ถึงเวลาที่ต้องแบ่งปัน
ถึงเวลาที่ต้องแบ่งปัน
ใครจะทราบว่าเวลาที่ทำงานถึงอายุ 60 ปีแล้วต้องเจอกับคำว่าเกษียณอายุการทำงาน สุดท้ายงานทุกอย่างก็ปิดจบลงใครที่มีการวางแผนดำเนินชีวิตไว้ก่อนหน้ามันก็พอรับได้แต่ถ้าไม่สามารถทำใจได้แล้วคิดว่าตัวเองหมดสภาพแบบนี้ต้องรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรีบปรับความคิดให้เป็นปกติ ส่วนท่านใดที่ยังคงอยู่กับงานมีรายได้และมีทุกอย่างเกือบครบดังนั้นรายได้ที่มีเข้ามามันคือ “โบนัส” ของชีวิต ที่ว่าเป็นโบนัสเพราะเราทำงานหามรุ่งหามค่ำซื้อนั่นผ่อนนี่จนสิ่งนั้นต่อสิ่งนี้กว่าจะครบถ้วนตามควมอยากผมเผ้าขาวเป็นดอกเลา แล้วรายได้ที่เข้ามาจะนำไปทำอะไรได้บ้าง…
หากรายได้ที่มีมาจะนำไปใช้ในการลงทุนเพิ่มในกิจการได้กิจการหนึ่งก็คงไม่แปลกหากมีความรู้ความเข้าใจอยู่บ้าง แต่ถ้าจะลงทุนตามลมปากเพื่อนหรือคนใกล้ชิดจงขอให้คิดมากๆ เพราะคนรอบตัวครูไก่เห็นว่าได้เงินได้ทองจากอายุงานมาจำนวนหนึ่งสุดท้ายนำไปลงทุนตามลมปากเพื่อนสรุปว่าเงียบสนิทเงินสะสมรวมอะไรต่อมิอะไรก็เกือบ 5 ล้าน มันหายไปกับการลงทุนกับลม แต่เป็นลมปากของคนเราด้วยกันเอง
ครูไก่เองแม้อายุอานามจะเลยเกษียณมานานแล้วก็ตาม แต่การช่วยเหลือกิจกรรมการแบ่งปันผมทำการนี้มานานแล้วครับไล่เรียงมาตั้งแต่อายุ 30 ต้นๆ ใครขาดเราก็เสริมใครลำบากเราก็แบกใครทุกข์เราก็พยายามหาความสุขมาคืนเขาให้ได้ การสละเงินทองเพื่อใครก็ตามในรูปแบบของการศึกษาหรือสถานที่ซึ่งควรจะมีไว้เพื่อชุมชนถึงแม้ประโยชน์ใดๆ จะไม่เกิดแก่เราเลยในรูปแบบของการส่งคืน ก็อย่านึกถึงนะครับการให้แบบไม่ต้องการสิ่งตอบแทนนี้แหละคือที่สุดของการให้…
จากการให้หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นกับงานด้วยกันเองหรือเป็นสถานที่เพื่อชุมชนผมเลือกที่จะให้แล้วให้เลยมีเพียงเงี่ยหูฟังอยู่ห่างๆ จากนั้นก็มองหาผู้ทุกข์ยากรายต่อไปเพราะครูไก่จะช่วยใครก็ให้มองที่การศึกษาก่อนอื่นเสมอ คนที่เป็นผู้ปกครองต้องออกแรงก่อน ถ้าไม่ทำแบบนี้การส่งผ่านของความช่วยเหลือมันจะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด
นี่แหละครับวันหนึ่งเมื่อเราพอมีพอใช้แล้วมีการแบ่งปันสิ่งแรกที่เราจะได้รับคือความสุขที่มาจากการให้ใจเราจะฟูความสุขแบบนี้ปัจจุบันบ้านเราเมืองเรายังมีอยู่มากถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน เรื่องราวแบบนี้หากใครก็ตามที่พอมีแรงเราช่วยกันนะครับมากน้อยก็ว่ากันไปเขาลืมตาอ้าปากได้เมื่อใดก็โอเคแล้วครับ….
ครูไก่

