อมยิ้มริมกรีน

ความยิ่งใหญ่ของโปรเม..ไม่ได้อยู่เพียงที่ชัยชนะ

ความยิ่งใหญ่ของโปรเม..ไม่ได้อยู่เพียงที่ชัยชนะ

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ที่ได้แชมป์ กอล์ฟแอลพีจีเอ รายการเมเจอร์ ยู เอส วีเมน ส โอเพ่น 2018 ที่ ชูอัลครีก,แอลแบมา,สหรัฐอเมริกา

ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว กระหึ่มไปทั่ววงการกอล์ฟระดับโลก อันที่สามารถเรียกว่าเป็น phenomenon หรือ ปรากฏการณ์อันแสนอลังการ จริงๆครับ

นี่คือ สุดยอดดรามาอีกครั้งหนึ่ง ที่วงการกอล์ฟโลกต้องจดบันทึกไว้ และตัวโปรเม เธอได้สร้างมุมมองหลายหลากให้กับวงการกอล์ฟระดับโลก ให้จำชื่อเธอ ได้ไม่ลืม นับแต่นี้ด้วย

ผมเชื่อว่า แฟนกีฬากอล์ฟ ที่เชียร์โปรเม รายการนี้ จากการถ่ายทอดสดหน้าจอโทรทัศน์ คงมีความรู้สึกเหมือนผม คือ เกิดอาการหัวใจกระตุกหลายครั้ง เป็นมากกว่านี้คงเรียกว่า ช้อก

คนเชียร์ที่ตามผลตอนเช้า ก็ว่ากันไป แต่รับรองว่า คุณพลาด ดูสดแมตช์กอล์ฟที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตแมตช์หนึ่งไปแล้ว

ยิ่งเป็นนักกอล์ฟ ตีกอล์ฟด้วย..โฮย คุณเอ๊ย เป็น dramatic ที่ เกือบๆจั๊กกะแหล่นเป็น miracle

คิดดูซิ่ครับ กอล์ฟรายการเมเจอร์ เงินครางวัลแชมป์ 31.5ล้านบาท นำโด่งมาตั้งแต่3วันแรก ขึ้นแทนทีออฟหลุมแรกวันสุดท้าย ยังนำ4สโตรค 9หลุมแรกก็เล่น

ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงเบอร์ดีเป็นว่าเล่น แม้จะเสียโบกี้ก็ตาม สกอร์ยังชิลๆ

แต่ขึ้น9หลุมหลัง เป็นหนังคนละม้วน แบบ มันเกิดอะไรขึ้น?

หลุม10 ตีเป๋ เล่นผิดพลาดตั้งแต่ช็อตออกจากแท่น ตุปัดตุเป๋ มาเหงื่อตก พัตต์เซฟ ทริปเปิลโบกี้!

ผมที่นั่งดูหน้าจอ แทบตกโซฟา อุทานหยาบหลุดปาก..ฉิบหาย ตายห่แล้ว

พรางคิดว่า โปรเม เธอจะเอาสภาพใจตัวเองอยู่ไหม ใจเธอจะกระเจิดกระเจิงไปถึงไหนมั้ย

ตอนนั้นนึกปลอบใจทั้งตัวเองทั้งโปรเมว่า..โปรเม เหมือนเรือรั่วแล้ว น้ำกำลังเข้าเรือ ประคองเข้าๆไว้ เซฟพาร์อย่างเดียวในหลุมที่เหลือ ก็น่าจะเข้าฝั่งได้ เพราะแต้มนำยังห่าง แม้ คิม ฮโย ชู โปรกอล์ฟเกาหลีจะยิ่งเล่นยิ่งดี ฮึ่มๆเข้ามาก็ตาม

มาเสียโบกี้หลุม12อีก..โฮย

สองหลุมสุดท้าย แต้มยังนำ2สโตรค ถ้าคิดแบบแมตช์เพลย์ ว่าตัวเองเข้าดอมมี่แล้ว เอาแค่พาร์เล่นง่ายๆ ขนมๆ ก็แตะแชมป์แล้ว

แต่เกมกอล์ฟมันบดขยี้หัวใจคนเล่นยิ่งนัก คนไม่เจอเอาไม่รู้หรอก โปรเม เธอจึงเสียโบกี้ทั้งสองหลุมซะงั้น

ต้องออกไปเพลย์ออฟกับ คิม ฮโย ชู ด้วยสกอร์เท่ากัน 11 อันเดอร์

คนหนึ่ง ทำทริปเปิลโบกี้ ทิ้งแต้ม แล้วยังทิ้งโอกาสได้แชมป์กับการทำโบกี้สองหลุมสุดท้าย กับอีกคนที่ พัตต์เบอร์ดี้ไกลลิบลง หลายช็อตก็เป็นใจดังเทพีแห่งโชคเป็นแคดดี้ให้

ใจบนแท่นทีออฟหลุมเพลย์ออฟ จะต่างกันเช่นไร

ถ้าเป็นรายการแอลพีจีเออื่นๆเดิมๆ โปรเมก็ต้องแพ้ไปแล้ว จากการซวนเซนั้น เพราะหลุม14เพลย์ออฟหลุมแรกนั้น โปรเมพ่าย

ทั้งคู่2ออนเท่ากัน โปรเมออนใกล้กว่าด้วยซ้ำ แต่โดนคิมที่พัตต์ก่อน พัตต์เบอร์ดีไกลลิบลงหลุมพล็อก มีผลให้โปรเมหวั่นไหว พัตต์ไม่ถึงหลุม ลูกตกไลน์ แค่เซฟพาร์ แพ้ซิ่

แต่โชคดีที่รายการนี้ เป็นรายการใหญ่ ให้มีเพลย์ออฟ2หลุม โปรเมดาวน์1 ขึ้นหลุม18

คนดูหน้าจอทั้งโลกก็ต้องมองว่า โปรเมเป็นรองสุดกู่ เหมือนเข้าดอมมี่ เสมอก็แพ้ ต้องชนะสถานะเดียวเพื่อเริ่มใหม่

ทีออฟออกไปเป๋ทั้งคู่ ทำ3ออน โปรเมพัตต์เซฟพาร์ไม่ถึงคันธง คิมพัตต์เซฟพาร์2คันธง ถ้าลงก็ชนะ แต่เธอพลาดไปเฉียดฉิว ทั้งที่เธอไม่เคยออกโบกี้เลยในหลุมนี้

จึงเริ่มกันใหม่ กลายเป็นโปรเม ต่อชีวิตตัวเองได้ ภาวะหัวใจไม่นิ่งจึงตกไปที่ คิม ฮโย ชู บ้าง

กลับขึ้นแท่นหลุม14 คิมทำสองออนงดงาม ขณะที่โปรเมช็อตทีออฟไม่ดี ช็อต2ตกรัฟ ต้องแก้ไข ชิพจี้ธงเพื่อพาร์ ขณะที่คิม พัตต์เบอร์ดีเพื่อแชมป์ ลูกมันเฉียดปากหลุม พาร์ทั้งคู่ โปรเมรอดตัว

ขึ้นแท่นหลุม18อีกครั้ง โปรเมแสดงอาการลังเล ถามแค็ดดี้ ออกหัวไม้หรือเหล็กดี..แค็ดดี้ตอบว่า..ใช้สัญชาตญาณของเธอดีที่สุด

โปรเมหยิบเหล็กสอง ทีออฟออกไป ลูกไปสู่กลางแฟร์เวย์งดงาม ขณะที่คิมก็ไม่กล้าชักไดรเวอร์ ออกด้วยหัวไม้สาม กลางแฟร์เวย์เช่นกัน แต่สั้นกว่า จึงต้องเล่นช็อตสองก่อน เธอตีตกบังเกอร์ข้างกรีน โปรเมแอพโพรชด้วยเหล็ก7 ที่ควรจะออนง่ายๆ แต่ลูกไหลกลิ้งลงบังเกอร์เช่นกัน

การระเบิดทรายของทั้งคู่แตกต่างกัน คิมส่งลูกไปออนกรีน คันธงครึ่ง ขณะที่โปรเม ทำได้ดีกว่า ครึ่งคันธง

ดังราวกับรีเพลย์เทป บนกรีนหลุม18 ที่ผ่านไปเมื่อกี้นี้เอง คิมคงมีแรงกดดันสูง เธอพลาดเหมือนครั้งก่อน ขณะที่โปรเม ไม่พลาดเหมือนครั้งก่อนเช่นกัน พาร์ก็เพียงพอต่อการเป็นแชมป์รายการนี้

ผมแหกปากหัวร่อน้ำตาซึมกลางดึก เมื่อเธอพัตต์ แชมเปียนชิพพัตต์ลง (สาบานว่า แม้จะใกล้แค่ครึ่งคันธง แต่ตอนที่เธอจรดพัตตเตอร์ ก่อนพัตต์ ผมหัวใจจะวาย กลัวไม่ลง)

น้ำตาแห่งความปิติของโปรเม แม่ พี่สาว กอดดีใจกันริมกรีน ดูดีใจ ไร้เดียงสา บ้านๆประสาคนไทย หากเป็นภาพที่งดงามยิ่ง เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ไม่มีแชมป์คนไหนเหมือน ฝรั่งเองก็ประทับใจปรบมือกันเกลียว

นักข่าวภาคสนาม FOX ยื่นไมค์ถามโปรเม หลังได้ชัยชนะทันทีว่า..เธอปรบมือ คิม ฮโย ชู คู่แข่งทำไม ในการแข่งขันเพลย์ออฟที่หลุม14 ที่คิมแอพโพรชได้อย่างงดงาม และพัตต์เบอร์ดี ชนะเธอ? คิมเป็นคู่แข่งไม่ใช่หรือ?

คำถามนี้ มาทันควัน เพราะ ระหว่างเกมเข้มข้นนั้น พอล เอซิงเกอร์ โปรกอล์ฟอเมริกันเก๋ากึ้ก ที่มาเป็นคอมเมนเตเตอร์ บรรยาย คู่กับจูดี้ อิงสเตอร์ โปรหญิงอเมริกันชื่อดังเช่นกัน ได้พูดออกอากาศวิพากษ์โปรเมทำนองว่า..ไปปรบมือให้คู่แข่งทำไม ตัวเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่อยู่แล้ว ทำไมไม่คอนเซนเทรตกับเกมของตัวเอง นี่คงหาวิธี เรียกคะแนนนิยมจากคนดูล่ะซิ่

พอล เอซิงเกอร์ แกเป็นตาแก่ในโลกกอล์ฟเก่าไงครับ แสดงความเก๋าของตัวเอง และมีทัศนคติโบราณติดอยู่ในหัว หรืออาจไม่ชอบโปรเม เก่งกว่าโปรอเมริกันที่ไม่ลุ้นรายการใหญ่ เขาเองไม่ได้มีข้อมูลด้วยซ้ำว่า โปรเมคือใคร? ผลงานผ่านมาทำอะไร? เพราะ ชื่อสกุล จุฑานุกาล ที่คนพากษ์กอล์ฟรายการใหญ่ควรต้องรู้จัก เอซิงเกอร์ ยังสะกดผิด ตะกุกตะกัก)

แกจึง “ขัดตา” โปรเมของเรา ได้ทีก็งับเสียเลย แต่เอซิงเกอร์ เองน่ะ โดนกระแสโซเชียลด่าเช็ดทันควัน ทางเว็บไซด์ แอลพีจีเอ หลังจากนั้น ที่พูดออกไปทั่วโลกอย่างนั้น

แต่ก็ไม่สะใจเท่ากับ “คำตอบ”ของโปรเม ที่ตอบคำถามนั้นต่อนักข่าว ออกไปทั่วโลกเช่นกันว่า…

เธอก็ปรบมือให้กับนักกอล์ฟทุกคน ที่ตีช็อตที่ดี ไม่ว่าใคร ไม่ว่ารอบไหน มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนักกอล์ฟคนนั้นไม่ใช่หรือ มันเป็นกำลังใจ ช็อตของเราก็ควรทำให้ดีเช่นกัน เราควรยินดีกับชัยชนะจากช็อตที่ดี ไม่ใช่ชนะจากช็อตที่พลาดของคู่แข่งขัน..

ไม่รู้ว่ามีทีมงานจิตวิทยาสอนให้พูด หรือเธอพูดจากใจ..แต่นั่นคือความสุดยอดแล้ว ของนักกอล์ฟคนหนึ่งที่มาถึงจุดแห่งความสำเร็จยิ่งใหญ่ แชมป์รายการเมเจอร์

โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ได้กะเทาะ ทัศนคติเก่าๆแห่งเกมกอล์ฟที่ถูกปลูกฝังมาแต่เก่าก่อนให้เห็นเป็นตัวอย่าง

นักกอล์ฟถูกสอนว่า ต้องมุ่งมั่นแต่ตัวเอง แต่ต้องมีเกมจิตวิทยา จับผิดคู่แข่งมันด้วย มึงพลาดนิดเป็นโดน ข่มมัน ถ้ามันพลาด เราก็ชนะ

กอล์ฟ มีกติกาละเอียดยิบ ต้อง play by the rules ทุกกระเบียดนิ้ว เพราะทุกสโตรคมีความหมาย อ้างว่าเป็นเกมแห่งความยุติธรรม ไม่เอาเปรียบใคร แต่ก็ไม่ให้ใครมาเอาเปรียบเรา เป็นกีฬาที่ ต้องเห็นแก่ตัวไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องแสดงความมีน้ำใจเป้นนักกีฬา จนกว่าจบหลุมสุดท้าย ค่อยเปิดหมวกจับมือกัน

แต่ปรากฏการณ์ และคำตอบใสซื่อของโปรเม ผู้ชนะรายการเมเจอร์ ยูเอส วีเมน ส โอเพ่น 2018 ได้หักล้างทัศนคติแห่งเกมกอล์ฟโบราณนั้นโดยสิ้นเชิง

นั่นเป็นการแสดงน้ำใจที่หลั่งออกมาโดยอัตโนมัติ จากการสั่งสอนมาแต่เด็ก จากใจอันดีงาม บุคลิกส่วนตัวของเธอ ที่รับรองว่า ไม่มีวันหาได้จาก นักกอล์ฟชาติอื่น อย่างเกาหลีหรืออเมริกันเอง

บางที ความอ่อนโยน ตรงนี้จะเป็น คีย์สำคัญ ที่โปรเมใช้ปลด ปมความเครียด ในภาวะตึงเขม็งของเธอได้ จนมาสู่ชัยชนะ

โปรเม ยิ้มหวานพูดนิ่มๆ แต่นั่นก็เป็นการ ตอกหน้าแง สั่งสอน โปรกอล์ฟแก่หลงตน ให้เป็นบัวผุดพ้นน้ำ

รายการนี้ ป้าจูดี้ อิงสเตอร์ ก็โดนไปเต็มๆ เพราะวิพากษ์โปรเม..แบบนึกว่าตัวเองเก๋าสุดๆ

คือ ตอนที่โปรเม เป๋สุดๆ เสียทริปเปิลโบกี้ในหลุมสิบ ป้าจูดี้ ก็พูดเลยว่า..โปรเมหลุดแล้ว ใจกระเจิดกระเจิงแล้ว ยิ่งพอเสียสองโบกี้สองหลุมสุดท้าย ตอนออกเพลย์ออฟ ป้าจูดี้บอกเลย โปรเมกู่ไม่กลับแน่ นักกอล์ฟที่ผิดพลาดมหันต์เช่นนี้ ไม่มีรายไหนกลับมาได้หรอก

หลุม14เพลย์ออฟครั้งแรก ที่โปรเมแพ้ ป้าแกสรุปเลยว่า..โปรเมไม่รอดแน่ แพ้รายการนี้แล้ว ก็ใช่จะกลับมาได้อีก คงอีกยาวนานละ เพราะบาดแผลลึกมาก..

ป้าโดนเองครับ.. แบร้ด แฟกซั่น อดีตโปรกอล์ฟระดับโลกซึ่งเป็นแองเคอร์แมน ผู้บรรยายหลัก กล่าวติงซึ่งหน้าทั้งลุงทั้งป้า ว่า..เกมยังไม่จบ อย่าเพิ่งสรุปอย่างนั้น..ลุงป้าเลยหุบปาก ขอโทษ

แล้วเป็นไง..ป้าจูดี้ อิงสเตอร์ ต้องเอ่ยปากขอโทษอีกหลายคำ เมื่อโปรเม เอรียา จุฑานุกาล ของไทยเรายกถ้วยชนะเลิศ ยูเอส วีเมนส โอเพ่น 2018 อย่างสุดสะใจ

รายการนี้ จึงไม่ใช่แค่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ สุดยอดดรามาติก ที่ต้องบันทึกในประวัติศาสตร์กอล์ฟ เงินรางวัลมหาศาล การเลื่อนอันดับโลกเป็นอันดับสอง อันเป็นผลสำเร็จทางรูปธรรม

หากเป็นความสำเร็จทางนามธรรมของโปรเม ที่ไม่เคยมีโปรกอล์ฟคนไหนได้ทำมาก่อน

นักกอล์ฟไทยมารยาทน่ารัก สั่งสอนทัศนคติดีๆให้กับ อดีตยอดนักกอล์ฟระดับโลกทีมเดียวสองคนซ้อน ลุงพอล เอซิงเกอร์ และป้าจูดี้ อิงส์เตอร์ ที่ต้องก้มหัวคำนับขอโทษเธอ ต่อหน้าแฟนกอล์ฟทั้งโลก

โปรเม ยังแสดงแบบอย่าง ให้ทัศนคติที่ดีกับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ ที่คุณไม่จำเป็นต้องใจแคบ เห็นแก่ตัว เพื่อแกร่งในเกม..คุณหัดแสดงความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ที่มาจากใจ บ้างก็ได้นะ

สุดยอดที่สุดแล้วละครับ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล

ยอดทอง