ทำโรงเรียนสอนกอล์ฟคงรวยแบบจุกๆ
ทำโรงเรียนสอนกอล์ฟคงรวยแบบจุกๆ
มาถึงบัดนี้ ผมคิดว่ามีคนเข้าใจผิดว่าผมนี้คงรวยแบบจุกๆ กับการทำโรงเรียนสอนกอล์ฟ โดยเฉพาะเห็นเปิดหลายสาขา
ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณกับคำพูดที่ดีๆ เป็นคำอวยพรที่ส่งเสริมอย่างมาก ขอรับคำพูดที่เป็นมงคลนั้นเข้าสู่อ้อมอกอ้อมใจ ถึงแม้ความจริงจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น
ขอชี้แจง ว่า โรงเรียนที่ผมทำนั้น มันไม่ได้ถึงกับรวยแบบจุกๆ ครับ แค่พอเอามาใช้ในชีวิตแบบไม่ได้ขัดสน โชคดีมีภรรยาเลี้ยงตัวเองได้ และช่วยกันเลี้ยงดูลูก จะเปลี่ยนรถใหม่สักคันคิดแล้วคิดอีก คิดมา 5 ปีแล้วก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ยังใช้รถเก่าเกิน 10 ปี ทุกคัน มี 2 คัน กำลังเดินทางเข้าสู่ 20 ปี (มี 3 คัน ใช้กับภรรยาคนละคัน และคันหนึ่งเป็นรถตู้) ทั้ง 3 คัน ถ้าไฟแนนซ์รับซื้อราคาไม่กี่หมื่นบาท
ส่วนลูกก็โชคดีได้พึ่งหน้าที่การงานของแม่ ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่ค่าเรียนถูกปีหนึ่งจ่ายไม่ถึงสองแสน ไม่มีปัญญาให้ลูกเรียนอินเตอร์ที่ราคาเกือบล้านต่อปี และใกล้ที่ทำงานแม่ไม่ต้องลำบากเดินทางไกล
และเชื่อว่าการทำโรงเรียนพิเศษทั้งหลาย ไม่ว่าจะสอนภาษา สอนกีฬา ก็คงไม่ได้เหลือได้รวยอะไรกันมากมาย
เพราะโรงเรียนพิเศษเหล่านี้ ลูกค้าจะมาตอนเลิกเรียน เลิกทำงานหลัง 16.00 น.ถึงเต็มที่ 20.00 น. และวันหยุดเท่านั้น ช่วงเช้าว่างกัน ปัญหามันจึงเป็นเรื่องของเวลา ที่ไม่ได้มีลูกค้าตั้งแต่เช้า
และโรงเรียนสอนกอล์ฟจะพิเศษกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ คือ จะสอนตัวต่อตัวเป็นส่วนมาก เนื่องจากสถานที่มีจำกัด ไม่เหมือนกีฬาอย่างอื่นที่ครูหนึ่งคนจะสอนผู้เรียนหลายคนได้
ส่วนค่าใช้จ่ายของพวกผม โดยเฉพาะค่าตีกอล์ฟ ค่าออกรอบก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้รับการยกเว้นแต่อย่างใด ไปออกรอบทีก็ 2 พันขึ้นไป เท่ากับเงินที่สอนประมาณ 2 ครั้งแล้ว
“ก็โปรเปิดตั้งหลายสาขา ไม่ดีแล้วจะเปิดทำไม”
คำถามนี้ ถ้าเป็นคนทำธุรกิจโดยทั่วไปก็คงจะคิดกันแบบนั้น ว่าเปิดโรงเรียนก็หวังให้เป็นธุรกิจ ไม่เป็นธุรกิจจะทำทำไม
ซึ่งด้วยเหตุผลนั้นคงไม่ใช่ความคิดของผม ไม่ได้คิดเรื่องธุรกิจก่อน แต่มันมาจาก…
ความต้องการและความไว้วางใจเจ้าของสถานที่ให้เราอยากไปร่วมเป็นพาร์ทเนอร์
ผมต้องการไปเพิ่มโอกาสให้ผู้คนได้เรียนกอล์ฟเพิ่มมากขึ้น ต้องการเพิ่มประชากรกอล์ฟ
ผมมีคนสนใจเข้ามาเป็นทีมงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีสถานที่เพิ่ม
คำว่าธุรกิจสำหรับผมแล้วมันมาทีหลัง ซึ่งมันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดกำไร…แต่ผมก็จะทำมัน
รวมทั้งด้วยนิสัยส่วนตัวแล้วชอบทำอะไรใหม่ๆตลอดเวลา เพื่อประโยชน์ขององค์กร และเพื่อเด็กๆให้มีประสบการณ์กับกอล์ฟเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลกำไรมากนัก บางกิจกรรมก็ขาดทุน ต้องเสียเวลา เสียพลังงาน แต่ก็จำเป็นต้องทำ เช่นการจัดการแข่งขัน จำเป็นต้องทำ ถ้าเด็กไม่ครบก็ขาดทุน
อีกกิจกรรมหนึ่งที่ผมทำมาตลอดคือการให้โอกาสเด็กๆ ที่ครอบครัวไม่ได้มีเงินมาก ตั้งแต่สอนฟรี หางบประมาณสนับสนุน พาไปแข่งขัน ให้แข่งขันในรายการของเราฟรี ซึ่งล้วนแล้วต้องใช้เงินมาก ปีหนึ่งๆหมดไปเยอะ
และตอนนี้ลูกสาวผมก็เล่นและแข่งขันกอล์ฟ ขนาดที่ไม่ได้ไปแข่งขันทุกรายการ แค่เลือกแมทช์แข่ง ก็ยังต้องใช้เงินมาก แถมไม่ได้สอนลูกศิษย์คนอื่นด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมากพอสมควรอยู่ในสถานะนี้ที่เป็นพ่อและโปรสอนกอล์ฟ
สรุปคือ เราต้องหาเงินไปให้สนามกอล์ฟค่าสนาม ค่าอาหาร หาเงินให้แคดดี้ สั่งถ้วยรางวัล แต่เหลือเงินเพื่อกำไรไม่มาก ถ้าเผื่อกำไรมากก็ต้องแพง พอแพงก็ต้องเปรียบเทียบกับรายการแข่งขันอื่นๆ
การเพิ่มสาขามันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงินก็ลงทุนเพิ่มไปเรื่อยๆ มันก็เลยไม่เคยมีเงินเหลือที่จะมีโอกาสให้คำว่ารวย
แต่ที่ผมทำคือ มันมีความสุข มีความหวัง และไม่รู้จะไปทำอะไรที่ไม่ถนัด ต้องทำต่อไปครับ
โปรเชาวรัตน์ เขมรัตน์




