Golf NEWS

รอ 5 ปี ‘แม็คนีลีย์’ ผงาดแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรก

รอ 5 ปี ‘แม็คนีลีย์’ ผงาดแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรก

มาเวอริก แม็คนีลีย์ หนุ่มอเมริกันได้เรียนรู้มา 5 ปีเต็มบนสังเวียนพีจีเอทัวร์ว่าการพยายามจะคว้าชัยชนะมาครองนั้นถูกออกแบบมาให้ต้องอยู่ในสภาพที่กดดันมากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้

ตอนที่ยืนอยู่กลางแฟร์เวย์หลุม 18 ในบ่ายวันอาทิตย์ของศึกพีจีเอทัวร์ รายการอาร์เอสเอ็ม คลาสสิก ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในสถานการณ์ที่มีผู้นำร่วมกัน 4 คนรวมถึง ลุก แคลนตัน นักกอล์ฟสมัครเล่นซึ่งเป็นนักศึกษาปี 2 ของ ฟลอริดา สเตต ไม่มีเหตุผลใดที่ แม็คนีลีย์ หนุ่มวัย 29 ปีที่กำลังลุ้นแชมป์แรกจะไม่กดดัน

ก่อนจะถึงหลุมสุดท้าย แม็คนีลีย์ ไม่มีเบอร์ดี้แม้แต่หลุมเดียว ช็อตนี้จากระยะ 185 หลา เขาเลือกเหล็กหก เหล็กที่สามารถที่จะสามารถตีได้ระยะ 120 หลาจนกระทั่งถึง 240 หลา ในสภาพที่ลมแรงจัดและอากาศหนาว

แม็คนีลีย์ เล่นช็อตแอพโพรชได้อย่างสมบูรณ์แบบลูกวิ่งเข้าหาธงและหยุดห่างหลุมประมาณ 5 ฟุตก่อนที่เขาจะขึ้นไปพัตต์เบอร์ดี้ลงไปสำเร็จ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกมาครองหลังลงเล่นมา 134 รายการโดยปราศจากชัยชนะ

การคว้าแชมป์รายการนี้ส่งให้ แม็คนีลีย์ ไปเล่นในแมตชเปิดฤดูกาลที่ฮาวาน พร้อมสิทธิลงเล่นรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ อย่าง เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสตา เนชันแนล ในเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “จะเป็นโมเมนต์ที่ผมจะไม่มีวันลืม”

ชัยชนะส่งให้ แม็คนีลีย์ จะได้สิทธิเข้าไปเล่นในรายการใหญ่ชิงเงินรวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 3 รายการในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 เปิดฉากด้วยรายการ เดอะ เซนทรี ที่คาปาลัว รวมถึงการจะได้เล่น เดอะ มาสเตอร์ส เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย

แดเนียล เบอร์เกอร์ พลาดเบอร์ดี้ระยะประมาณ 20 ฟุตบนกรีนหลุม 18 ที่ทำให้ แม็คนีลีย์ คว้าแชมป์ไปครอง ส่วน เบอร์เกอร์ จบอันดับสองร่วมกัน นิโก เอชาบาร์เรีย และ แคลนตัน โดยก่อนหน้านั้นทั้งคู่พลาดพาร์พัตต์ระยะประมาณ 8 ฟุตจนทำให้เกิดสถานการณ์นำร่วม 4 คน

การจบอันดับสองร่วมทำให้ เบอร์เกอร์ ขยับขึ้นไปอยู่ใน 125 อันดับแรกเพื่อจะลุ้นที่จะรักษาพีจีเอทัวร์คาร์ดเอาไว้ให้ได้

ขณะที่ เฮนริก นอร์แลนเดอร์ ที่เมื่อปีที่ผ่านมาจบอันดัล 126 บนตารางเฟดเอ็กซ์คัพ ทำผลงานในช่วงสุดสัปดาห์ด้วยสกอร์ 63 และ 68 ตามลำดับ ทำให้เขาและ เบอร์เกอร์ เป็นเพียง 2 คนที่สามารถขยับขึ้นไปอยู่ใน 125 อันดับแรกได้

ส่วน โจเอล ดาห์เมน ซึ่งก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์อยู่อันดับ 124 ซึ่งเขาต้องพัตต์เซฟพาร์ระยะ 5 ฟุตที่ทำให้ผ่านเข้ารอบที่สกอร์ตัดตัวพอดี และในรอบสุดท้ายทำอีเกิ้ลจากระยะ 113 หลาด้วยแซนด์เวดจ์ในช่วงต้นก่อนจบรอบ 6 อันเดอร์พาร์ 64 เพียงพอที่จะรักษาอันดับ 124 บนตารางไว้ได้

“เป็นสองช่วงเวลาที่กดดันมากที่สุดในอาชีพของผม และผมแสดงให้เห็นแล้วว่าในที่สุดก็ก้าวผ่านมาได้” ดาห์เมน กล่าว

ทางด้าน แคลนตัน ขาดไปเพียงสโตรกเดียวที่จะขึ้นไปทาบ นิก ดันแล็ป ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นที่สามารถคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ในปีนี้ โดย แคลนตัน ซึ่งเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นมือหนึ่งของโลกจบอันดับสอง 2 รายการ และจบท็อปเทนทั้งหมด 4 รายการ จากการลงเล่นพีจีเอทัวร์ 7 รายการใน 5 เดือนที่ผ่านมา

เป็นอีกรายการที่ แคลนตัน ลุ้นได้ถึงแชมป์ เขาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 14 และหลุม 16 จนขยับขึ้นไปเป็นผู้นำร่วม ก่อนแอพโพรชช็อตที่หลุม 18 ไปตกบังเกอร์ ระเบิดขึ้นมาเหลือระยะ 7 ฟุตแต่พัตต์เซฟพาร์ไม่ลงก่อนจบรอบ 4 อันเดอร์พาร์ 66

“แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะยอมรับกับเรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาเสียโบกี้ที่หลุมสุดท้าย” แคลนตัน กล่าว “แต่ผมคิดว่ามันพิสูจน์ให้เห็นว่าผมสามารถที่จะคว้าชัยชนะได้ ดังนั้น ผมจึงต้องกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อจะกลับมาชนะให้ได้”

สำหรับ เอชาบาร์เรีย ซึ่ง 1 เดือนก่อนหน้านี้เพิ่งคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาครองจากการแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ในรอบสุดท้ายของรายการนี้เขาไม่เสียโบกี้เลยจนกระทั่งหลุม 18 ที่เขาชิพขึ้นมาออนห่างธง 9 ฟุตและพัตต์เซฟพาร์ได้แค่เลียปากหลุม

ไมเคิล ธอร์บียอร์นเซน เป็นอีกคนที่ลุ้นอยู่ใน 125 อันดับแรกบนตาราง ซึ่งเขาทำได้ดีจนกระทั่งมาตีตกน้ำที่หลุม 15 พาร์ 5 ออกโบกี้ จากนั้นเซฟพาร์ 3 หลุมรวดและจบรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์พาร์ 69 จบอันดับแปดร่วมและอยู่อันดับ 129 บนตารางเฟดเอ็กซ์คัพ

สรุปผลอาร์เอสเอ็ม คลาสสิก (สนามพาร์ 70)
266 มาเวอริก แม็คนีลีย์ (สหรัฐฯ) 62-70-66-68
267 ลุก แคลนตัน (สหรัฐฯ) 68-65-68-66
267 นิโก เอชาบาร์เรีย (โคลอมเบีย) 67-67-68-65
267 แดเนียล เบอร์เกอร์ (สหรัฐฯ) 71-66-63-67
268 เจ.ที.พอสตัน (สหรัฐฯ) 70-71-64-63
268 ลี ฮอดเจส (สหรัฐฯ) 69-63-69-67
268 แม็คเคนซี ฮิวก์ส (แคนาดา) 68-67-65-68
269 ไมเคิล ธอร์บียอร์นเซน (สหรัฐฯ) 64-69-67-69
269 แพทริก ฟิชเบิร์น (สหรัฐฯ) 67-64-69-69
269 วินซ์ เวลีย์ (สหรัฐฯ) 67-68-63-71