เทนนิสบ้านเรา
เทนนิสบ้านเรา
เรื่องของ “เทนนิส”เราจากอดีตสู่ปัจจุบันความจริงเรามีผู้เล่นที่มีฝีมือมากมายก่ายกอง ย้อนไปราว 30 ปี หากจะนับว่าใครคือดาวรุ่งพุ่งแรงสุดๆ…ยากครับที่จะนับกันได้ครบ นักเทนนิสที่สลับกันขึ้นเป็นมือ 1 ของชาติอาจจะมากจากแทบทุกภาคของประเทศก็ว่าได้ แต่เมื่อทุกคนมาสะดุดหยุดตรงทางตันที่ตัดสินใจยากว่าจะเอาอย่างไรกันดี ส่วนมากก็เลือกไปทำงานประจำในองค์กรต่างๆแล้วก็มาสอนลูกศิษย์ลุกหาให้เล่นและแข่งขันเหมือนเมื่ออดีตที่ครูเป็นมา…จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่ปัจจุบันมีทางเลือกของสถาบันการศึกษาเข้ามาให้การสนับสนุนมากขึ้น…
ด้วยประเทศเราหากจะมองออกไปรอบๆตัว…ตรงนี้คือศูนย์กลางของภูมิภาคเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายนะศูนย์กลางที่มีควรจะเกิดประโยชน์กลับกลายเป็น “ศูนย์”จริงๆเราไม่มีอะไรที่จะมาส่งเสริมเด็กของเราเพื่อต่อยอดสู่อาชีพ เราไม่มีอะไรที่จะบอกเด็กของเราว่า “อยู่กับเทนนิสแล้วจะมีกิน” นี่คือจุดบอดของเราโดยแท้เด็กที่เข้ามาคนแล้วคนเล่าพอเห็นไส้เห็นพุงของวงการก็ “โบกมือลา” บรรดาผู้ปกครองก็จะถอดใจเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วกลับมาคิดกันใหม่ว่า “จะเอาอย่างไรกันดี” จะไปอาชีพหรือจะหยุดกันดี…หากจะไปอาชีพเราจะฝึกซ้อมกันตรงไหน แล้วจะอยู่กินอย่างไรหรือเงินทองในการฝึกซ้อมจะมีพอมั้ย…
แค่ความคิดแบบนี้ก็จบแล้ว มันจบก่อนจะฉายเสียอีกนี่หากชาติเรามีแผนการทำงานที่สมบูรณ์และต่อเนื่องรับรองได้ว่าบ้านเราเมืองเราจะไม่ขาดจากนักเทนนิสที่เก่งกาจมาทดแทนอยู่เสมอ แล้วหากแผนการพัฒนาที่ว่ามีความสมบูรณ์แล้วละก็ นักกีฬาของเราจะต้องฝึกซ้อมร่วมกันอย่างเป็นระบบและต้องลบความหลังที่เคยห้ำหั่นต่อสู้กันมาในระดับเยาวชน ทำได้แบบนี้วงการก็พอจะมีแสงสว่างขึ้นมาบ้าง…เมื่อเรามีหลายอย่างที่ว่ามานั้นครบแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของการทำงานในเชิงรุกนั่นคือการจัดระบบการแข่งขันเฉพาะ “อาเซียน” ให้แข็งแกร่งมากขึ้น…นักกีฬาที่กล้าจะอยู่ในทัวร์ของการแข่งขันพวกเขาก็จะพอมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม…แบบนี้เราถึงจะอยู่รอดไปได้ครับ
อาเซียนต้องช่วยกันทำให้เทนนิสเป็นกีฬาอาชีพให้ได้เสียก่อน จากนั้นเมื่อนักเทนนิสเก่งจริงก็ย้ายที่หากินไปยังอีกสังเวียนของการชิงเงินรางวัลที่ก้อนใหญ่ขึ้นยากขึ้นกว่าเดิม แบบนี้จะทำได้มั้ยแต่หากนักกีฬาของเราไม่มีเป้าหมายอะไรเลยในการเล่นมันก็จะเหมือนเดิม นั่นคือเล่นไปวันๆแข่งกันเพื่อความพอใจของผู้ปกครอง หรือเล่นเพื่อองค์กรที่สังกัดอยู่เพียงเท่านั้นจริงๆบอกตรงๆเลยนะ “เทนนิสบ้านเราล้มเหลวมานานแล้ว” จะลืมตาอ้าปากได้ต้องยกเครื่องเรื่องระบบกันใหม่อะไรที่ดีเอาไว้อะไรร้ายก็ตัดไปแบบนี้ไม่นานก็ “เฟื่องฟู”เหมือนเดิม….
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์