บทเรียนสำหรับการเป็นแคดดี้ทุกระดับ
บทเรียนสำหรับการเป็นแคดดี้ทุกระดับ
ปัจจุบันนี้ การไปแข่งขันกอล์ฟที่ต่างประเทศ ที่ไม่ใช่เอเชีย แทบจะไม่มีแคดดี้
หรือแม้แต่เอเชีย ยกเว้นประเทศไทย อาทิ มาเลย์เซีย เวียตนาม จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นต้น ก็มีแคดดี้จำกัด
ถ้าเด็กเล็ก ผู้ปกครองต้องเป็นแคดดี้ให้ และถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็ต้องใช้รถลาก ลากถุงเอง
ถ้าเป็นทางอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย จบเลย ถ้าต้องการแคดดี้ ต้องจ้างในราคาที่สูง
ในประเทศไทยอีกสัก 10 ปี ก็คงไม่แตกต่างกัน
รายการแข่งขันเยาวชนในประเทศไทยบางรายการ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเป็นแคดดี้ให้ได้ เพื่อเตรียมตัวไปแข่งต่างประเทศ จะได้ทำงานเข้ากันได้
แต่ถ้าเป็นรายการที่แข่งขันอาชีพ สามารถใช้แคดดี้ส่วนตัวได้ ซึ่งอาจจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อน หรือคนที่จ้างมาได้
สำหรับแคดดี้ที่ทำงานในลักษณะที่เป็นอาชีพแคดดี้ ที่บริการตามสนามกอล์ฟ จะถูกเทรนมาเพื่อบริการนักกอล์ฟอีกรูปแบบหนึ่ง คือ ต้องช่วยเข็นถุงกอล์ฟเดินตามผู้เล่นให้ทัน คลุมร่ม ช่วยบอกไลน์พัตต์ ให้ข้อมูลสนามกอล์ฟว่าตรงไหนมีน้ำ มีโอบี วางตัวตรงไหนดี หยิบขนม นมเนย ถือบุหรี่ ช่วงมองลูก ค้นหาลูกกอล์ฟ และขับรถกอล์ฟ เป็นต้น
รวมทั้งต้องดูแลสนามกอล์ฟ(กลบรายดิวิท, คราดทราย, ซ่อยรอยลูกตก..ฯลฯ)
ถ้าเป็นกรณีเป็นแคดดี้ส่วนบุคคลแล้ว ก็ทำหน้าที่ไม่แพ้กัน ต้องทำทุกอย่างที่ว่ามา
ยังมีผู้เข้าใจผิดว่า การจ้างแคดดี้ส่วนบุคคล ซึ่งอาจจะเป็นโปรที่สอนลงไปถือถุงให้ลูกนั้นจะเป็นผลดี เพื่อจะได้สอนลูกของตัวเองได้
ถ้าเป็นนักกอล์ฟเยาวชนมือใหม่ คำตอบก็คือใช่ จะได้สอนทุกๆอย่างที่นักกอล์ฟควรรู้ ควรทำ การดึงสติ รวมทั้งสอนวิธีการเล่น สอนวิธีการสวิง สอนเรื่องกฎ ข้อบังคับ มารยาทต่างๆที่ควรทำ
แต่พอโตขึ้นมา เล่นเก่งขึ้น (เก่งกว่าโปร) การสอนวิธีการเล่น สอนวิธีการสวิง จึงไม่ควรแล้ว
ยิ่งถ้ามาถือถุงให้นักกอล์ฟอาชีพด้วยแล้ว ไม่ควรมีการสอนใดๆ ควรมีแค่การให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น เช่น ระยะที่จะตีที่ต้องเพิ่มต้องลด เพราะขึ้นเนิน ลงเนิน พื้นที่ที่ควรตีไป ย้ำเตือนอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้า กระแสลม บอกข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจประกอบถ้านักกอล์ฟไม่มั่นใจในการเลือกเหล็ก การให้ไลน์บนกรีน และการดูแลสนามกอล์ฟเหมือนกับตัวเองเป็นแคดดี้ของสนาม เช่นการกลบรอยดิวิท (เป็นการส่งสารให้สนาม เหมือนกรวดน้ำ สายมูเล็กน้อย ให้สนามได้รับรู้ และตอบแทนให้นักกอล์ฟเราเล่นดี …เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา) การคราดทราย(ถ้าไม่ทำนักกอล์ฟจะถูกปรับเงินตามระเบียบที่เขียนไว้) การซ่อมรอยลูกตก
การที่โค้ช หรือโปรมาถือถุงให้นักกีฬา เป็นสิ่งที่ดีในแง่ของการเกาะติดการเล่นทุกช็อตในสนาม ทำให้รู้ข้อมูลที่ต้องกลับไปพัฒนาเพิ่มเติม การแนะนำ การให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อเกิดการเรียนรู้
แต่ไม่ได้หมายถึงว่า จะต้องไปสอนวิธีการเล่นต่างๆในสนาม แบบไม่รู้จักโต นั่นคือ ต้องบอกทุกอย่างประเภท “ขาดฉันไม่ได้”
กรณีของเด็กๆ ถ้าผู้ปกครองคิดว่า ลูกของตัวเองมีข้อใดที่เมื่อเกิดขึ้นและตีไม่ดี ก็ควรตกลงกันก่อนว่าอย่าทำ และถ้าทำแล้วจะต้องมีการจัดการก็ต้องจัดการ(เมื่อกลับบ้าน) เช่น
เมื่อเจอเพื่อนแล้ววิ่งเล่นกับเพื่อนทำให้เสียสมาธิในการเล่นของตัวเอง
การที่ตีเสียแล้วแสดงออกทางอารมณ์ ด้วยการสบถ การทุบไม้ การขว้างไม้
การเล่นไม่มีรูทีน มักเกิดขึ้นเมื่อตีไม่ดี
เป้าประสงค์ของการเขียนในครั้งนี้ คือการอยากจะบอกสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเมื่อการไปทำหน้าที่เป็นแคดดี้ ถือถุงกอล์ฟให้นักกอล์ฟ ถึงแม้จะเป็นลูกของตัวเองก็ตาม
อยากให้ข้อมูลอะไร …ให้..ก่อนตี โดยอยู่ในขอบเขตที่นักกอล์ฟควรรู้ หรือเป็นการย้ำเตือนกับสิ่งที่ตัวเองทำการบ้านมา แต่ แต่..ไม่ควรตำหนิ หลังการเล่นแต่ละช็อตที่พลาดไป โดยเฉพาะการพูดที่บอกว่า “พ่อบอกแล้ว ทำไมไม่เชื่อพ่อ” ซึ่งสิ่งนี้ต้องแยกให้ออกนะครับว่า ที่เกิดการผิดพลาดนั้น เพราะเขาไม่เชื่อ หรือ เขายังทำไม่ได้ หรือมันยากที่จะทำได้ตามที่บอก ซึ่งการพูดตำหนินั้น ไม่มีใครชอบ ยิ่งเป็นเสียงที่เข้ม ดุ ด้วยแล้ว ทำให้คนฟังหงุดหงิด อารมณ์เสียใส่กัน ส่งผลต่อการเล่นช็อตต่อๆ ไป
พอลูกตีไม่ดี ตีผิดพลาด ก็แสดงสีหน้า ท่าทาง และคำพูด เชิงตำหนิแล้ว และมีการขู่ต่างๆนาๆ เช่น “เล่นแบบนี้เลิกเล่นดีกว่า” หรือ “กลับไปบ้านจะต้องถูกชำระ ถูกจัดการ” เป็นสิ่งที่บั่นทอนความสุข ความมั่นใจ ทำให้เสียสมาธิ ซึ่งเรื่องจริง คือ ทุกคนที่เล่นกอล์ฟพอลงสนามแล้วไม่มีใครอยากตีเสีย อยากตีให้ดี ให้ตรง ให้ไกล อยากพัตต์ให้ลง ทุกคน แต่ต้องดูความสามารถ ดูทักษะด้วย ว่า ต้นทุนทำมาได้แค่ไหน ซ้อมา 50 แต่จะให้ผลงานเป็น 100 มันจะได้ไหม
การลงโทษต่างๆ ตั้งแต่เบาไปหาหนัก
เบา ก็คือตำหนิด้วยคำพูด หน้าตา อาการ หรือการนิ่งเงียบไม่พูดด้วย
หนัก คือการลงโทษด้วยการหยิก การทุบ ตี ฟาดด้วยไม้กอล์ฟ เป็นต้น
ผมเองได้บอกผู้ปกครองเสมอๆ ว่า
คนเล่นกอล์ฟไม่มีใครอยากตีเสีย อยากทำสกอร์ให้ดีทุกคน อยากเป็นแชมป์ทุกคน แต่กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาแห่งความผิดพลาด ใครพลาดน้อยคือผู้ชนะ และไม่มีใครที่จะไม่มีพลาดเลย
กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ยาก ลูกเล็ก ไม้ที่จะตีมันเล็ก ตำแหน่งที่ลูกอยู่ไม่ราบเรียบเหมือนในสนามไดร์ฟ ลูกอยู่บนหญ้าที่ยาวไม่เท่ากัน หรืออาจจะไม่มีหญ้า สนามสั้นยาวไม่เท่ากัน กรีนไม่ได้เรียบ ในสนามมีกระแสลม ความสามารถขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมการเรียนรู้มา และสมาธีของคนเราไม่ได้ควบคุมได้ง่ายๆ
ถ้าอยากรู้ว่ามันยากแค่ไหน ผู้ปกครองช่วยมาหัดตีกอล์ฟเอง ลองไปออกรอบดู ลองลงแข่งขันเอง แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่ว่า สิ่งที่ตำหนิ ลูกนั้น ไม่ได้ครึ่งความห่วยของตัวเอง
สรุปสิ่งที่ควรทำสำหรับการเป็นแคดดี้ให้ลูกของตัวเอง คือ การทำตามหน้าที่ของคำว่า แคดดี้ ให้ครบบริบูรณ์ ตามที่เขียนมาข้างต้น และทำหน้าที่เหมือนแคดดี้ที่อยู่สนามกอล์ฟทั่วไป คือ เมื่อผู้เล่นตีไม่ดี เขาจะไม่มีสิทธิ์พูด วิพากษ์ วิจารณ์อะไรกับนักกอล์ฟทั้งสิ้น มีแต่สิ่งที่ให้คือ กำลังใจ รอยยิ้ม และกริยาท่าทางที่ยังคงรักและเป็นมิตร ไม่ใช่เป็นยักษ์เป็นมาร
นั่นคือผลดีที่จะทำให้ลูกคุณมีความสุขอยู่กับการเล่นกอล์ฟต่อไป ถ้าคุณเป็นยักษ์เป็นมาร นั่นเท่ากับว่า คุณกำลังผลักไสให้เขาเลิกเล่นกอล์ฟ ไม่ชอบกอล์ฟเร็วขึ้นๆ และจะเลิกเล่นในที่สุด โปรดจำไว้
ผมเจอมามามากในชีวิตของการสอนกอล์ฟของผม 20 กว่าปี
กล้าจะพูดได้เลยว่า ไม่มีใคร(ไม่เคยเห็น) ประสบความสำเร็จ แม้แต่เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ถ้ามีพ่อแม่เข้าข่าย เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นคนช่างติ ช่างตำหนิ
หรือลูกจะสำเร็จบ้าง แต่ครอบครัวแตกแยก ขาดความอบอุ่น ขาดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในสถาบันครอบครัว
โปรเชาวรัตน์ เขมรัตน์


