ฟุต จากเหมืองถล่ม(ค.ศ. 2010)อยู่ใต้ดินนาน69 วันถึงได้รับการช่วยเหลือ อยู่รอดปลอดภัย กลายเป็น “คนดัง”ระดับโลก ถูกนำไปทำภาพยนตร์ ชีวิตพวกเขาก็เปลี่ยนไปนับแต่นั้น มีความกดดันสูง บ่มทุกข์มากกว่าสุข หลายคนครอบครัวแตกแยก

กรณีของ 13 หมูป่าอะคาเดมีของไทยเรานั้น ดังกว่า33คนชาวเหมืองชิลีแน่นอน เพราะมีดรามาที่เข้มข้นกว่ามาก และเพราะยังเป็นเด็ก จะมีประเด็นละเอียดอ่อนทางจิตวิทยา ที่ สังคมสรรเสริญยกยอให้ความสำคัญเกินไป อาจทำให้น้องๆ มีสามัญสำนึกที่ผิดๆ ไม่อาจกลับไปสู่ร่องชีวิตเดิมๆของตนได้

จึงควรมีการปกป้องให้ดี หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน พยายามแจ้งให้ สื่อทุกแขนง อย่าเข้าไปก้าวก่าย วิถีชีวิตส่วนตัวของน้องๆ อย่าไปเจาะลึกทำข่าว สกู๊ป หรือว่าจ้างพิเศษอย่างไร ให้น้องๆ กลับไปมีชีวิตเด็กชาวบ้านธรรมดาๆ ซึ่งต้องคอยดูต่อไปว่า..บรรดาสื่อ จะมีผู้ใดล้ำเส้น

เรื่องของการทำภาพยนตร์ ผมว่า มีแน่นอน ในระดับหนังฮอลลีวู้ด สากลด้วย

เพราะ เรื่องราวของ13หมู่ป่าอะคาเดมี โด่งดังไปทั่วโลก ดรามาความจริงอันเข้มข้น นับแต่การเดินเข้าถ้ำก้าวแรก ของโค้ชหนุ่มรับผิดชอบ13ชีวิตเด็ก เขาทำอย่างไรที่ทำให้ “อยู่รอด” มีประเด็นเข้มมากมาย การประสานงานในระดับมนุษย์ที่เก่งที่สุดในโลกในแขนงต่างๆมารวมกัน ในภารกิจพิชิตความตายนาทีต่อนาที การต่อสู้กับน้ำหลากในโตรกถ้ำ มันสุดยอดแห่งความกดดันแล้ว มีพระเอก วีรบุรุษมากมาย ดรามาเข้มข้นยิ่งกว่าสคริปต์ภาพยนตร์เสียอีก

ไม่ต้องอะไร..ถ้ำหลวงขุนน้ำ นางนอน ยังมี”บางสิ่ง” ที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ ที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ไปปฏิบัติการยังประสบด้วยตัวเอง ไม่ว่า ตำนานแห่งความเชื่อหลายร้อยปี คำทำนายของตุ๊เจ้า การเซ่นพลีแลกชีวิต เป็นพิธีกรรมโบราณของมนุษย์ ในทุกอารยธรรม

อาจตอบคำถามไม่ได้ แต่ให้แง่คิดอันน่าสพรึงกลัวได้ หากคิดว่า พลี1ชีวิตของอดีตซีลที่แข็งแกร่ง คือการแลกกับ13ชีวิตที่ “ถ้ำยอมแลกให้” หรือ ทันทีที่ภารกิจเสร็จสิ้น เครื่องปัมพ์น้ำใหญ่ก็พัง น้ำบ่าไหลท่วมโพรงถ้ำให้ บรรดาเจ้าหน้าที่ประดาน้ำหนีตายเสี้ยวนาทีสุดท้าย..อาจเป็นฉากในภาพยนต์ลักษณะนี้ ที่ต้องมีอะไรถล่มส่งท้าย

แต่ตีความในมุมหลืบลึกของถ้ำหลวง คือ …เจ้าที่เจ้าทางของคืนพื้นที่ เมื่อให้เวลาเอาตัวเด็กออกไปรอดแล้ว..

ไม่มีอีกแล้ว ที่ที่ไหนจะมี “ปรากฏการณ์” เช่นนี้ ในโลกแห่งความเป็นจริง

หากเป็นภาพยนตฮอลลีวู้ด ระดับลงทุน หลายร้อนล้าน พันล้านดอลลาร์..จะตีความอย่างไร?

ผมอยากให้ ระดับ สตีเวนส์ สปีลเบิร์ก ทำภาพยนตร์ 13 หมูป่าอะคาเดมีนะ มองภาพอนาคตได้เลยว่า จะเป็นหนังกวาดรางวัลออสการ์ด้วยซ้ำ เพราะทุกอย่างเป็นปัจจัยเอื้อ ทำจากเรื่องจริง ทั้งโลกสนใจ

ดูกันต่อไปว่า ใคราจะได้ทำหนังเรื่องนี้

มีประเด็นหนึ่ง ที่เป็น “ดรามา”ข้อโย้แย้งในสังคมก่อนหน้านี้ คือ

ข้อคิดของคนบางกลุ่มที่ว่า..ใช้เงินทอง ทรัพยากรมนุษย์ไปมากมายแค่ไหน ตีมูลค่าเป็นพันล้านบาท และยังชีวิตคนอีกหนึ่งคน สังเวยไปกับ ความซุกซนของเด็ก12คน ผู้ใหญ่อีก1คนที่ไม่ห้าม ไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์กันในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วติดในถ้ำ ออกไม่ได้ จนสร้างความเดือดร้อนไปหมด

ทำไมสังคมยังมองว่า..กลุ่มเด็กพวกนี้มีความสำคัญ ราวกับวีรบรุษ ได้รับรางวัลสารพัดประเดประดังดีที่สุดในโลก ยิ่งกว่าเด็กใดๆในแผ่นดินจะมีโอกาส

คิดอย่างนี้ได้ไหม?.

มีสิทธิ์คิด แต่เป็นความคิดเพียงเฉพาะคน ที่บ่งถึงสันดานของคนที่มีโลกแคบ มีมุมมองเดียว เหมือนม้าที่ถูกใส่กระบั้งปิดตา ขี้อิจฉา ชอบพิพากษา และการลงโทษ ดูถูกความเป็นคนไม่มีมนุษยธรรมในจิตใจ คนกลุ่มนี้ เป็นมะเร็งง่ายนะครับ เพราะ ความที่มีอารมณ์ เครียด ชิงชัง เป็นนิสัย ทำให้ ต่อมไร้ท่อใต้สมองหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนตัวที่เร่งกระตุ้นให้ก่อเกิดเซลมะเร็งได้

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีใครอยากให้เกิดหรือจงใจกระทำ หากเป็น ปรากฏการณ์ที่อุบัติขึ้นมา อันนำไปสู่ การต้องช่วยเหลือ ด้วยมนุษยธรรมนำทาง ก่อนสิ่งอื่นใด

ถ้ามันง่าย ก็จบง่าย ทำง่าย แต่มันยาก ตรงที่ฝกตกหนัก น้ำท่วมโพรงถ้ำมิด จึงกลายเป็นความยากลำบากแสนสาหัส ซึ่งเมื่อหนึ่งก้าวเดินหน้าเริ่มต้นช่วยแล้ว ก็ต้องสานต่อไปให้สุดทาง มันคือวิถี..สถานการณ์สร้างวีรุบุรุษ

ดังที่เราท่านตามข่าวแหละครับว่า เกิด วีรบุรุษ มากมายในปฏิบัติการครั้งนี้ คนดีมีฝีมือสุดยอดระดับโลก ต่างมารวมตัวกัน แล้วทำปฏิบัติการที่ไม่น่าเป็นไปได้ ให้เป็นไปได้

ถ้าหากตามข่าวโดยละเอียด จะพบว่า ที่เราเพียงรับรู้จากข่าววันต่อวัน จนถึงนาทีสุดท้ายนั้น มันแค่เศษกระพี้แห่ง การปฏิบัติงานจริงของหน่วยซีล ที่สู้ด้วยหัวใจ ด้วยพลังแบบเลือดตาแทบกระเด็น สาหัสสากรรจ์ แข่งกับความตายทุกวินาที ทั้งของเด็ก,ของตนและบัดดี้ กระนั้นก็ยังสูญเสีย ชีวิต อดีตซีล จอ.สมาน กุนัน ที่วูบหัวใจหยุดเฉียบพลัน ขณะปฏิบัติหน้าที่ ดำน้ำขนขวดอากาศสำรอง ภายในโพรงถ้ำลึกนั้น

คุณค่า ที่เป็นรางวัลแห่งการทำงานของกลุ่มคนเหล่าวีรบุรุษนั้นต่างหาก

คือการกู้ชีวิต13หมูป่าอะคาเดมี ออกมาอยู่รอดปลอดภัย เท่ากับว่า ปฏิบัติงานที่ทำลงไปประสบความสำเร็จ เป็นรางวัลแห่งความยิ่งใหญ่ ความสามารถ ศักยภาพแห่งมนุษย์ที่ทำงานช่วยชีวิต ที่ประจักษ์เป็นบทบึนทึกในระดับโลก

สิ่งที่เด็ก 13คนได้รับ เป็นอะไรที่ดีที่สุดในชีวิตจนสำลักนั้น ไม่ใช่ รางวัล reward ที่รอดตาย แต่ เกิดจากความรู้สึกของผู้ใหญ่ ที่ยินดีปรีดา pleasure จากการรอดตายของเด็กๆ อยากจะให้ด้วยพึงใจ..เด็กเล็กหกล้มร้อแงไห้จ้า ยังมีผู้ใหญ่เข้าไปอุ้ม..โอ๋ ขวัญเอ๋ย ชวัญมา ไม่เจ็บนะ เพี้ยง กินขนมก็หายแล้ว.. ประมาณนั้น จึงอย่างตีเหมารวม

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จแห่งการปฏิบัติการ การนำ13หมูป่าอะคาเดมี ให้ออกมาอยู่รอดปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญที่สุด โลกทั้งโลกมีศรัทธา ดีใจ ยินดี ปรีดาด้วย ก็ถือว่า นั่นคือรางวัล ที่ประเมินค่ามิได้ ก็โอเคแล้วครับ ประเด็นอื่นเป็นกระพี้ไป

คุณค่าของชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมี คืออะไร? อยู่ที่ไหน?

มีผู้เขียนไว้เยอะแยะ ทั้งในสื่ออาชีพ ทั้งในโซเชียล เน็ตเวิร์ก มีบางบทความที่ผมชอบ

ชอบเพราะตอบคำถามนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ในเชิงปรัชญา ที่สอนอะไรให้ “ได้คิด”…ลองอ่านดูครับ

อยู่ให้คุ้มนะ ไอ้หนู / เดวิด บุญทวี

การสละชีพของ จ.อ. สมาน กุนัน ในสภารกิจพา 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง นับว่าสร้างความสะเทือนในอย่างยิ่งต่อสังคม ขณะที่ผมติดตามข่าวอยู่นั้น พลันนึกถึงบางประโยคของภาพยนตร์เรื่อง Saving Private Ryan ( ฝ่าสมรภูมินรก)

ท่านที่เคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้(พ.ศ.2541) คงจำได้ เป็นเรื่องของทหารอเมริกันหน่วยหนึ่ง ที่ได้รับภารกิจ นำ พลทหาร เจมส์ ฟรานซิส ไรอัน (แสดงโดย แมท ดามอน) กลับคืนมาจาก สมรภูมิแนวหน้าที่นอร์มังดีให้ได้

ทำไม?.. ก็เพราะ พลทหารเจมส์ ไรอัน เป็นลูกชายที่เหลืออยู่คนเดียวของครอบครัว ที่ส่งลูกชายทุกคนไปเป็นทหารหาญของกองทัพอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่2 หากพลทหาร เจมส์ ไรอัน ต้องตายอีกคน จะเป็นอะไรที่แสนโหดร้ายกับครอบครัวของเขา ที่ไม่ควรสูญเสียมากไปกว่านี้

ทหารหน่วยกล้าตายนี้ นำโดย ร.อ. จอห์น เอช มิลเลอร์ ( แสดงโดย ทอม แฮงค์) ตะลุยเข้าไปในแนวหน้าสมรภูมิ ต่อสู้ปะทะกับทหารเยอรมัน เพื่อเข้าถึงตัว เอาพลทหาร เจมส์ ไรอัน กลับมาให้ได้..หลายคนสละชีพเพื่อปฏิบัติการเก็บชีวิตคนๆเดียวให้อยู่รอด รวมทั้ง ผู้กองมิลเลอร์ ผู้เสี่ยงชีวิต ช่วยชีวิต พลทหารไรอัน แล้วตัวเองโดนยิงแทนบนสะพาน

ก่อนที่ ผู้กองมิลเลอร์จะตาย ได้กระซิบสั่ง พลทหารไรอันว่า..James earn this. Earn this.

แปลได้ว่า..เจมส์ รับสิ่งนี้ไปนะ รับไป..

อันสามารถขยายความในอีโมชั่นความหมายได้ว่า..นี่คือปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จ ที่หลายคนสละชีพทำไป เพื่อช่วยนาย ดังนั้น จงรับสิ่งนี้ไป นายสมควรได้รับ

ฉาก epilogue อะพิลอ็ค ฉากจบ ชายชราคนหนึ่ง ก้าวไปคารวะหลุมศพของ ร.อ. มิลเลอร์ ที่สุสานอาร์ลิตัน เขาคือ อดีต พลทหาร เจมส์ ไรอัน ที่กล่าวต่อหน้าหลุมศพว่า..

Every day I think about what you said to me that day on the bridge. And I’ve tried to live my life the best I could. I hope that was enough. I hope that at least in your eyes, I•ve earned what all of you have done to me..ทุกๆวัน ผมนึกถึงสิ่งที่ท่านบอกผมในวันนั้นบนสะพาน และผมพยายามที่จะมีชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมหวังว่ามันคงมีค่าเพียงพอ อย่างน้อยที่สุดในสายตาของท่าน ผมได้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่พวกทั้งทั้งหมด ได้มอบให้กับผม..

เจมส์ ฟรานซิส ไรอัน อยู่จนแก่เฒ่า สร้างครอบครัว มีลูกหลานเหลน มีคนดีของสังคม อยู่อย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต.

ก็คือ คุณค่าที่เขาได้รับจาก รอ.มิลเลอร์ บนสะพานนั้น

ครับ ถ้าจ่าเอกสมาน สื่อสารกับ 13 หมูป่า ได้ ท่านก็คงกล่าวเช่นนั้น ไม่ต่าง

ไอ้หนู อยู่ให้คุ้มนะ ใช้ชีวิตให้คุ้มนะ ขอให้เป็นคนดีมีค่า สมกับที่ทุกคนยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยน้องอยู่รอดปลอดภัยิ

แด่ จ่าเอกสมาน กุนัน ขอได้รับการคารวะจากหัวใจ

ขอขอบคุณ อจ.ฮิม ประสิทธิ์องอาจตระกูล สำหรับแรงบันดาลใจและบางถ้อยคำ Cr. Suvinai Pornavalai

ยอดทอง