Golf NEWS

ฮอฟแลนด์ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่เจ็ดแบบงงๆ

ฮอฟแลนด์ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่เจ็ดแบบงงๆ

วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ นักกอล์ฟหนุ่มจากนอร์เวย์ คว้าแชมป์วัลสปาร์ แชมเปียนชิพ มาครองโดยที่เจ้าตัวยังงงว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในการแข่งขันพีจีเอทัวร์ ชิงเงินรางวัลรวม 8.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อินนิสบรูก รีสอร์ต ในปาล์มฮาร์เบอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

นับตั้งแต่คว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ เมื่อปี 2023 เป็นต้นมา วงสวิงของ ฮอฟแลนด์ ก็มีปัญหาจนเขาต้องเปลี่ยนโค้ชมาแล้วถึง 5 คน และก่อนหน้านี้เขาลงเล่นมา 8 เดือนโดยไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้เลย ทำให้เขาเสียความมั่นใจจนกระทั่งไม่แน่ใจว่าจะสามารถลงเล่นรายการนี้ได้หรือไม่

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ถือเขาสามารถตีช็อตระดับเวิลด์คลาสช็อตแล้วช้อตเล่า โดยเฉพาะการตีด้วยเหล็กเจ็ดจากระยะ 186 หลาข้ามบังเกอร์ ซึ่งลูกขึ้นไปออนห่างธงเพียง 5 ฟุตที่หลุม 16 อันเป็นหลุมที่ยากที่สุดของ คอปเปอร์เฮดคอร์ส

ตอนที่เหลือ 5 หลุมสุดท้ายของการแข่งขันนั้น ฮอฟแลนด์ ตามหลังอยู่ 3 สโตรก ก่อนที่หนุ่มนอร์เวย์จะไล่กดดันด้วยการทำ 3 เบอร์ดี้ติดต่อกันแซงหน้า จัสตัส โธมัส นักกอล์ฟอเมริกัน ไปจบสกอร์รอบสุดท้าย 4 อันเดอร์พาร์ 67 พร้อมแซงคว้าชัยชนะ 1 สโตรก

“ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ผมค่อนข้างมีปัญหากับฟอร์มการเล่น ดังนั้น การคัมแบ็กกลับมาคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก” ฮอฟแลนด์กล่าว “ตอนที่จะเข้าสัปดาห์นี้ผมไม่ได้มีความหวังมากนัก นี่แสดงให้เห็นว่าเกมกอล์ฟนี่มันบ้าจริงๆ แต่ผมก็ดีใจที่ทำได้สำเร็จ”

ฮอฟแลนด์ ไม่ได้บอกว่าเกมของเขากลับมาเข้าที่เข้าทางแล้วในการเล่นสัปดาห์นี้ ยังมีหลายช็อตที่ผิดพลาด และหลายครั้งที่เขารู้สึกว่าตำแหน่งของหน้าไม้อยู่ผิดที่ผิดทาง ซึ่งทำให้เขาต้องแก้ปัญหามาตลอดทาง แต่เขากลับพบว่าวงสวิงกลับมาทำงานได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ยากที่สุดของสนามอินนิสบรูก

“จริงๆ แล้ว ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะทำได้ในสัปดาห์นี้” ฮอฟแลนด์ กล่าว

สถานการณ์ยังคงดูสิ้นหลังแม้ว่า ฮอฟแลนด์ และ โธมัส จะฉีกหนีออกจากกลุ่มใหญ่ ซึ่งช่วงหนึ่งของการเล่นในรอบสุดท้ายมีผู้เล่นอย่างน้อย 9 คนขึ้นไปนำการแข่งขันร่วมกัน

ฮอฟแลนด์ ยังคงตามหลัง โธมัส 3 สโตรก หลังจากเขาพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 12 ฟุตลงไปที่หลุม 14 พาร์ 5 แต่หลังจากนั้นนักกอล์ฟจากนอร์เวย์กลับรีดผลงานยอดเยี่ยมออกมา เริ่มด้วยการตีแอพโพรชช็อตด้วยเหล็กเจ็ดขึ้นไปจี้ธงที่หลุม 16 ซึ่งเป็นหลุมที่ยากสุดของคอปเปอร์เฮดคอร์ส ลูกขึ้นไปออนห่างธง 5 ฟุต

ที่หลุม 17 พาร์ 3 ซึ่งธงเจาะอยู่ด้านหลัง แต่ ฮอฟแลนด์ ก็เล็งธงก่อนที่ลูกจะขึ้นไปออนห่างธง 12 ฟุตที่เขาขึ้นไปพัตต์เก็บเบอร์ดี้สำเร็จ ทำให้คะแนนรวมตามหลัง โธมัส เหลือเพียง 2 สโตรก

โธมัส เองก็ทำให้งานของ ฮอฟแลนด์ง่ายขึ้น ในช่วงเก้าหลุมหลัง โธมัส ทำ 4 เบอร์ดี้ในช่วงห้าหลุมที่ทำให้เขานำหน้า 3 สโตรกตอนเดินลงจากกรีนหลุม 15 แตที่หลุม 16 เขาเลือกที่จะใช้ไดรเวอร์ทีช็อตออกมาซึ่งลูกพุ่งเข้าไปในกลุ่มต้นไม้ที่เขาไม่มีทางเลือกต้องชิพกลับมาในแฟร์เวย์ โธมัส ต้องเล่นอัพแอนด์ดาวน์จากบังเกอร์ก่อนจบหลุมด้วยสกอร์โบกี้

ฮอฟแลนด์ ไล่ โธมัส ทันด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 16 และโธมัสไปเจอกับปีญหาอีกครั้งที่หลุม 18 ซึ่งเขาทีช็อตไปตกรัฟหนาทางด้านซ้าย ที่สุดออกโบกี้ โดย โธมัส ที่มี 7 อันเดอร์พาร์ ตอนที่ผ่านไป 15 หลุม สุดท้ายเขาจบรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 66

ฮอฟแลนด์ ซึ่งนำ 2 สโตรกก่อนเล่นหลุมสุดท้าย เล่นเซฟอย่างเต็มที่แม้จะออกโบกี้แต่เพียงพอจะคว้าชัยชนะ โดยนักกอล์ฟจากนอร์เวย์จบสี่วันด้วยสกอร์ 11 อันเดอร์พาร์ 273 คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่เจ็ดในอาชีพพร้อมกลับมาอยู่ในสิบอันดับแรกของโลกอีกครั้ง

ก่อนหน้าจะลงเล่น วัลสปาร์ แชมเปียนชิพ ฮอฟแลนด์ ตกรอบ 3 รายการติดต่อกัน รวมถึงการทำสกอร์ 80 ในรอบแรกของรายการ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ 1 สัปดาห์ก่อนรายการนี้ โดยครั้งหลังสุดที่เขาผ่านเข้ารอบได้นั้นเกิดขึ้นในรายการ สกอตติช โอเพ่น ในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

แล้วทำไมจู่ๆ มาคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ซึ่ง ฮอฟแลนด์ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร”

“ผมตีช็อตแย่ๆ ออกไปหลายครั้งมาก แต่โชคดีมันไปอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเล่นได้” ฮอฟแลนด์ กล่าว “แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือผมสามารถตีช็อตดีๆ ออกไปได้บ่อยครั้งมาก”

ทางด้าน ยาค็อป บริดจ์แมน ซึ่งนำร่วม 3 คนก่อนสตาร์ตรอบสุดท้าย และต้องการตีลงหลุมจากแฟร์เวย์หลุม 18 เพื่อยืดเกมออกไปถึงช่วงซัดเดนเดธเพลย์ออฟ แต่สุดท้ายจบด้วยพาร์และอยู่อันดับสามแต่เพียงผู้เดียว

สรุปผลวัลสปาร์ แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 71)
273 วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ (นอร์เวย์) 70-67-69-67
274 จัสติน โธมัส​ (สหรัฐฯ) 73-70-65-66
275 ยาค็อป บริดจ์แมน (สหรัฐฯ) 67-69-70-69
276 บัด เคาลีย์ (สหรัฐฯ) 71-70-69-66
276 บิลลี ฮอร์สเชล (สหรัฐฯ) 69-71-69-67
276 เรียว ฮิซาซึเน (ญี่ปุ่น) 71-66-71-68
277 เดวิส ไรลีย์ (สหรัฐฯ) 69-70-69-69
278 เซมัส พาวเวอร์ (ไอร์แลนด์) 70-72-70-68
278 ลูคัส โกลเวอร์ (สหรัฐฯ) 70-71-69-68
278 คอรีย์ คอนเนอร์ส (แคนาดา) 71-69-69-69
278 เชน ลาวรี (ไอร์แลนด์) 71-67-70-70