ศึกนอกไม่หนักใจเท่าศึกในที่ยืดเยื้อกันมานาน
ศึกนอกไม่หนักใจเท่าศึกในที่ยืดเยื้อกันมานาน
จากการที่ติดตามข่าว “เขมรกับไทย” มาเป็นระยะๆ ทำให้เราเริ่มปะติดปะต่อภาพเข้าด้วยกันได้ชัดเจนมากขึ้น ภาพที่เกิดขึ้นมันมีโยงใยมาถึงบรรดานักการเมืองที่เคยเข้านอกออกใน “เขมร” อยู่เป็นประจำหรือบรรดาบ่อนการพนันที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดยามฝนพรม เพราะรอบๆ บ้านเราทุกประเทศล้วนมีการพนันเกิดขึ้นกันทั้งนั้น แต่สุดท้ายปลายทางผู้คนที่เป็นเจ้าของประเทศไม่เห็นเขาจะร่ำจะรวยขึ้นมาสักปานไหนในทางตรงกันข้ามผู้คนกลับจนกรอบเข้าไปทุกวี่ทุกวัน อันบรรดาสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนกลับแพงแบบไม่น่าเชื่อนี่คือราคาของพื้นฐานของบ้านเรา เอาแค่ “มาม่า” นี่แหละอย่าให้หลุดไปรอบบ้านเราเด็ดขาดราคาจะถีบตัวขึ้นไปหลายเท่าตัว
จากอดีตที่ย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีกองทัพไทยเคยตะลุยเข้าไปในประเทศ “กัมพูชา” ลึกหลายกิโลเมตรเล่นเอาแม่ทัพนายกกองของไทย “แป๊ก” ไปหลายคน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเราก็ทำมาแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่า “การที่เราเอาการเมืองนำกองทัพ” นโยบายแบบนี้ถึงเวลาหนึ่งเมื่อนักการเมืองที่คิดทรยศต่อประเทศชาติมันต้องได้รับผลกรรมที่ทำมา เพราะแทนที่จะปูนบำเหน็จรางวัลแก่แม่ทัพนายกองเหล่านั้น มันกลับกลายเป็นความไม่ถูกต้องไปฉิบ แล้วแบบนี้บรรดาขุนพลน้อยใหญ่มันจะมีกะจิตกะใจไปสู้รบตบมือกับใครเขา นี่ขนาดคราวนี้แม่ทัพภาคสองเจอเขมรลองดีเลยสอยไปเสียศพหนึ่ง ผู้นำประเทศทำว่าเราฆ่าคนของเขาไปเรือนหมื่น…
ลองย้อนกลับไปไม่ต้องนานนักหรอก “คนเขมรสมัยนั้นโดนฆ่าโดนแกงเป็นล้านๆ” ทำไมไม่มีใครสนใจแล้วคนที่เป็นผู้นำพามาก็คือผู้นำประเทศคนที่เราเห็นหน้าเห็นตาอยู่เวลานี้นั่นเอง คนไทยเราเนี่ยนะ “รักใครรักจริงใจแต่ถ้าเกลียดขึ้นมาเมื่อไหร่หล่ะก็ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกันเลยทีเดียว” ถึงแม้จะเป็นญาติที่คลานตามกันก็เถอะ แต่นี่กับเขมรที่ประเทศอื่นเขาสาปส่งแต่เรายังกอดคอเป็น “สหาย” กันอยู่เพียงเพราะไทยเรายังมีความสงสารผู้คนของเขาอยู่ข้อแรก ส่วนอีกข้อบรรดานักการเมืองที่มีส่วนได้ส่วนเสียในวงการระยำตำบอนยังคงไม่ยอมให้ไทยปล่อยมือจากเขมรนั่นเอง…
ด้วยเหตุผลสองข้อนี้ก็พอจะเดาได้ว่านโยบาย “การเมืองนำกองทัพ” มันไม่น่าตอบโจทย์กับประเทศไทยของเราเท่าใดนัก การที่บ้านเรายังลืมตาอ้าปากได้อยู่นั้นมันไม่มาจากนักการเมืองแต่มันมาจาก “ระบบการทำงานภายในทั้งราชการและเอกชนที่เขามากันมานาน” เอาจริงก็คือใครจะมาจะไปก็ช่างหัวมันขอให้ระบบเราเดินอยู่ได้เป็นพอแม้บางทีอาจไม่ได้ถูกใจใครหลายคนแต่ก็ต้องทนกันไปเพราะ “ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนักครับท่าน
ครูไก่