กิรเดช เปลี่ยนใจไปคว้าแชมป์ ที่ เพิร์ธ
กิรเดช เปลี่ยนใจไปคว้าแชมป์ ที่ เพิร์ธ
“โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่ตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการโคแซงชั่นที่ออสเตรลีย สุดท้ายเอาตัวรอดมาถึงวันสุดท้ายที่ต้องเล่นแบบมาราธอนก่อนจะคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่สี่ในชีวิต ในศึกไอเอสพรเอส ฮันดะ เวิลด์ ซูเปอร์ 6 เพิร์ธ ชิงเงินรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 41 ล้านบาท
รายการนี้เป็นแมตช์โคแซงชันระหว่าง ยูโรเปี้ยน ทัวร์, เอเชี่ยน ทัวร์ และ พีจีเอ ทัวร์ ออฟ ออสเตรเลีย ใช้ระบบสโตรคเพลย์ 54 หลุมเพื่อคัดนักกอล์ฟเพียง 24 คนผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายที่จะแข่งกันในแบบแมตช์เพลย์แบบน็อคเอ้าต์ที่เล่นกันเพียง 6 หลุมต่อแมทช์ หากยังเสมอต้องเล่นแบบชู้ตเอ้าท์
ในแมทช์ชิงชนะเลิศที่ สนามเลค คาร์รินยุบ คันทรี่คลับ ในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 8 ฟุตลงไปทำให้ชนะนักกอล์ฟเจ้าถิ่น เจมส์ นิตตีย์ ชาวออสเตรเลียน 2 อัพ เหลืออีก 1 หลุมไม่จำเป็นต้องเล่น
ในรอบสโตรคเพลย์ 54 หลุมเพื่อคัดนักกอล์ฟเพียง 24 คนเข้ามาเล่นในวันสุดท้ายซึ่งจะเล่นกับแบบแมทช์เพลย์ 6 หลุมนั้น “โปรอาร์ม” กิรเดช ผ่านเข้ารอบมาเป็นคนสุดท้ายและเป็นมือวางอันดับที่ยี่สิบสี่ หรือ เป็นอันดับบ๊วยในรอบแมทช์เพลย์
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ผ่านเข้ามาในกลุ่มท็อป 24 และผมคิดว่า ผมน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงที่นี่ในสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน” กิรเดช กล่าวพร้อมรอยยิ้มระหว่างพิธีมอบรางวัลแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่สี่ให้นักกอล์ฟชาวไทย โดย กิรเดช มาถึงสนามแห่งนี้ลงแข่งขันโดยไม่ได้ฝึกซ้อมแม้แต่รอบเดียว
“ผมชอบที่จะเล่น ชอบที่จะแข่งขัน” โปรอาร์ม กล่าว “ผมพยายามที่จะชนะในทุกๆสัปดาห์ที่ลงเล่น ผมรู้ดีว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ผมจะพยายามเล่นให้ดีที่สุดในทุกสัปดาห์ที่ลงแข่ง ผมไม่คิดว่าคืนนี้จะได้นอน น่าจะมีการฉลองพร้อมกับอาหารไทยอร่อยๆ”
“โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกอล์ฟวัย 28 ปีชาวไทยแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ชอบการเล่นแบบแมทช์เพลย์ ชัยชนะในยูโรเปี้ยนทัวร์ก่อนหน้านี้ก็เป็นฟอร์แมทการดวลกันแบบตัวต่อตัวในรายการ พอล ลอว์รี แมทช์เพลย์ ที่ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อปี 2015
ในวันอาทิตย์ที่เป็นการเล่นรูปแบบแมทช์เพลย์ 6 หลุมซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของรายการนี้ กิรเดช ประเดิมรอบแรกด้วยชัยชนะ 1 อัพเหนือ เบน แอคเคิลส์ นักกอล์ฟเจ้าถิ่นชาวออสเตรเลียน แต่รอบสองต้องเล่นหลุมพิเศษอีก 5 หลุมกว่าจะชนะ ยูซูกิ มิยาซาโตะ
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ กิรเดช ชนะ แซม คร็อกเกอร์ จากสหรัฐอเมริกา 1 และชนะ ลูคัส เฮอร์เบิร์ต แบบต้องเล่นหลุมพิเศษ 1 หลุมในรอบรองชนะเลิศ จนได้เข้ามาชิงชนะเลิศกับ เจมส์ นิตตีย์ส นักกอล์ฟเจ้าถิ่นชาวออสเตรเลีย
แมทช์ชิงชนะเลิศ กิรเดช แพ้หลุมแรกหลังตีตกทราย แต่ก็มาปลดได้ที่หลุม 3 พาร์ 4 ด้วยพาร์ เข้าหลุม 4 ซึ่งเป็นหลุมพาร์ 4 สั้น นิตตีย์ โปรชาวออสเตรเลียนที่ไปปักหลักอยู่เท็กซัสสหรัฐอเมริกายังมีปัญหากับทีช็อต ขณะที่ กิรเดช ซัดวันออนก่อนขึ้นมาเก็บอีเกิ้ลระยะ 5 ฟุตลงไป ก่อนจะปิดเกมที่หลุม 5 พาร์ 3 ที่ กิรเดช พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 8 ฟุตลงไป
นับเป็นการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่ 4 ในชีวิตของ กิรเดช อภิบาลรัตน์ พร้อมรับเงินรางวัลไปครอง 269,163 เหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 6.478 ล้านบาท พร้อมขยับอันดับโลกขึ้นไปอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลกอีกครั้ง โดยขึ้นไปอยู่อันดับที่ 37 เท่ากับอันดับเดิมที่เขาเคยทำได้ดีที่สุดในอาชีพ
รายการที่เพิร์ธ กิรเดช ผู้โปรดปรานการสะสมรถซูเปอร์คาร์และนาฬิกาหรูต้องยกเลิกแผนที่ไปหยุดพักผ่อนกับภรรยา ซึ่ง กิรเดช อธิบายว่า “สองสัปดาห์ก่อนรายการนี้ผมอยู่ที่มาเลเซีย และผมโทรบอกภรรยาว่าผมอาจจ้องแข่งต่ออีก ซึ่งเธอบอกว่าให้เหตุผลดีๆมาข้อหนึ่งว่าทำไมหยุดพักไม่ได้ ผมก็เลยบอกว่ามีแฟนกอล์ฟที่นั่นเยอะมากและไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง”
“เย้ และในที่สุดสิ่งที่ผมได้รับในสีปดาห์นี้ก็คือถ้วยรางวัล ส่วนเงินรางวัลนั้นผมคิดว่าภรรยาของผมคงเก็บไว้ทั้งหมด และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงยอมให้ผมเดินทางมาแข่งขัน” กิรเดช กล่าวติดตลก
สำหรับ พรหม มีสวัสดิ์ นักกอ์ฟไทยอีกคนที่ผ่านเข้ารอบแมทข์เพลย์มาในฐานะมือวางอันดับหนึ่งด้วยชัยชนะ 2 สโตรคในรอบสโตรคเพลย์ทำให้ได้บายในรอบแรก แต่จบเส้นทางเพียงแค่รอบสองของการแข่งขันเท่านั้นหลังพ่าย ลี มินวู จากเกาหลีใต้ 2 ดาวน์