Just Say Know

ตรวจหาโรค PTSD ผ่านอินเตอร์เน็ต

ตรวจหาโรค PTSD ผ่านอินเตอร์เน็ต ง่าย ปลอดภัย ทันเวลา

“บาดแผลทางใจ” คำๆ นี้เป็นเหมือนคำเปรียบเทียบ ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ ซึ่งนอกจากจะใช้เปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพแล้ว คำๆ นี้ยังเหมือนเป็นนิยามของโรค PTSD ได้อย่างตรงจุดทีเดียว

โรค PTSD ที่ย่อมาจาก Post Traumatic Stress Disorder หรือที่มีชื่อเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการว่า โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เป็นโรคจิตเวชที่เกิดภายหลังเหตุวิกฤติต่างๆ มีผลกระทบรุนแรงต่อผู้เผชิญเหตุการณ์หรือรอดชีวิต หากเกิดกับเด็กและวัยรุ่นจะมีผลต่อพัฒนาการทางสมองบุคลิกภาพและอารมณ์ ทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนหรือทำสิ่งต่างๆ บางครั้งทำให้เด็กรู้สึกตนเองไม่มีคุณค่า กลายเป็นคนเก็บตัว อารมณ์ถูกกระตุ้นได้ง่าย อาจกลายเป็นคนก้าวร้าว หรือซึมเศร้า หากเกิดในหญิงตั้งครรภ์ บาดแผลทางใจจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนบางตัวออกมา เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) สามารถผ่านทางรก ทำให้เด็กในครรภ์มีขนาดศีรษะเล็กกว่าปกติมีผลต่อพัฒนาการของสมองและมีผลต่อสติปัญญา

อาการเด่นของโรคมี 8 อาการ คือ 1.นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท 2.หงุดหงิดง่าย 3.ฝันร้ายระลึกถึงเหตุการณ์ร้ายนั้นซ้ำๆ 4.เฉยเมยต่อญาติและเพื่อนๆ 5.รู้สึกผิดที่ตนเองรอด ขณะที่คนอื่นตาย 6.ตกใจง่ายเมื่อเกิดอะไรผิดปกติรอบตัว เช่น ผวาอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินเสียงดัง 7.รู้สึกบ่อยๆ ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นซ้ำอีก และ 8.ไม่ยอมเข้าใกล้สถานที่หรือสถานการณ์ที่ชวนให้นึกถึงเหตุร้ายนั้นซ้ำอีก อาการของโรคพีทีเอสดีนี้ สามารถเกิดขึ้นได้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วนานกว่า 6 เดือนก็ตาม

ผลสำรวจของกรมสุขภาพจิต ในปี 56 พบคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ป่วยโรคพีทีเอสดีตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาร้อยละ 0.9 คาดขณะนี้ทั่วประเทศจะมีคนเป็นโรคนี้ประมาณ 470,000 คน โดยเฉพาะในภาคใต้ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งจากข้อมูลของ รพ.จิตเวชสงขลาฯ พบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคพีทีเอสดีที่มารับบริการ มักพบมีโรคทางจิตเวชอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ โรคซึมเศร้า, มีความคิดฆ่าตัวตาย, ใช้สารเสพติด และใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่หลังจากได้รับการรักษาเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าร้อยละ 96 อาการดีขึ้น การที่ผู้ป่วยรู้ตัวและได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างทันท่วงที จะเป็นการช่วยผู้ป่วยได้ดีที่สุด
ดังนั้น รพ.จิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ได้เผยแพร่แบบประเมินหาโรคพีทีเอสดีทางอินเทอร์เน็ต ทาง www.skph.go.th เพื่อให้ประชาชนที่เผชิญวิกฤตต่างๆ หรือเหตุการณ์ที่เลวร้ายในชีวิต ใช้ประเมินตัวเองได้จากระบบเสียงและข้อความ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็ทราบผล หากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดโรคพีทีเอสดีจะมีคำแนะนำให้พบจิตแพทย์ที่ รพ.จิตเวชทั่วประเทศ หรือปรึกษาสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง และอยู่ระหว่างพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่น เพื่อให้ความรู้ประชาชน และใช้ประเมินความเสี่ยงของตนเองได้สะดวกขึ้นทางมือถืออีกด้วย